สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CBG): ผลประกอบการไตรมาส 2/2567

บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CBG) ในไตรมาส 2/2567 มีรายได้รวม 4,954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง ซึ่งมียอดขายลดลง 4% แต่เติบโต 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนรายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก เพิ่มขึ้น 19% โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายสินค้ากลุ่มอื่นๆ เพิ่มขึ้น 650% เกิดจากการผลิตและจำหน่ายขวดแก้ว กระป๋องอะลูมิเนียม และบรรจุภัณฑ์ต่างๆ

แผนธุรกิจและกลยุทธ์ในอนาคตของ CBG เน้นการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศ โดยเฉพาะเครื่องดื่มบำรุงกำลังคาราบาวแดง ซึ่งยังคงขายปลีกในราคา 10 บาท เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภค บริษัทฯ ยังคงสานต่อกิจกรรมทางการตลาดร่วมกับไทยรัฐภายใต้แคมเปญ "คาราบาวแดง ช่วยคนไทยสร้างอาชีพ" พร้อมกับการออกสินค้าใหม่ เช่น เบียร์คาราบาวและเบียร์ตะวันแดง เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยทำงาน ในส่วนของตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV และปรับกลยุทธ์การตลาดในประเทศจีน โดยคาดหวังว่าจะสามารถขยายตลาดและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ผลประกอบการในไตรมาส 2/2567 ของ CBG แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ โดยเฉพาะอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น 43% เป็น 691 ล้านบาท สะท้อนถึงการควบคุมต้นทุนที่เกิดประสิทธิภาพ อัตราส่วนทางการเงินที่น่าสนใจ ได้แก่ D/E (หนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น) ที่ต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในปี 2566 สูงถึง 3,903.41 ล้านบาท แต่เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบ 862.93 ล้านบาท หมายถึงบริษัทนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วน P/E (ราคาต่อกำไรต่อหุ้น) ที่ 27.96 ถือว่าอยู่ในระดับที่สูง สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่สูงเช่นกัน

**โอกาส**

* การเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศและต่างประเทศ
* การขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มวัยทำงานด้วยสินค้าใหม่
* การมีแบรนด์สินค้าที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี
* โครงข่ายการกระจายสินค้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
* ความสามารถในการควบคุมต้นทุนที่เกิดประสิทธิภาพ
* ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง
* เงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานในระดับสูง

**ความเสี่ยง**

* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง
* การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค
* การเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ
* ความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจในตลาดต่างประเทศ

CBG เป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโต เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวเพื่อรอการเติบโตและรับเงินปันผล แม้ว่าอัตราส่วน P/E จะอยู่ในระดับที่สูง แต่ก็เป็นผลมาจากความคาดหวังของนักลงทุนที่สูง สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้น อาจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะราคาหุ้นมีความผันผวนตามปัจจัยหลายอย่าง เช่น ผลประกอบการและการเคลื่อนไหวของตลาด