สรุปด้วย AI(O) BOT

## บทสรุปผลประกอบการปี 2567 ของ IROYAL: การเติบโตที่มาพร้อมความท้าทาย

บริษัท อินเตอร์รอแยล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ IROYAL ได้รายงานผลประกอบการปี 2567 โดยมีกำไรสุทธิ 59.1 ล้านบาท ลดลง 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้กำไรจะลดลง แต่บริษัทฯ สามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิเป็น 30.91% จาก 25.76% ในปี 2566 ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนและส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น

**ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567**

* **รายได้รวม:** บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 150.47 ล้านบาท และรายได้จากการขายพร้อมติดตั้ง 26.14 ล้านบาท รายได้จากการขายใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า แต่รายได้จากการขายพร้อมติดตั้งลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 79.41% เนื่องจากงานใหม่ยังไม่รับรู้รายได้ในปีนี้
* **กำไรขั้นต้น:** แม้รายได้จากการขายพร้อมติดตั้งจะลดลง แต่กำไรขั้นต้นจากการขายเพิ่มขึ้น 4.77% เป็น 76.24 ล้านบาท เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมผลิตภัณฑ์ (Product Mix) ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น
* **ค่าใช้จ่าย:** ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 19.70% เป็น 26.61 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนพนักงาน การจ้างงาน และค่าบริการที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์เพื่อเตรียมนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
* **สินทรัพย์และหนี้สิน:** สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 280.38% เป็น 753.77 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด รวมถึงสินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่น หนี้สินรวมเพิ่มขึ้นเป็น 257.69 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินตามสัญญา โดยส่วนใหญ่เป็นเงินรับล่วงหน้าจากลูกค้าใหม่ในธุรกิจสื่อสาร
* **กระแสเงินสด:** กระแสเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน 137.20 ล้านบาท จากกำไรสำหรับงวดและการเพิ่มขึ้นของหนี้สินที่เกิดจากสัญญา กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน 382.21 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการจ่ายซื้อสินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่น กระแสเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมจัดหาเงิน 274.37 ล้านบาท จากการรับชำระค่าหุ้นเพิ่มทุน

**ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อผลประกอบการ**

* **การเปลี่ยนแปลงส่วนผสมผลิตภัณฑ์ (Product Mix):** การเน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นช่วยชดเชยผลกระทบจากรายได้จากการขายพร้อมติดตั้งที่ลดลง
* **การเลื่อนการรับรู้รายได้:** การเลื่อนการรับรู้รายได้บางส่วนจากปี 2567 ไปเป็นปี 2568 ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง
* **การลงทุนเพื่อการเติบโต:** การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหารเป็นผลมาจากการลงทุนเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาว
* **การระดมทุน:** การเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์รวมและส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นผลมาจากการระดมทุนผ่านการออกหุ้นเพิ่มทุน (PO)

**การวิเคราะห์เชิงลึก**

แม้ว่ากำไรสุทธิจะลดลง แต่การที่บริษัทฯ สามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการบริหารเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต การระดมทุนผ่านการออกหุ้นเพิ่มทุนทำให้บริษัทฯ มีเงินทุนมากขึ้นเพื่อขยายธุรกิจและลงทุนในโครงการใหม่ๆ

**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส**

* **ความเสี่ยง:** การพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ และความผันผวนของเศรษฐกิจ
* **โอกาส:** การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ, และการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานและอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

**สรุปและมุมมอง**

โดยสรุปแล้ว ผลประกอบการปี 2567 ของ IROYAL แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการรักษาการเติบโตของกำไรสุทธิ แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การลงทุนเพื่อการเติบโตและการระดมทุนจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

**ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขทางการเงินที่สำคัญ**

* **รายได้:** เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของกำไร แต่การเปลี่ยนแปลงของส่วนผสมผลิตภัณฑ์มีผลต่ออัตรากำไรขั้นต้น
* **กำไรขั้นต้น:** เป็นตัวบ่งชี้ความสามารถในการทำกำไรจากกิจกรรมหลักของบริษัทฯ
* **ค่าใช้จ่ายในการบริหาร:** มีผลกระทบต่อกำไรสุทธิ แต่เป็นการลงทุนที่จำเป็นสำหรับการเติบโต
* **อัตรากำไรสุทธิ:** เป็นตัวบ่งชี้ความสามารถในการทำกำไรโดยรวมของบริษัทฯ
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E):** แสดงถึงความเสี่ยงทางการเงินของบริษัทฯ การเพิ่มขึ้นของหนี้สินต้องมาพร้อมกับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพเพื่อไม่ให้กระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้

**ภาพรวมที่กินใจ**

IROYAL กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากการเป็นบริษัทขนาดเล็กไปสู่การเป็นบริษัทมหาชน การลงทุนและการปรับตัวเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตอาจทำให้ผลกำไรในระยะสั้นผันผวน แต่การบริหารจัดการที่ดีและการวางแผนเชิงกลยุทธ์จะช่วยให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในระยะยาวได้