สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP มีผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2567 ขาดทุนสุทธิ 521.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปี 2566 ที่ขาดทุน 140.25 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 431.33 ล้านบาท โดยรายได้รวม 192.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.75 ล้านบาท จากธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น 6.66% และธุรกิจไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 41.46% ซึ่งเกิดจากการรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าของโครงการพลังงานลม 31.3 MW ในประเทศเวียดนาม ส่วนต้นทุนขายและบริการเพิ่มขึ้น 4.97% โดยต้นทุนของธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ลดลง 6.72% ขณะที่ต้นทุนจากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 55.56% ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 113.46% จากการขายสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้งานและเสื่อมสภาพของธุรกิจสิ่งพิมพ์ และค่าใช้จ่ายจากโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 187.42%

แผนธุรกิจของ EP ในอนาคตมุ่งเน้นการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเวียดนาม ที่ EP มีโครงการพลังงานลม 31.3 MW พร้อมกับการลงทุนในบริษัทร่วมในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำ โดยโรงไฟฟ้าแบบพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) บริษัทตั้งเป้ารายได้จากการขายไฟฟ้าให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ที่ EP มีโครงการพลังงานลม ขนาด 130 MW ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในอนาคต

จากผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดของ EP แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของธุรกิจ โดยเฉพาะผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อกำไรสุทธิ อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายและบริการมีแนวโน้มเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากธุรกิจไฟฟ้า EP มี P/E ล่าสุดที่ -100 ซึ่งหมายความว่านักลงทุนมองว่าหุ้น EP ไม่น่าสนใจและคาดหวังผลตอบแทนที่ต่ำ P/BV ล่าสุดอยู่ที่ 0.53 สะท้อนถึงมูลค่าหุ้นที่ต่ำกว่าสินทรัพย์สุทธิของบริษัท YIELD ล่าสุดอยู่ที่ 0% หมายถึงบริษัทไม่มีการจ่ายเงินปันผล ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาเฉลี่ยล่าสุดอยู่ที่ 2.16 บาท นอกจากนี้ D/E ล่าสุดอยู่ที่ 1.24 สะท้อนถึงภาระหนี้สินที่สูง วงจรเงินสดล่าสุดอยู่ที่ -112.17 ล้านบาท แสดงถึงปัญหาเรื่องการจัดการเงินสด เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 262.11 ล้านบาท เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุน -124.68 ล้านบาท แสดงถึงการลงทุนต่อยอดธุรกิจ โอกาสของ EP คือการขยายธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเวียดนาม ความเสี่ยงคือความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ภาระหนี้สินที่สูง การจัดการเงินสดที่ไม่ดี ผลประกอบการที่ไม่แน่นอน และ ความสามารถในการแข่งขันในตลาด การลงทุนใน EP เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูง และมองเห็นโอกาสการเติบโตในระยะยาวของธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน