สรุปงบล่าสุด CHO

สรุปด้วย AI(O) BOT

**สรุปผลประกอบการของ บมจ. ช ทวี (CHO) ไตรมาส 3 ปี 2568**

**1. สรุปรายได้รวม:**

ในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ประสบภาวะขาดทุนสุทธิ 582.30 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 491.46 ล้านบาท หรือคิดเป็น 541.00% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักของการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นมาจากการตั้งค่าเผื่อมูลค่าสินค้าที่ลดลง (NRV) รวมถึงการด้อยค่าของเงินลงทุนและเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทร่วม แม้ว่ารายได้จากการขายและบริการจะเพิ่มขึ้น 5.71 ล้านบาท หรือ 57.53% จากการขายอะไหล่ แต่รายได้ตามสัญญากลับลดลงอย่างมากถึง 97.60 ล้านบาท หรือ 89.34% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

**2. สถานการณ์เศรษฐกิจ:**

บริษัทฯ เผชิญกับความท้าทายทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากภาวะขาดทุนสะสม หนี้สินที่สูงกว่าสินทรัพย์ และความไม่แน่นอนในการเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขยายเวลาชำระหนี้ วิกฤต COVID-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลัก ทำให้รายได้จากการผลิตและจำหน่ายรถลำเลียงอาหารสำหรับครัวสายการบินและอุปกรณ์สำหรับภาคพื้นสนามบินลดลง นอกจากนี้ สถาบันการเงินหลักได้ระงับการใช้วงเงินสินเชื่อสำหรับซื้อวัตถุดิบและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ทำให้รายได้ลดลง ในขณะที่ต้นทุนการดำเนินงานยังคงสูง

**3. การเปลี่ยนแปลงในรายได้และกำไร:**

* **รายได้รวม:** ลดลง 75.57% ในไตรมาส 3 ปี 2568 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (29.88 ล้านบาท เทียบกับ 122.29 ล้านบาท) และลดลง 42.41% สำหรับงวด 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย. 2568) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (141.34 ล้านบาท เทียบกับ 245.43 ล้านบาท)
* **ต้นทุนรวม:** เพิ่มขึ้น 82.27% ในไตรมาส 3 ปี 2568 (158.23 ล้านบาท เทียบกับ 86.81 ล้านบาท) และเพิ่มขึ้น 19.05% สำหรับงวด 9 เดือน (319.78 ล้านบาท เทียบกับ 268.62 ล้านบาท) สาเหตุหลักมาจากการจำหน่ายสินค้าคงเหลือที่ค้างนานในราคาต่ำกว่าทุน
* **ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน:** เพิ่มขึ้น 177.97% ในไตรมาส 3 ปี 2568 (288.04 ล้านบาท เทียบกับ 103.62 ล้านบาท) และเพิ่มขึ้น 33.39% สำหรับงวด 9 เดือน (555.09 ล้านบาท เทียบกับ 416.15 ล้านบาท) โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการตั้งด้อยค่าขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนและเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทร่วม
* **ต้นทุนทางการเงิน:** เพิ่มขึ้น 26.98% ในไตรมาส 3 ปี 2568 (29.50 ล้านบาท เทียบกับ 23.23 ล้านบาท) แต่ลดลง 2.06% สำหรับงวด 9 เดือน (91.04 ล้านบาท เทียบกับ 92.96 ล้านบาท) เป็นผลจากการบันทึกดอกเบี้ยกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินและดอกเบี้ยหุ้นกู้

**4. สินทรัพย์และหนี้สิน:**

* **สินทรัพย์รวม:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีจำนวน 1,606.01 ล้านบาท ลดลง 39.15% เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 เนื่องจากการลดลงของลูกหนี้อื่น เงินให้กู้ยืมแก่บริษัทร่วม สินค้าคงเหลือ และเงินลงทุนในบริษัทร่วม
* **หนี้สินรวม:** ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 มีจำนวน 2,530.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.72% จากยอดเจ้าหนี้การค้าและเงินกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น
* **อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio):** เท่ากับ (2.74) เท่า ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งอยู่ที่ 14.96 เท่า
* **อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย (Interest Bearing Debt D/E Ratio):** เท่ากับ (1.86) เท่า ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งอยู่ที่ 10.32 เท่า

**ประเด็นสำคัญเพิ่มเติม:**

* บริษัทฯ ได้รับรายงานของผู้สอบบัญชีที่ไม่แสดงความเห็น เนื่องจากข้อจำกัดด้านข้อมูลทางการเงินและปัญหาด้าน Going Concern
* บริษัทฯ มีแผนแก้ไขปัญหาโดยการปรับโครงสร้างหนี้, ลดต้นทุน, เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน, ระดมทุน, และปรับโครงสร้างธุรกิจ
* บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอขยายระยะเวลาการชำระหนี้, ปรับลดอัตราดอกเบี้ย, และเสนอแปลงหนี้เป็นทุน
* บริษัทฯ กำลังพิจารณาการระดมทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมและนักลงทุนใหม่, ขายสินทรัพย์ที่ไม่จำเป็น, และแปลงสินทรัพย์เป็นทุน
* บริษัทฯ มีแผนธุรกิจปี 2568-2573 โดยมุ่งเน้นการปรับโครงสร้างองค์กรและการระดมทุน เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการเงิน ลดต้นทุนการผลิต ขยายตลาด และใช้นวัตกรรมใหม่

**อ้างอิง:**

* คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการสำหรับงวดไตรมาส 3 ปี 2568 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 (เอกสารเลขที่ CHO 077/2568)