สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2567 มีผลขาดทุนส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ (160.58) ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566 ซึ่งมีผลกำไร 165.42 ล้านบาท ลดลง 326 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 197.07 โดยมีสาเหตุหลักจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 2/2567 จำนวน 105.10 ล้านบาท ในขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ปรากฏว่ามีผลขาดทุนส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ (8.83) ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีผลกำไร 52.33 ล้านบาท ลดลง 61.16 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 116.87

แผนธุรกิจของ EP ในอนาคตมุ่งเน้นการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ โดย EP มีโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม 4 โครงการ ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตรวม 180 เมกะวัตต์ โดยโครงการ 11.3 ขนาดกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ ได้เริ่มบันทึกรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าให้กับธง ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ราคาต่อหน่วย 1,428.41 ดอง คิดเป็นร้อยละ 90 ของอัตราซื้อขายไฟฟ้าสูงสุดตามที่รัฐบาลเวียดนามกำหนดไว้ ที่ 1,587.12 ดอง โครงการที่เหลืออีก 3 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 130 เมกะวัตต์ จะทยอยเปิดดำเนินการตามลำดับต่อไป นอกจากนี้ EP ยังมีธุรกิจโรงพิมพ์ในลักษณะครบวงจร ตั้งแต่วางแผนการผลิตจนกระทั่งเข้าเล่มเป็นสิ่งพิมพ์สำเร็จรูป

จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง แม้ว่าผลประกอบการของ EP จะติดลบ แต่การลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ถือเป็นจุดแข็งสำคัญ โดยในไตรมาส 2/2567 EP มีรายได้จากธุรกิจไฟฟ้า จำนวน 99.55 ล้านบาท ลดลงจากรายได้จากการติดตั้ง 50 เมกะวัตต์ จำนวนเงิน 54.13 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจำนวนเงิน 31.89 ล้านบาท จากโครงการ 11.3 เริ่มบันทึกรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับธง ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 นอกจากนี้ D/E ของ EP อยู่ที่ 1.24 สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง แม้ว่า P/E จะติดลบ แต่ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ลดลงจาก 5.83 บาท สู่ 2.41 บาท แสดงให้เห็นถึงความผันผวนของราคาหุ้น P/BV อยู่ที่ 0.55 ส่งสัญญาณว่าราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี บ่งบอกถึงโอกาสที่ราคาหุ้นอาจจะปรับตัวขึ้นได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน EP อาจมีความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาพลังงาน อัตราแลกเปลี่ยน และนโยบายของรัฐบาล

**โอกาส:**

* ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนมีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต เนื่องจากการตื่นตัวต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
* บริษัทมี D/E ต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
* ราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ลดลงจาก 5.83 บาท สู่ 2.41 บาท แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ราคาหุ้นอาจจะปรับตัวขึ้นได้ในอนาคต
* P/BV อยู่ที่ 0.55 ส่งสัญญาณว่าราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี บ่งบอกถึงโอกาสที่ราคาหุ้นอาจจะปรับตัวขึ้นได้ในอนาคต
* บริษัทมีโครงการพลังงานลมในเวียดนามที่จะทยอยเปิดดำเนินการในอนาคต

**ความเสี่ยง:**

* การผันผวนของราคาพลังงาน
* อัตราแลกเปลี่ยน
* นโยบายของรัฐบาล
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน

EP อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง และมองหาโอกาสการเติบโตในระยะยาวจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน