สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้รวม 5,098 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากการผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังคาราบาวแดงในประเทศ ซึ่งเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการคงราคาขายปลีกที่ 10 บาท และการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการรับจ้างจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลภายนอกเพิ่มขึ้น 26% โดยบริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมในการออกสินค้าใหม่ คือ เบียร์คาราบาว และ เบียร์ตะวันแดง ในช่วงไตรมาส 4/2567

บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มประเทศ AEC รวมถึงการส่งเสริมการขายสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้น บริษัทฯ วางแผนที่จะรักษาอัตราการเติบโตของรายได้ในระดับสูง โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการกระจายสินค้า ตลอดจนการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ

ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ของ CBG สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น 40% เป็น 741 ล้านบาท แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง แต่บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ระดับ 0.79 ซึ่งต่ำกว่า 1 สะท้อนถึงพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสในการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 28% ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการควบคุมต้นทุนได้อย่างดี ส่วน P/E ของ CBG อยู่ที่ 32.43 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูง สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ในอนาคต

โดยสรุปแล้ว CBG เป็นหุ้นที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยมีปัจจัยสนับสนุน เช่น การขยายตลาดต่างประเทศ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการกระจายสินค้า การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ และการควบคุมต้นทุนได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของ CBG คือ การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเครื่องดื่ม การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค และการควบคุมต้นทุน CBG จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว และสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง