สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) CI: ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567

ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 ของบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI แสดงให้เห็นถึงรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 17.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ในห้องชุดโครงการคอนโดมิเนียม ดิ อิสสระ สาทร และ โครงการคอนโดมิเนียม ศศรา หัวหิน ที่ก่อสร้างเสร็จในช่วงปลายปี 2566 และเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังมีกำไรจากการเปลี่ยนแปลงงวดการจ่ายชำระค่าเช่าคงค้างในอดีตของสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา 2 จำนวน 24.7 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีผลขาดทุนสุทธิ 131.2 ล้านบาท โดยขาดทุนเพิ่มขึ้น 34.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 35.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566

ในแง่แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาโครงการใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโต โดยเน้นการพัฒนาโครงการที่มีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการของตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ บริษัทฯ จึงตั้งเป้าที่จะรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ให้อยู่ในระดับที่มั่นคงและควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

การวิเคราะห์โอกาสการลงทุนใน CI อาจต้องพิจารณาหลายปัจจัย โดยมองจากราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลังที่อยู่ที่ 0.61 บาท โดยมี P/E ที่ติดลบ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนไม่คาดหวังผลตอบแทนจากกำไรในอนาคต อย่างไรก็ตาม P/BV อยู่ที่ 0.37 ซึ่งหมายถึงราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัท ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทในการฟื้นตัว อีกทั้ง D/E ที่ 3.9 แสดงถึงระดับหนี้สินที่สูง ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคง อีกทั้ง บริษัทฯ มีกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงาน 208.5 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน 37.8 ล้านบาท (ติดลบ) ซึ่งสะท้อนถึงการลงทุนของบริษัทฯ ในธุรกิจ

## โอกาส

* **ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี:** P/BV ที่ 0.37 อาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทในการฟื้นตัว
* **การลงทุนในโครงการใหม่:** บริษัทฯ มีแผนขยายการลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ซึ่งอาจสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต
* **การควบคุมต้นทุน:** บริษัทฯ มีแผนที่จะควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มกำไรและผลตอบแทนให้กับนักลงทุน

## ความเสี่ยง

* **ระดับหนี้สินสูง:** D/E ที่ 3.9 แสดงถึงระดับหนี้สินที่สูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ
* **เศรษฐกิจโลกและไทยมีความไม่แน่นอน:** เศรษฐกิจโลกและไทยอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการของตลาดอสังหาริมทรัพย์
* **ผลประกอบการที่ยังไม่ดี:** บริษัทฯ ยังมีผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2 และยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วแค่ไหน

โดยรวมแล้ว CI อาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงในระยะสั้น แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทในการฟื้นตัว และยอมรับความเสี่ยงจากระดับหนี้สินที่สูง CI อาจเป็นโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ การติดตามความคืบหน้าของแผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคต รวมถึงการวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจโลกและไทย เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจลงทุน