สรุปงบล่าสุด HPT
บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) (HPT) ไตรมาส 3/2567
บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) (HPT) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิคระดับสากล รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้รวม 67.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.37% เนื่องจากปริมาณการขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเภทของตกแต่งสีซึ่งมีมูลค่าสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรสุทธิ 5.66 ล้านบาท ลดลง 12.38% จากไตรมาส 3/2566 ส่วนหนึ่งเกิดจากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้บริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน
แผนธุรกิจของบริษัทมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการพัฒนาสินค้าใหม่ เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เพื่อลดต้นทุน บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
## วิเคราะห์โอกาสการลงทุน
ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจโดยมีรายได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิลดลงเนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่า การวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินย้อนหลังพบว่า P/E อยู่ที่ 10.21 P/BV อยู่ที่ 0.91 YIELD อยู่ที่ 7.73% ราคาเฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2558 อยู่ที่ 0.85 บาท D/E อยู่ที่ 0.18 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีภาระหนี้สินที่ค่อนข้างต่ำ เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 24.55 ล้านบาท เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน -33.71 ล้านบาท บ่งบอกถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจ
**โอกาส**
- HPT มีโอกาสในการเติบโตของตลาดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิค
- บริษัทมีการพัฒนาสินค้าใหม่ และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดต้นทุน
- D/E ต่ำ ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
- YIELD ค่อนข้างสูง น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล
**ความเสี่ยง**
- ค่าเงินบาทมีความผันผวน ส่งผลกระทบต่อกำไรจากการดำเนินงาน
- การแข่งขันในตลาดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิคค่อนข้างรุนแรง
## บทสรุป
HPT เป็นบริษัทที่มีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้กำไรสุทธิจะลดลงบ้างในไตรมาสล่าสุดเนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่า แต่บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีโอกาสในการเติบโตของตลาด และมี YIELD ที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม ควรติดตามความผันผวนของค่าเงินบาทและการแข่งขันในตลาดอย่างใกล้ชิด
(5.27%)
(6.43%)
(7.04%)
(19.16%)
(1.67%)
(11.98%)
(24.74%)
(43.98%)
(16.47%)
(13.62%)
(69.79%)
(54.39%)