สรุป OPPDAY หุ้น GFPT

บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
Q&A สรุปถามตอบ OPPDAY
```html Oppday Summary
Oppday Summary
ภาพรวมผลประกอบการ
- กำไรสุทธิ Q3 ปีนี้: 542 ล้านบาท (เมื่อเทียบกับ 319 ล้านบาทในปีก่อน)
- อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin): 10-17%
- รายได้รวม: เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.7% คิดเป็น 238 ล้านบาท
หลักๆมาจากทุกธุรกิจอาหาร และภาพรวมการส่งออกที่ดีขึ้น- ต้นทุน: ลดลงจาก 88.8% เป็น 85.8% (เทียบกับปีก่อน) ต้นทุนรวมอยู่ที่ 2400 ล้านบาท (14.2%ของรายได้)
- ส่วนแบ่งกำไร (Share of Profit)
- จากมะคีและจิป: 337 ล้านบาท (2.4% ของรายได้)
- จากโฮวิต: 716 ล้านบาท
ส่วนแบ่งกำไรโดยรวมดีขึ้นจากปีก่อน- อัตรากำไรขั้นต้นของจิป: เพิ่มขึ้นจาก 11.9% (Q3 ปีก่อน) เป็น 15.5% (Q3 ปีนี้)
- อัตรากำไรขั้นต้นของโฮยิบิดาและเนธโปรธิ์มาจิต: ยังคงอยู่ในระดับสองหลัก
แนวโน้มธุรกิจและอุตสาหกรรม
- ความผันผวนของค่าเงิน: มีการทำ Forward Contract เพื่อลดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
- ราคาหุ้น: เพิ่มขึ้นจาก 25 สตางค์ เป็น 40 สตางค์ มีการคาดการณ์ R, A อยู่ที่ 8.2% และ R, E อยู่ที่ 18.5% Payout Ratio ล่าสุดอยู่ที่ 15 สตางค์ คิดเป็น 13.7%
- การขยายธุรกิจ:
- ขยายธุรกิจเนื้อสัตว์, ฟาร์มเลี้ยงสัตว์, ฟาร์มเลี้ยงไก่พันธุ์, และโรงเชือดไก่
- มีการลงทุนในโรงงานแปรรูป
- มีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
- สินทรัพย์รวม: เพิ่มขึ้น 1284 ล้านบาท หรือ 5%
- สินทรัพย์จากการลงทุน: 3027 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88% สินทรัพย์รวม 10,753 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4.4%)
- หนี้สิน: ลดลง 128 ล้านบาท หรือ 1.7% หนี้สินลดลงจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ลดลง 320 ล้านบาท
- ส่วนของผู้ถือหุ้น (Shareholder Equity): เพิ่มขึ้น 1400 ล้านบาท หรือ 8%
- EBIT: 642 ล้านบาท ใน Q3
- EBITDA: 1100 ล้านบาท ใน Q3
EBITDA ดีขึ้นจากผลประกอบการช่วงสองสามไตรมาสที่ผ่านมา- ราคาหุ้นล่าสุด: 15.27 บาทต่อหุ้น (เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่แล้ว)
อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ลดลงเล็กน้อยจาก 4.3 เป็น 3.9 อัตราส่วนหนี้สินต่อ EBITDA ลดลงจาก 1.5 เป็น 1.14- การลงทุน (CAPEX): ประมาณ 1100 ล้านบาท โดยเฉลี่ย เน้นการลงทุนสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ และโรงแปรรูป
- อุตสาหกรรมไก่: ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 7 ของโลก (ปี 2023)
- ปริมาณการส่งออกไก่: 1.1 ล้านตัน (ไทยเป็นอันดับ 4 ของโลก)
- ตลาดส่งออกหลัก: ญี่ปุ่น (42%), สหราชอาณาจักร (15%), ยุโรป (13%), จีน (11%)
ไก่แปรรูปส่งออก 53% และไก่แช่แข็ง 47%- คาดการณ์การส่งออกไก่ปีนี้: 1.15 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นประมาณ 5%)
ตลาดจีนมีการนำเข้าไก่แช่แข็งจากหลายประเทศ ตลาดไก่แปรรูปเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการส่งออก- คู่แข่งสำคัญ: บราซิล (32% ของตลาดโลก)
ตลาดส่งออกสำคัญ คือ ญี่ปุ่น อังกฤษ ยุโรป จีนปัจจัยเสี่ยงและข้อควรระวัง
- ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ: ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองมีความผันผวน
- อัตราแลกเปลี่ยน: มีการป้องกันความเสี่ยงด้วย Forward Contract
- Social Welfare: ให้ความสำคัญกับประเด็นทางสังคม
การแข่งขันในตลาดโลกกับบราซิล ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า ตลาดจีนมีข้อจำกัดเรื่องราคา และมีการนำเข้าจากหลายประเทศ- แนวโน้มผลประกอบการ: คาดว่ายอดขายจะเติบโต 2-3% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 13-14.5%
คาดการณ์ SNA อยู่ที่ประมาณ 8-8.5%ข้อมูลเพิ่มเติม
- ยอดขายส่งออก: เติบโต 44% ใน Q3 (เมื่อเทียบกับ Q3 ปีก่อน)
ปริมาณส่งออกอยู่ที่ 9500 ตัน (Q3 ปีนี้) เทียบกับ 6600 ตัน (Q3 ปีก่อน)- ตลาดส่งออกหลัก: อังกฤษและเม็กซิโก
Inter Export ยอดขายไก่ตัดแต่ง 4900 ตัน- ยอดขายในประเทศ: ลดลงเล็กน้อย 4%
- ธุรกิจอาหารสัตว์: มีแนวโน้มดีขึ้น ธุรกิจอาหารหมูเริ่มปรับตัวดีขึ้น
ธุรกิจอาหารปลาลดลงเนื่องจากการแข่งขันสูง ธุรกิจอาหารกุ้งเติบโต 28% (ล่าสุดอยู่ที่ 8800 ตัน)Disclaimer: ข้อมูลสรุปนี้ได้จากการถอดเสียงการประชุม Oppday และอาจมีความคลาดเคลื่อนบ้าง โปรดตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต้นฉบับเพื่อความถูกต้องและครบถ้วน```
สรุปด้วย AI(O) BOT
เอกสาร OPPDAY
บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่แบบครบวงจรของไทย มีบทบาทสำคัญในตลาดโลก โดยเป็นผู้ผลิตไก่เนื้อรายใหญ่อันดับ 7 ของโลกในปี 2023 ด้วยปริมาณการผลิต 3,450,000 เมตริกตัน และเป็นผู้ส่งออกไก่เนื้อรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ด้วยปริมาณการส่งออก 1,098,000 เมตริกตัน
ในปี 2023 GFPT มีรายได้จากการส่งออกไก่เนื้อไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยตลาดหลักคือญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และประเทศอื่นๆ GFPT มีแผนการขยายตลาดส่งออกต่อไปยังตะวันออกกลาง และเพิ่มการส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ในประเทศไทยเอง GFPT มีส่วนแบ่งการตลาดที่สำคัญ ทั้งในกลุ่มอาหารสดและอาหารปรุงสำเร็จ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญ เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง และลูกไก่ มีผลต่อต้นทุนการผลิตของ GFPT โดยราคาสินค้าเหล่านี้มีความผันผวน ส่งผลให้ GFPT ต้องบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
GFPT คาดการณ์การเติบโตของรายได้ในปี 2024 อยู่ที่ 2-3% จากยอดขายในปี 2023 โดยคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 13.5%-14.5% และมีแผนการลงทุนเพิ่มเติม (CAPEX) ประมาณ 1-1.2 พันล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิต ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผันผวน ค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน อัตราแลกเปลี่ยน มาตรการทางการค้า และการแข่งขันจากคู่แข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศบราซิล อย่างไรก็ตาม GFPT มีกลยุทธ์ในการรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้ เช่น การใช้ระบบการเลี้ยงไก่แบบควบคุม การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า ข้อมูลที่นำเสนอแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพของ GFPT ในฐานะบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่ระดับโลก แต่การวิเคราะห์ที่ครบถ้วนจำเป็นต้องพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น รายละเอียดของตลาดแต่ละกลุ่ม กลยุทธ์การตลาด และการวิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างละเอียด เพื่อประเมินศักยภาพการเติบโตและความเสี่ยงที่ GFPT อาจเผชิญในอนาคต