สรุปงบล่าสุด CI

สรุปด้วย AI(O) BOT

**บทสรุปผลประกอบการของ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (CI)**

**ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568**

บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลขาดทุนสุทธิสำหรับส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 104.8 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2568 ซึ่งเป็นการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น 31.1 ล้านบาท หรือ 42.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า (หน้า 1)

**1. สรุปรายได้รวม**

รายได้รวมของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 384.8 ล้านบาท ลดลง 49.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ถึง 67.8% เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ยอดขายทั้งแนวราบและแนวสูงลดลง กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง และสถาบันการเงินมีความระมัดระวังในการให้สินเชื่อ ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ธุรกิจโรงแรมของบริษัทฯ ก็ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้รายได้ลดลง 12.9% (หน้า 1)

**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ**

เอกสารไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยละเอียด แต่ระบุว่าสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อยอดขายอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโรงแรมของบริษัทฯ (หน้า 1)

**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร**

* **ต้นทุนขาย:** ลดลง 44.1% สอดคล้องกับการลดลงของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ (หน้า 1)
* **ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร:** ลดลง 21.6% เนื่องจากการลดลงของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขายอสังหาริมทรัพย์ เช่น ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าธรรมเนียมการโอน และค่าคอมมิชชั่น รวมถึงมาตรการควบคุมและปรับลดค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ (หน้า 1)

**4. สินทรัพย์และหนี้สิน**

* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด:** ลดลง 62.9 ล้านบาท เนื่องจากการจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินและบริษัทอื่น เพื่อปลอดจำนองห้องชุด และจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่าในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (หน้า 2)
* **ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้หมุนเวียนอื่น:** ลดลง 50.5 ล้านบาท เนื่องจากการได้รับชำระค่าเช่า ค่าบริการ และรับคืนภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกรมสรรพากร (หน้า 2)
* **ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย:** ลดลง 73.8 ล้านบาท จากการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ลูกค้า (หน้า 2)
* **สินทรัพย์ภาษีเงินได้ของงวดปัจจุบัน:** ลดลง 14.7 ล้านบาท (หน้า 2)
* **สินทรัพย์ทางการเงินไม่หมุนเวียนอื่น:** ลดลง 263.2 ล้านบาท (หน้า 2)
* **เงินลงทุนในบริษัทร่วม:** เพิ่มขึ้น 18.3 ล้านบาท (หน้า 2)
* **อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน:** ลดลง 178.8 ล้านบาท (หน้า 2)
* **ที่ดินรอการพัฒนา:** เพิ่มขึ้น 35.0 ล้านบาท (หน้า 2)
* **ที่ดินอาคารและอุปกรณ์:** เพิ่มขึ้น 137.7 ล้านบาท (หน้า 2)
* **สินทรัพย์สิทธิการใช้:** ลดลง 150.1 ล้านบาท (หน้า 2)
* **เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน:** ลดลง 282.9 ล้านบาท (หน้า 2)
* **เงินกู้ยืมระยะยาวจากบริษัทอื่น:** ลดลง 100.9 ล้านบาท (หน้า 2)
* **หนี้สินตามสัญญาเช่า:** ลดลง 141.2 ล้านบาท (หน้า 2)
* **หนี้สินที่เกิดจากสัญญา:** เพิ่มขึ้น 147.1 ล้านบาท (หน้า 2)
* **เงินประกันผลงานค้างจ่าย:** ลดลง 33.3 ล้านบาท (หน้า 2)

**กระแสเงินสด**

* **กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน:** มีกระแสเงินสดสุทธิได้มา 406.1 ล้านบาท (หน้า 2)
* **กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน:** มีกระแสเงินสดสุทธิได้มา 396.5 ล้านบาท (หน้า 2)
* **กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน:** มีกระแสเงินสดสุทธิใช้ไป 865.5 ล้านบาท (หน้า 2)

**ประเด็นสำคัญ**

* รายได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
* บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
* บริษัทฯ มีการจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
* บริษัทฯ มีการชำระคืนเงินกู้ยืมและหนี้สินตามสัญญาเช่า
* บริษัทฯ มีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวกจากกิจกรรมดำเนินงานและกิจกรรมลงทุน แต่มีกระแสเงินสดสุทธิเป็นลบจากกิจกรรมจัดหาเงิน

**ข้อสังเกตเพิ่มเติม:**

* การลดลงของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ
* การควบคุมค่าใช้จ่ายช่วยลดผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงได้บ้าง
* การชำระคืนเงินกู้ยืมและหนี้สินตามสัญญาเช่าแสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการทางการเงินของบริษัทฯ
* การลงทุนในบริษัทร่วมอาจเป็นโอกาสในการเติบโตในอนาคต