สรุปงบล่าสุด CPH
บริษัท คาสเซ่อร์พีคโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
บริษัท คาสเซ่อร์พีคโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPH ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2567 โดยมีรายได้รวม 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.32% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566 ซึ่งมีรายได้รวม 553.83 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการสินค้าของผู้บริโภคในประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสนี้มีกำไรสุทธิ 72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566 ที่มีกำไรสุทธิ 56 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะสามารถรักษาระดับการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิในช่วงที่เหลือของปีได้ แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอน แต่บริษัทมีแผนที่จะลดต้นทุนการผลิตและการขาย รวมถึงขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ เพื่อรองรับความเสี่ยงจากการแข่งขันและผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ
บริษัทมีแผนที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและการจัดจำหน่าย โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการควบคุมต้นทุนและลดการสูญเสีย นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ ๆ ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป บริษัทคาดหวังว่าการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวจะสามารถช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
จากผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดและอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง CPH ถือเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากบริษัทมีกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่อง อัตราส่วน P/E และ P/BV ต่ำกว่า 35 สะท้อนถึงราคาหุ้นที่ยังไม่แพงเมื่อเทียบกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังมี D/E ที่ต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในปี 2566 อยู่ที่ 100 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถสร้างรายได้และกำไรสุทธิที่สามารถนำมาใช้หมุนเวียนในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงดังต่อไปนี้:
* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท
* การแข่งขันในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่รุนแรง อาจส่งผลต่อกำไรของบริษัท
* การขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ ๆ อาจมีความเสี่ยงจากการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมที่แตกต่าง
CPH เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อรอการเติบโตของบริษัท หรือรับเงินปันผล แต่ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากราคาหุ้นอาจมีความผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัท
(174.96%)
(7.78%)
(289.98%)
(22.42%)
(41.78%)
(13.57%)
(5.70%)
(6.28%)
(566.17%)
(27.99%)
(149.39%)
(6.06%)