สรุปด้วย AI(O) BOT

บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2567 มีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 878 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 215 ล้านบาท หรือร้อยละ 32 สะท้อนถึงสภาวะตลาดที่กลับมาปกติ อย่างไรก็ตาม ต้นทุนสินค้าโดยรวมมีอัตราที่สูงขึ้นเนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่ที่บริษัทขายเป็นสินค้าที่ไม่ได้ผลิตในประเทศ และอาศัยการนำเข้าโดยตัวแทนผู้ผลิต ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 18 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จำนวน 179 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขาย เช่น ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ค่านายหน้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีก่อน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในลักษณะเดียวกันกับการเพิ่มขึ้นของรายได้ และในส่วนของค่าเช่าสถานประกอบการที่เพิ่มขึ้นจากการที่ศูนย์การค้าไม่มีนโยบายในการให้ส่วนลดช่วยเหลือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 แล้ว ส่วนของต้นทุนทางการเงินเป็นค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากการคำนวณสัญญาเช่าตามมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับที่ 16 เรื่องสัญญาเช่าทั้งจำนวน โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีกำไรก่อนภาษีจำนวน 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและบริการ ส่งผลให้ภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 49 โดยภาพรวมแล้วในไตรมาสนี้ บริษัทมีกำไร 23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 26

ในอนาคต BIG วางแผนที่จะขยายสาขาในเขตเมืองที่มีศักยภาพและยุทธศาสตร์ และพัฒนาช่องทางออนไลน์เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ปรับปรุงระบบจัดการสินค้าคงคลัง และควบคุมต้นทุน โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ในปี 2567 ไว้ที่ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากมีความมั่นใจว่าสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะดีขึ้น และการบริโภคในประเทศจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น กล้อง โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์เสริม ซึ่งเป็นสินค้าหลักของบริษัท

BIG ถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพสูง ผลประกอบการไตรมาส 2/2567 สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ โดยมีรายได้เติบโต และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตราส่วนทางการเงิน เช่น อัตรากำไรสุทธิ D/E และวงจรเงินสด แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงิน และความสามารถในการทำกำไรที่ดี เช่น อัตรากำไรสุทธิในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 6.82% แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรจากยอดขาย และ D/E ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 0.64 แสดงถึงภาระหนี้สินที่ต่ำ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ และช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ วงจรเงินสด ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 93.81 วัน แสดงถึงประสิทธิภาพในการจัดการเงินสด และความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์ และหนี้สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมูล P/E และ P/BV ของ BIG ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการผันผวนตามสถานการณ์ตลาด และกำไรสุทธิ โดย P/E ล่าสุด อยู่ที่ 15.91 และ P/BV ล่าสุด อยู่ที่ 0.8 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่อราคาหุ้น และผลประกอบการ ที่ยังไม่สูงนัก

**โอกาส**
* การขยายสาขาในเขตเมืองที่มีศักยภาพและยุทธศาสตร์
* การพัฒนาช่องทางออนไลน์
* การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
* การปรับปรุงระบบจัดการสินค้าคงคลัง
* การควบคุมต้นทุน
* การเติบโตของตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
* ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่คาดว่าจะดีขึ้น และการบริโภคในประเทศจะเพิ่มขึ้น

**ความเสี่ยง**
* การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดค้าปลีกอุปกรณ์ถ่ายภาพและโทรศัพท์เคลื่อนที่
* ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
* การเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ผู้บริโภค
* ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี

BIG เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาบริษัทที่มีพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักลงทุนระยะยาวที่ต้องการถือหุ้นเพื่อรอการเติบโต และรับเงินปันผล ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ตลาด และการแข่งขันอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเสี่ยง และโอกาสในการลงทุน อย่างรอบคอบ