ERW
บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

ERW ฝ่าวิกฤตนักท่องเที่ยวจีนซบเซา ชูงบ Q3/2568 คาด Q4 ฟื้นตัวรับไฮซีซั่นยุโรปตะวันออก

การรายงานผลประกอบการของบริษัท The Erawan Group ในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ยังคงได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ชะลอตัว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะจีนที่เดินทางเข้าน้อยลง

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

  1. ผลกระทบเชิงลบ:
    • รายได้หลักของบริษัทในประเทศไทยได้รับผลกระทบ
    • จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง: นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยลดลง 13% เหลือ 7.4 ล้านคน
    • RevPar (รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก) ลดลง 10% จากปีก่อนหน้า: มาจากอัตราค่าห้องพัก (Rate) ที่ลดลง 9% และอัตราการเข้าพัก (Occupancy) ที่ลดลง 1%
    • Luxury to Economy Segment ได้รับผลกระทบมากที่สุด: จากการลดลงของการเข้ามาของนักท่องเที่ยว
    • รายได้จากนักท่องเที่ยวจีนลดลง 32%: สอดคล้องกับการลดลง 35% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าประเทศไทย
    • รายได้จากนักท่องเที่ยวอเมริกันลดลง 8%: จาก Corporate Demand ในกรุงเทพฯ ที่ลดลง และผลกระทบบางส่วนจากการปรับปรุงโรงแรมนาคา ภูเก็ต
    • กำไรสุทธิลดลง: กำไรสุทธิลดลง 54% จากปีก่อนหน้า (หากไม่รวมผลกระทบจากการซ่อมแซมจากแผ่นดินไหว จะลดลง 38%)
  2. ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ:
    • สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศ: การเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวในกลุ่มเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงชะลอตัว
    • นักท่องเที่ยวจีน: การเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวจีนน้อยลง
    • การปรับปรุงโรงแรม: โรงแรมนาคา ภูเก็ต อยู่ระหว่างการปรับปรุง
    • เหตุการณ์แผ่นดินไหว: ทำให้ต้องปิดปรับปรุงโรงแรมบางส่วน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในระยะสั้น
  3. ตัวเลขทางการเงินและสถิติ:
    • RevPar ของทั้งกลุ่มลดลง 10%
    • นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยลดลง 13% เหลือ 7.4 ล้านคน
    • รายได้จากนักท่องเที่ยวจีนลดลง 32%
    • รายได้กลุ่ม Luxury to Economy ลดลง 8%
    • EBITDA ลดลง 21%

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  1. การเพิ่ม Volume จากตลาดอื่น:
    • Diversify ไปยังตลาดอื่น ๆ เช่น อินเดีย, Middle East, ยุโรป เพื่อทดแทน Demand จากจีนที่ลดลง
    • นักท่องเที่ยวไทย: ได้รับปัจจัยบวกจากนโยบายของรัฐบาล (เที่ยวคนละครึ่ง)
    • อินเดีย: รายได้เติบโต 12% จากการ Diversify ของบริษัท
  2. การเติบโตใน Budget Segment:
    • Budget Segment เติบโตได้ดี: รายได้เติบโต 2% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากรายได้หลักมาจากนักท่องเที่ยวและ Domestic Demand ในประเทศนั้น ๆ

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  1. ความเสี่ยงด้านการท่องเที่ยว:
    • การชะลอตัวของนักท่องเที่ยว: โดยเฉพาะจากจีนและเอเชียตะวันออก
  2. ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน:
    • การปรับปรุงโรงแรม: โรงแรมนาคา ภูเก็ต อยู่ระหว่างการปรับปรุง
    • เหตุการณ์แผ่นดินไหว: ทำให้ต้องปิดปรับปรุงโรงแรมบางส่วน

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  1. การเพิ่ม Volume จากตลาดอื่น:
    • Diversify ไปยังตลาดอื่น ๆ เช่น อินเดีย, Middle East, ยุโรป
  2. การรักษาต้นทุนให้คงที่:
    • ปรับลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น: เพื่อรักษาระดับอัตรากำไร
  3. การDiversify ไปยังตลาดอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง:
    • เพื่อรักษาระดับอัตราการเข้าพัก

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  1. แนวโน้มที่ดีขึ้นในไตรมาส 4:
    • คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 4 จะเห็นเทรนด์ที่ดีขึ้น: จากนักท่องเที่ยวจีนและยุโรปตะวันออก (High Season)
    • RevPar ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสที่แล้ว: สะท้อนเทรนด์ที่ดีขึ้นของการเข้าพักของชาวต่างชาติ
  2. การขยายโรงแรมในกลุ่ม Non-Luxury อย่างต่อเนื่อง:
    • เพื่อ Deliver ตัว Growth ใน Prime Location ต่าง ๆ

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [01:07:33]

  1. แนวโน้มไตรมาส 4:
    • Q on Q: Occupancy เติบโต 4%, ARR เติบโต 15-16%, RevPar เติบโต 23%
    • Y on Y: Occupancy เท่าเดิม, ARR ลดลง 7%, RevPar ลดลง 7%
  2. ภาพรวมทั้งปี 2568:
    • คาดว่ารายได้จะคงที่เท่ากับปี 2567
    • Luxury to Economy Segment ยังคงได้รับผลกระทบบางส่วนจากการเข้าของนักท่องเที่ยว
    • กลุ่ม Budget การเติบโตยังคงเติบโตต่อเนื่อง 18% จากปีก่อนหน้า
  3. สัญญาของ แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ:
    • ยังคงดำเนินกระบวนการต่อสัญญาเช่าอย่างต่อเนื่อง
    • ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการ operate โรงแรม เพราะยังสามารถดำเนินการ operate ได้อย่างต่อเนื่อง โดยการจ่ายค่าเช่ารายปี
    • อาคารอยู่ในรูปแบบสัญญาเช่า ดังนั้นการบันทึกสินทรัพย์ของบริษัทจะอยู่ในรูปแบบของ asset ในสัญญาเช่า
  4. แผนการปิดปรับปรุงโรงแรม:
    • ไตรมาส 4: ปิดปรับปรุงบางส่วนของโรงแรมนาคา (ภูเก็ต) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน
    • ปี 2569: ยังคงมีแผนปรับปรุงโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ คาดว่าจะอยู่ในช่วง Q2 และ Q3 (Low Season) โดยจะทำในส่วนของห้องพักและ Ballroom
  5. ผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล (เที่ยวดีมีคืน) ต่ออัตราการเข้าพักในไตรมาส 4:
    • คาดว่าจะช่วย demand ของคนไทยให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    • ได้รับอานิสงค์จากโครงการเที่ยวคนละครึ่งที่ดำเนินการได้ดีในไตรมาส 3
    • อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบที่สูงมากนัก แต่จะช่วย diversify ในส่วนของการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดลง
  6. สถานะการเคลมประกันค่าเสียหายจากแผ่นดินไหว:
    • ในบางส่วนได้มีการซ่อมแซมไปแล้ว และมีการบันทึกค่าใช้จ่ายไปแล้วในไตรมาส 3
    • มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในไตรมาส 4
    • คาดว่าจะได้รับการเคลมประกันในไตรมาส 4 และทยอยมาในปีหน้า
    • คาดว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะสามารถทำการเคลมประกันได้
  7. X ในปี 2568 และ 2569:
    • ปี 2568: ประมาณ 2,000 - 2,500 ล้านบาท
    • ปี 2569: ประมาณ 4,000 ล้านบาท
  8. บริษัทมีความเห็นเกี่ยวกับการทำ Asset Light Model อย่างไร:
    • ในระยะสั้นนี้ บริษัทจะเน้นการลงทุนเองทั้งหมด เพื่อสามารถ control คุณภาพได้
    • Asset Light Model อาจจะเป็นภาพในระยะยาวที่บริษัทศึกษาอยู่ ถ้ามีแผนที่ชัดเจนแล้วจะมาสื่อสารให้ทราบ

หัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป

  1. แนวโน้มไตรมาส 4 (Q4 Outlook)
  2. ภาพรวมทั้งปี 2568 (Full Year 2025 Outlook)
  3. สัญญาเช่าแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ (Grand Hyatt Erawan Lease Agreement)
  4. แผนปิดปรับปรุงโรงแรม (Hotel Renovation Plan)
  5. ผลกระทบจากมาตรการรัฐบาล (Government Stimulus Impact)
  6. สถานะการเคลมประกัน (Insurance Claim Status)
  7. แผนการลงทุน (Capital Expenditure Plan)
  8. Asset Light Model

โดยสรุป, ถึงแม้ว่าผลประกอบการปัจจุบันจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอก, ERW ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วยการปรับกลยุทธ์ Diversify ตลาดและควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องใน Segment ที่มีศักยภาพ