สรุปงบล่าสุด ICC
บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## ผลประกอบการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (ICC) ไตรมาส 3 ปี 2567
ในไตรมาส 3/2567 บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (ICC) ได้มีการปรับโครงสร้างการลงทุน โดยการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ทีเจ็นแอลเอ็กซ์ จำกัด จำนวน 4,200,000 หุ้น มูลค่า 469 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัท ICC ถือหุ้นในบริษัท ทีเจ็นแอลเอ็กซ์ จำกัด ร้อยละ 70 และมีอำนาจควบคุมในบริษัท ทีเจ็นแอลเอ็กซ์ จำกัด การเข้าซื้อกิจการนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและลดต้นทุนโดยรวม บริษัท ทีเจ็นแอลเอ็กซ์ มีรายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 274 ล้านบาท และมีกำไร -19 ล้านบาท
ในไตรมาส 3/2567 บริษัท ICC ยังได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท ดับเบิลยู บีอาร์ อี-จํากัด บริษัทย่อย จำนวน 980,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท รวม 98 ล้านบาท และได้ขายหุ้นในบริษัท ดับเบิลยู บีอาร์ อี-จํากัด ออกไปร้อยละ 19.996 เป็นเงิน 27 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัท ICC ยังได้แสดงผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประเภทที่ 1 และ 2 ในไตรมาส 4/2566 และมีแผนขยายขอบเขตการเปิดเผยไปยังประเภทที่ 3 ในปี 2568 เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของบริษัท
บริษัท ICC มีแผนจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนใหม่ ในไตรมาส 4/2567 เพื่อปรับปรุงโครงสร้าง จัดทำนโยบายและกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนให้ครอบคลุมและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับสากล โดยสหประชาชาติและประเทศสมาชิกในทุกมิติ แผนดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 4/2567 และจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2569
## โอกาสการลงทุน
บริษัท ICC มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง แสดงให้เห็นจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ที่ 0.14 ในไตรมาส 3/2567 ซึ่งต่ำกว่า 1 หมายถึง บริษัทมีภาระหนี้สินที่ต่ำและมีศักยภาพในการกู้ยืมเงินได้ง่ายขึ้นเพื่อการลงทุนขยายกิจการ บริษัท ICC ยังมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพการจัดการเงินสด สะท้อนจากวงจรเงินสดในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ที่ 138.61 วัน ซึ่งหมายถึง บริษัทสามารถจัดการเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในไตรมาส 3/2567 บริษัท ICC มีรายได้ลดลงร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของบริษัท ICC ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งนี้ อัตราส่วน P/E ของบริษัท ICC อยู่ที่ 12 ซึ่งค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับ P/E เฉลี่ยในอดีต แสดงถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ไม่สูงมากนัก
## โอกาสและความเสี่ยง
**โอกาส**
* บริษัทมี D/E ต่ำ สามารถกู้ยืมเงินเพื่อขยายกิจการได้ง่าย
* บริษัทมีวงจรเงินสดที่ดี หมายถึง บริษัทมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินสด
* บริษัทมีแผนยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนชัดเจน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจต่อนักลงทุนที่ใส่ใจเรื่อง ESG
**ความเสี่ยง**
* บริษัทมีรายได้ลดลงในไตรมาส 3/2567
* ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนอาจส่งผลต่อความต้องการสินค้าแฟชั่น
* การแข่งขันในตลาดสินค้าแฟชั่นรุนแรงขึ้น
**เหมาะสำหรับนักลงทุนประเภทใด**
* บริษัท ICC เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ
* อย่างไรก็ตาม การลงทุนในบริษัท ICC อาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงในระยะสั้น เนื่องจากอัตราส่วน P/E ของบริษัทค่อนข้างต่ำ
(5.22%)
(5.64%)
(5.54%)
(22.62%)
(10.21%)
(17.98%)
(4.72%)
(3.05%)
(105.26%)
(979.93%)
(156.38%)
(25.18%)