สรุปงบล่าสุด EVER

บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## บทสรุปผลประกอบการและวิเคราะห์หุ้น EVER: เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) (ฉบับปรับปรุง)
**ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567 และความยั่งยืน**
บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ EVER มุ่งเน้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก โดยปี 2567 รับรู้รายได้จากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 1,235.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตามภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 หดตัวลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทมีรายได้รวม 1,707.32 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 338.69 ล้านบาท ขาดทุนลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้าที่มีการขาดทุน 341.78 ล้านบาท ธุรกิจหลักยังคงเป็นการพัฒนาโครงการแนวราบและแนวสูง โดยมีการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการต่างๆ เช่น เดอะ โพลิแทน บรีซ, มายรีสอร์ท แอทริเวอร์, เอเวอร์ซิตี้ สุขสวัสดิ์ 30 - พุทธบูชา และ เอวาริส-ราชพฤกษ์ตัดใหม่ สำหรับธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทย่อย มีรายได้ 445.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า เหตุการณ์สำคัญในปี 2567 คือการที่บริษัทย่อย มาย ฮอสพิทอล จำกัด อนุมัติให้ขายหุ้นสามัญและสิทธิความเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล แต่สัญญาดังกล่าวได้สิ้นสุดลงในภายหลังเนื่องจากเงื่อนไขบางประการไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ตามกำหนด นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการศึกษาข้อมูลทำเลที่มีศักยภาพ และการคมนาคมที่สะดวกสบายในการเดินทาง โดยคำนึงถึงงบประมาณที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ
**แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต และความรับผิดชอบต่อสังคม**
EVER ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตระหนักถึงปัจจัยที่อาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงานในอนาคต เช่น ต้นทุนดอกเบี้ย ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ลดลง และราคาที่ดินที่สูงขึ้น บริษัทจึงปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยเน้นการส่งเสริมการขายด้วยโปรโมชั่น ส่วนลด และของแถม รวมถึงการใช้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น พื้นที่ใกล้แนวรถไฟฟ้า และพื้นที่ชานเมืองที่มีราคาที่ดินไม่สูงมากนัก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย บริษัทคาดหวังว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มยอดขาย ลดการขาดทุน และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว บริษัทยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยในปี 2567 ได้ดำเนินกิจกรรมด้านความยั่งยืนต่างๆ เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม (การคัดแยกขยะ) ด้านสังคม (การทำบุญกฐินพระราชทาน, การบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย) และด้านธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ (การได้รับการประเมินการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนสูง)
**โอกาสและความเสี่ยงในการลงทุน**
การพิจารณา EVER เป็นโอกาสในการลงทุน ต้องอาศัยการประเมินอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาจากข้อมูลทางการเงินและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ราคาหุ้นในปัจจุบันค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับในอดีต รวมถึงค่า P/BV ที่ต่ำกว่า 1 เท่า อาจบ่งชี้ว่าหุ้นมีราคาถูกเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี อย่างไรก็ตาม การขาดทุนต่อเนื่องหลายปี และค่า P/E ที่ติดลบ สะท้อนถึงความท้าทายในการทำกำไรของบริษัท
* **โอกาส:**
* การฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์: หากเศรษฐกิจฟื้นตัว ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอาจเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายของ EVER
* การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ: หากบริษัทสามารถลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
* การพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการ: หากบริษัทสามารถพัฒนาโครงการที่ตรงกับความต้องการของตลาดได้ จะช่วยเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งการตลาด
* **ความเสี่ยง:**
* ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน: หากเศรษฐกิจชะลอตัว จะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและความสามารถในการชำระหนี้
* การแข่งขันที่รุนแรง: ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันสูง ผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง
* ความเสี่ยงด้านการเงิน: บริษัทมีหนี้สินจำนวนมาก และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายธุรกิจ
การลงทุนใน EVER จึงมีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัทเชื่อมั่นในศักยภาพในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นที่จะสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
(67.60%)
(18.59%)
(14.49%)
(18.45%)
(31.68%)
(31.21%)
(106.08%)
(46.39%)
(188.04%)
(123.98%)
(42.89%)
(47.55%)