สรุปงบล่าสุด ESTAR
บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 3 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2567 โดยมีกำไรสุทธิ 8.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2.41 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2566 สาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 405.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 149% จากการโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการเดิมและโครงการใหม่ที่สร้างเสร็จในไตรมาสนี้ ต้นทุนการขายอสังหาริมทรัพย์ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย 357.87 ล้านบาท หรือ 184% ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 47.75 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 38.91 ล้านบาท (130%) ค่าใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้น 3.85 ล้านบาท (376%) ส่วนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 14.94 ล้านบาท (1789%) เนื่องจากการปรับปรุงการขอคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลปี 2560 จํานวน 12.84 ล้านบาท
บริษัทมีแผนธุรกิจในอนาคตที่จะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและให้เช่า รวมถึงธุรกิจสนามกอล์ฟ ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดระยอง โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มยอดขายและรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการเติบโต
จากผลประกอบการไตรมาส 3/2567 แม้กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเป็นจำนวนที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตัวเลข P/E ที่ -100 แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทในปัจจุบันต่ำ ส่วน P/BV ที่ 0.24 ถือว่าต่ำ สะท้อนถึงราคาตลาดที่ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี D/E อยู่ที่ 0.38 ซึ่งหมายถึงบริษัทมีภาระหนี้สินที่ค่อนข้างต่ำ วงจรเงินสด อยู่ที่ 1098.16 วัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการหมุนเวียนเงินสดที่ค่อนข้างช้า เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน อยู่ที่ -42.51 ล้านบาท ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการลงทุนในโครงการใหม่ๆ แต่ยังไม่เห็นผลตอบแทนในระยะสั้น
จากการวิเคราะห์ ESTAR อาจไม่ใช่โอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ แม้ว่าบริษัทมี D/E ต่ำ แต่ P/E และ P/BV ก็ต่ำเช่นกัน และการหมุนเวียนเงินสดที่ช้า อาจเป็นสัญญาณของประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ต่ำ สำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาว อาจต้องติดตามผลประกอบการในอนาคตอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินโอกาสในการเติบโตของบริษัท ส่วนนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผล YIELD ที่ 0% ทำให้ไม่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในส่วนนี้
(339.80%)
(135.22%)
(247.22%)
(59.09%)
(21.05%)
(32.36%)
(45.33%)
(40.60%)
(77.03%)
(260.63%)
(144.64%)
(143.95%)