สรุปงบล่าสุด BIS

บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุปสั้น
ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูล
สรุปด้วย AI(O) BOT
## สรุปผลประกอบการหุ้น BIS (บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน)) ปี 2567: การเติบโตที่แข็งแกร่งท่ามกลางความท้าทาย
บทความนี้เป็นการสรุปผลประกอบการของ บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIS ประจำปี 2567 โดยรวบรวมข้อมูลจากคำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ เพื่อให้ภาพรวมที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน ปัจจัยที่มีผลกระทบ และแนวโน้มในอนาคต
**ภาพรวมผลประกอบการปี 2567:**
BIS ประสบความสำเร็จในการสร้างการเติบโตของกำไรสุทธิ แม้ว่ารายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย โดยมีรายละเอียดดังนี้:
* **รายได้รวม:** 2,374.43 ล้านบาท ลดลง 2.16% จากปีก่อนหน้า (2,426.92 ล้านบาท)
* **กำไรสุทธิ:** 71.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 35.51% จากปีก่อนหน้า (52.88 ล้านบาท)
* **อัตรากำไรสุทธิ:** 3.02% เพิ่มขึ้นจาก 2.18% ในปี 2566
**ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโต:**
* **การเติบโตของผลิตภัณฑ์กลุ่ม Animal Health:** โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์รักษาและป้องกันโรคสำหรับสัตว์เลี้ยง (Pharmaceutical) และผลิตภัณฑ์เพื่อการวินิจฉัยโรคสำหรับสัตว์ (Diagnostic) ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง และการขยายตลาดสู่ต่างประเทศ
* **การบริหารจัดการต้นทุน:** บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์สำเร็จรูป (Complete Feed) มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น
* **การขยายตลาดผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง:** การเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ตัวเองในตลาด B2C ผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยเพิ่มรายได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ (Others)
* **การปรับโครงสร้างผู้บริหาร:** การปรับโครงสร้างผู้บริหารฝ่ายขายและฝ่ายบริหาร ส่งผลต่อการจัดประเภทค่าใช้จ่าย ทำให้การบริหารจัดการต้นทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
**ปัจจัยกดดัน:**
* **ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว:** ส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์ในกลุ่มปศุสัตว์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับสัตว์ (Nutrition)
* **การลดลงของรายได้จากลูกค้าเอกชนรายใหญ่:** ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามิน ซึ่งเป็นผลมาจากการประมูลงานใหม่
* **การลดลงของรายได้จากผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอาหารสัตว์ (Ingredients):** เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ และบริษัทมีนโยบายมุ่งเน้นสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงกว่า
* **การดำเนินธุรกิจใหม่ในต่างประเทศ:** การดำเนินงานธุรกิจใหม่ (ไงอพ เชินรไทลรร) โดยมีสำนักงานที่ประเทศพม่า ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับตัวสูงขึ้น
**การวิเคราะห์งบการเงิน:**
* **สินทรัพย์รวม:** 1,252.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.00% จากปีก่อนหน้า สินทรัพย์หลักประกอบด้วย เงินสด รายการเทียบเท่าเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น สินค้าคงเหลือ และสินทรัพย์ถาวร
* เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทเตรียมชำระค่าสินค้าและเงินกู้ยืมระยะสั้น
* สินค้าคงเหลือลดลง แสดงถึงการบริหารจัดการสินค้าคงเหลือที่ดีขึ้น
* **หนี้สินรวม:** 438.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.29% จากปีก่อนหน้า หนี้สินหลักคือ เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น
* เจ้าหนี้การค้าลดลง เนื่องจากบริษัทมุ่งเน้นสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงและควบคุมปริมาณสินค้าคงเหลือ
* หนี้สินอื่นเพิ่มขึ้น เนื่องจากการกู้ยืมระยะสั้นเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
* **ส่วนของผู้ถือหุ้น:** 813.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.94% จากปีก่อนหน้า กำไรสะสมเพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานและหักเงินปันผลจ่าย
**กระแสเงินสด:**
* **เงินสดสุทธิได้มาจากการดำเนินงาน:** 104.40 ล้านบาท (ปี 2567) เทียบกับ (22.56) ล้านบาท (ปี 2566) แสดงถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมาก
* **เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันสิ้นงวด:** 125.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 25.30 ล้านบาทในปีก่อนหน้า
**อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ:**
* **อัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio):** 2.42 เท่า แสดงถึงสภาพคล่องที่ดี
* **อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (Quick Ratio):** 1.58 เท่า แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นได้ดี
* **อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE):** 8.93% เพิ่มขึ้นจาก 6.78% แสดงถึงประสิทธิภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น
* **อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม (ROA):** 5.78% เพิ่มขึ้นจาก 4.57% แสดงถึงประสิทธิภาพในการใช้สินทรัพย์ในการสร้างกำไรที่ดีขึ้น
* **อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio):** 0.54 เท่า ทรงตัวจากปีก่อนหน้า แสดงถึงโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง
**ปัจจัยความเสี่ยงและโอกาส (เหมือนเดิมจากสรุปก่อนหน้า):**
* **ความเสี่ยง:**
* **ภาวะเศรษฐกิจ:** ความผันผวนของเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์
* **การแข่งขัน:** การแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงมีความรุนแรง
* **การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ:** การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน
* **โอกาส:**
* **การเติบโตของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง:** เป็นโอกาสในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง
* **การขยายตลาดต่างประเทศ:** โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ ASEAN มีศักยภาพในการเติบโตสูง
* **นวัตกรรมผลิตภัณฑ์:** การลงทุนในนวัตกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพสามารถสร้างความแตกต่างและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
**แนวโน้มอนาคต:**
แนวโน้มการลงทุนใน BIS ขึ้นอยู่กับความสามารถของบริษัทในการ:
* รักษาการเติบโตของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Animal Health โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง
* บริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง
* ขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด
**สรุป:**
BIS สามารถสร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2567 โดยมีการเติบโตของกำไรสุทธิและอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญปรับตัวดีขึ้น แม้ว่ารายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย บริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ และติดตามความสามารถของบริษัทในการรักษาการเติบโตในอนาคต
(9.00%)
(7.00%)
(11.90%)
(8.79%)
(2.66%)
(1.92%)
(13.23%)
(6.34%)
(6.20%)
(14.97%)
(26.33%)
(270.27%)