สรุปงบล่าสุด GJS

บริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการ บริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน) (GJS)
GJS เผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่องในปี 2567 จากความต้องการเหล็กที่ชะลอตัวและการนำเข้าระดับสูง ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น แม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการต่อต้านการหลบเลี่ยงและการทุ่มตลาดเพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตในประเทศ แต่การนำเข้าจากจีนยังคงเป็นปัจจัยกดดัน บริษัทได้ดำเนินมาตรการเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เช่น การรักษาเสถียรภาพการผลิตและคุณภาพ การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนผันแปร การเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งการตลาด รวมถึงการดำเนินการตามแผนการใช้จ่ายตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้า ในส่วนของงบการเงิน สำหรับปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขาย 11,926 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนเนื่องจากราคาขายที่ลดลง แม้ปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้น กำไรขั้นต้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ลดลงไม่สามารถชดเชยราคาขายที่ลดลงได้ทั้งหมด ทำให้บริษัทขาดทุนสุทธิ 1,019 ล้านบาท สินทรัพย์รวมลดลงจากการลดลงของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด สินค้าคงเหลือ และที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ในขณะที่หนี้สินรวมค่อนข้างคงที่ ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเนื่องจากผลขาดทุนสุทธิ
บริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน) (GJS) ดำเนินธุรกิจผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง โดยมีสายผลิตภัณฑ์หลักคือ เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน เหล็กแผ่นรีดร้อนปรับสภาพผิวชนิดม้วน และเหล็กแผ่นรีดร้อนล้างผิวและเคลือบน้ำมัน สำหรับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทมุ่งเน้นการรักษาเสถียรภาพของการผลิตและคุณภาพ การปรับปรุงผลผลิตและต้นทุนผันแปร การเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดให้สูงสุด รวมถึงการดำเนินการตามแผนการใช้จ่ายที่วางไว้ในปี 2567 อย่างไรก็ตาม บริษัทเผชิญกับความท้าทายจากความต้องการเหล็กที่ชะลอตัว การนำเข้าระดับสูง และอัตรากำไรขั้นต้นที่ถูกบีบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในอนาคต ราคาหุ้นเฉลี่ยในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 อยู่ที่ 0.16 บาท ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า P/E ล่าสุดอยู่ที่ -100 และ P/BV อยู่ที่ 0.26 ซึ่งสะท้อนถึงผลประกอบการที่ขาดทุน
การพิจารณา GJS เป็นโอกาสในการลงทุนในขณะนี้ จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แม้ว่าราคาหุ้นจะค่อนข้างต่ำ แต่ผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่อง และปัจจัยภายนอกที่กดดันธุรกิจเหล็ก ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติม เช่น อัตรากำไรสุทธิที่ยังคงติดลบ D/E ที่ค่อนข้างต่ำ และวงจรเงินสดที่ยาวนาน สะท้อนถึงความท้าทายในการดำเนินงานและสภาพคล่องของบริษัท การลงทุนใน GJS จึงอาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และมองเห็นโอกาสในการฟื้นตัวของธุรกิจในระยะยาว
**โอกาส**
* มาตรการภาครัฐในการต่อต้านการทุ่มตลาดและการหลบเลี่ยงภาษี
* ความต้องการเหล็กในประเทศที่อาจเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
**ความเสี่ยง**
* การแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ
* ความผันผวนของราคาวัตถุดิบและราคาขายเหล็ก
* ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการเหล็ก
(13.98%)
(9.82%)
(51.96%)
(3,563.67%)
(76.74%)
(4,007.14%)
(2.38%)
(0.61%)
(0.64%)
(205.48%)
(534.27%)
(109.24%)