สรุปงบล่าสุด ILM
สรุปงบการเงิน
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
**สรุปผลประกอบการของ บมจ. อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) ไตรมาส 3 ปี 2568**
บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) (ILM) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 โดยมีกำไรสุทธิ 182.2 ล้านบาท ลดลง 6.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่สามารถทำกำไรสำหรับงวดเก้าเดือนแรกที่ 573.3 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย บริษัทฯ พยายามพัฒนาและปรับกลยุทธ์รอบด้าน ทั้งด้านการพัฒนาสินค้าให้สอดรับกับความต้องการของตลาด การเพิ่มความคุ้มค่าของสินค้า และการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง (หน้า 1)
**สถานการณ์เศรษฐกิจ**
เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ปี 2568 ยังคงฟื้นตัวอย่างช้าๆ ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ภาวะค่าครองชีพที่สูงและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นยังคงจำกัดกำลังซื้อของผู้บริโภค ภาคการส่งออกเริ่มเติบโตลดลงจากการได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีของต่างประเทศ ภาคการท่องเที่ยวมีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ชะลอลง บรรยากาศการลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในระดับระมัดระวัง (หน้า 1)
**การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร**
* **รายได้รวม:** ในไตรมาส 3/2568 มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 2,471.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 และเพิ่มขึ้น 8.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2568 มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 7,240.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (หน้า 2)
* **รายได้จากการขาย:** ในไตรมาส 3/2568 มีรายได้จากการขาย 2,269.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 และเพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2568 มีรายได้จากการขาย 6,647.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (หน้า 2)
* การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายในไตรมาส 3/2568 เมื่อเทียบกับปีก่อน มาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายหน้าร้านค้าปลีกเนื่องจากมีการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้น และยอดขายออนไลน์ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง (หน้า 2)
* การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายในไตรมาส 3/2568 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มาจากยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นในทุกช่องทาง เนื่องจากมีการเปิดสาขาเชียงรายเพิ่มเติมในไตรมาสนี้ และยอดขายออนไลน์ที่ยังรักษาการเติบโตได้ดี (หน้า 2-3)
* **รายได้จากการให้เช่าและบริการ:** ในไตรมาส 3/2568 มีรายได้จากการให้เช่าและบริการ 202.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 และเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2568 มีรายได้จากการให้เช่าและบริการ 592.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (หน้า 2)
* การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้เช่าและบริการในไตรมาส 3/2568 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากการปรับเปลี่ยนเพิ่มพื้นที่ให้เช่าของสาขาเชียงใหม่ภายหลังการ Renovate และมีพื้นที่ให้เช่าใหม่เพิ่มขึ้นของ Little Walk สาขารัตนาธิเบศร์ และ Little Walk สาขารามคำแหง (หน้า 3)
* การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้เช่าและบริการในไตรมาส 3/2568 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งเนื่องจากมีการเปิดสาขาใหม่ Little Walk สาขารามคำแหง (หน้า 3)
* **กำไรขั้นต้น:** ในไตรมาส 3/2568 มีกำไรขั้นต้น 1,176.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 และเพิ่มขึ้น 7.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2568 มีกำไรขั้นต้น 3,432.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (หน้า 2)
* กำไรขั้นต้นจากการขายในไตรมาส 3/2568 เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้จากการบริหารจัดการส่วนลดที่เหมาะสม และสัดส่วนของยอดขายจากหน้าร้านค้าปลีกที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า ก็ปรับเพิ่มจากปีก่อนส่งผลทำให้อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายปรับเพิ่มขึ้น (หน้า 3)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร:** ในไตรมาส 3/2568 มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 922.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 และเพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2568 มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 2,670.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (หน้า 4)
* ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากการที่มีจำนวนสาขาเพิ่มมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของค่าส่งเสริมการขายและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามยอดขายที่เพิ่ม ค่าธรรมเนียมการขายผ่านออนไลน์ที่ Marketplace Platform หลายแห่งมีการทยอยปรับเพิ่มในปีนี้ รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (หน้า 4)
* **กำไรสุทธิ:** ในไตรมาส 3/2568 มีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 182.2 ล้านบาท ลดลง 6.0% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 และเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2568 มีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 573.3 ล้านบาท ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (หน้า 2, 6)
**สินทรัพย์และหนี้สิน**
* **สินทรัพย์:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีสินทรัพย์รวม 12,938.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 7)
* **หนี้สิน:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีหนี้สินรวม 6,702.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 8)
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีส่วนของผู้ถือหุ้น 6,235.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% จากสิ้นปี 2567 (หน้า 8)
**อัตราส่วนทางการเงิน**
* อัตรากำไรขั้นต้นจากการขาย: ไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 47.3% เพิ่มขึ้นจาก 46.3% ในไตรมาส 3/2567 (หน้า 2)
* อัตรากำไรสุทธิ: ไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 7.3% ลดลงจาก 7.9% ในไตรมาส 3/2567 (หน้า 6)
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส**
* **ความเสี่ยง:** ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า, หนี้ครัวเรือนสูง, การแข่งขันที่รุนแรงจากสินค้านำเข้า, ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์, การชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ (หน้า 8)
* **โอกาส:** การยกระดับคุณภาพสินค้า, การสรรหาสินค้าที่ตอบโจทย์ "ฟังก์ชัน–ดีไซน์–ราคา", การใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน, การใช้ข้อมูลเชิงลึก (Consumer Insight) เพื่อกำหนดโปรโมชั่น, การขยายธุรกิจใหม่ เช่น ความร่วมมือกับ Flying Tiger Copenhagen (หน้า 8-9)
**สรุป**
ILM สามารถรักษาระดับกำไรได้ใกล้เคียงกับปีก่อน แม้เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว บริษัทฯ มีโครงสร้างรายได้ที่แข็งแกร่ง เติบโตทั้งรายได้จากการขายและธุรกิจให้เช่า อย่างไรก็ตาม มีค่าใช้จ่ายในการขยายสาขาและค่าใช้จ่ายบริหารที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยกดดัน
(7.76%)
(2.04%)
(7.30%)
(4.01%)
(0.42%)
(1.92%)
(8.06%)
(5.92%)
(3.69%)
(5.98%)
(78.70%)
(135.48%)