BEYOND
บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน)

Oppday

ไตรมาสที่ 3 ปี 2568

สรุป OPPDAY

BEYOND เผยกลยุทธ์ปี 2568: โฟกัสการเติบโต, รักษาผู้นำ, และเพิ่มประสิทธิภาพ

สวัสดีนักลงทุนทุกท่าน บาบียอนจำกัดมหาชน กลับมาอัปเดตผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 พร้อมผู้บริหาร คุณกมลวรรณ วิปุลาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ

Agenda วันนี้

  1. อัปเดตภาพธุรกิจในรอบไตรมาสที่ผ่านมา
  2. Performance ในรอบ Q3
  3. Outlook กับ Business Strategy

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

แนวโน้มไตรมาส 4 มีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นมาก โรงแรมใน Portfolio มี 2 แห่งคือ Four Seasons ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และ Capella กรุงเทพฯ ไฮไลท์ล่าสุดคือการประกาศรางวัลโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก Top 3 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จาก The World's 50 Best Hotels โดย Four Seasons กรุงเทพฯ ติดอันดับ 2 และ Capella กรุงเทพฯ ติดอันดับ 3

ความสำเร็จระดับโลกสะท้อนความสามารถในการลงทุน วัดผลจากผลประกอบการและการยอมรับในเวทีต่างๆ สิ่งนี้สร้างความมั่นใจว่าบริษัทมาถูกทางแล้ว รางวัลทั้งโรงแรมและร้านอาหารจะทำให้บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาต่อไป ลูกค้าจะ selective มากขึ้นในเศรษฐกิจที่ท้าทาย จึงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด รางวัลเหล่านี้ช่วยในการตัดสินใจของลูกค้า

ให้ความสำคัญกับบรรษัทภิบาล, การควบคุมภายใน, การดำเนินงานโปร่งใส ปีนี้ยังได้รับรางวัลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ปี 2568 ในระดับดีเยี่ยม 5 ดาว ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 และได้คะแนนเต็ม 100 ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน และยังคง Certify องค์กรแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชั่นของประเทศไทย สิ่งนี้สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุนในการบริหารงานที่โปร่งใสและเท่าเทียม

ผลประกอบการไตรมาส 3 ในภาพรวมอุตสาหกรรมมีความท้าทายมาก มีผลกระทบจากปัจจัยภายในประเทศและภายนอกประเทศ เรื่องความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวและสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์

จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไทยหลังเดือนมกราคมมีการชะลอตัว ในช่วง 10 เดือนแรกมีนักท่องเที่ยวเกือบ 27 ล้านคน ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่คาดไว้ ก่อน Covid-19 ปี 2562 แตะเกือบ 40 ล้านคน หลังจากหลุดจากสถานการณ์ Covid-19 การคาดการณ์ก็คิดว่ามันจะมีการฟื้นตัวต่อเนื่องไป แต่มาเจอการชะลอตัวในปีนี้

จำนวนนักท่องเที่ยวไม่ได้ลดลงในทุก Source Market โดยจีนลดลงมากจากปัจจัยภายในภายนอกและของประเทศจีนเอง มาเลเซียแม้ลดลงแต่จำนวนยังสูง อินเดียมีพัฒนาการที่ดีมาก โรงแรมเองก็ได้รับนักท่องเที่ยวจากอินเดีย สะท้อนเป้าหมายไทยที่ต้องการมุ่งเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง โรงแรม Ultra Luxury สะท้อนความมีคุณภาพในการใช้จ่ายและเลือกประสบการณ์ในประเทศไทย

รัสเซียส่วนใหญ่อยู่ภูเก็ต ยุโรปและอเมริกาอยู่ที่กรุงเทพฯ ตลาดหลักคืออเมริกา มีการเติบโตและตัวเลขล่าสุดเปรียบเทียบกับปี 2562 น่าจะทะลุไปแล้ว

ยอดขายของโรงแรมแม้การฟื้นตัวอาจชะลอตัวในไตรมาส 3 แต่ก็ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 สัดส่วนลดลงจากปีก่อนเล็กน้อยที่ 6% แต่โตจากไตรมาส 2 ประมาณ 4% โดยสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นห้องพัก 48%, ร้านอาหาร 45%, รายได้อื่นๆ 7% โดยทั่วไปสัดส่วนจะประมาณนี้

ในไตรมาส 3 รายได้ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีก่อน สะท้อนภาพอุตสาหกรรม แต่บริษัทพยายามทำการตลาดเพื่อคงความเป็นผู้นำ ตั้งแต่ต้นปี โรงแรม Ultra Luxury ยังคงเป็น RevPAR อันดับ 1 และอยู่ใน Top 3 มาโดยตลอด

ยอดขายโรงแรมลดลง 6% จากปีก่อน EBITDA ลดลงมาอยู่ที่ 80 ล้าน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความมุ่งมั่นในการจัดการต้นทุนทางการเงินที่ลดลงมาโดยตลอด ในไตรมาส 3 ลดลงจากปีก่อนถึง 13%

ไตรมาส 3 ยังมีผลขาดทุน แต่มีการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มข้นและยังดำเนินต่อไป แม้ไตรมาส 4 จะดีขึ้นมาก แต่การควบคุมต้นทุนยังดำเนินต่อไปเพื่อผลักดัน Efficiency และความสามารถในการทำกำไร หลายมาตรการที่ทำไปเริ่มทยอยเห็นมาตั้งแต่ไตรมาส 3 และคงชัดเจนยิ่งขึ้นในไตรมาส 4

ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ทำรายได้รวม 2,230 ล้าน เป็นรายได้จากโรงแรม 2,220 ล้าน ลดลงจากปีก่อน 8% สถานะทางการเงินมีการปรับปรุงดีขึ้นทุกไตรมาส ยังมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง Net Interest Bearing Debt to Equity ยังลดลงอยู่ที่ 0.83 เท่า ลดลงจากงวดปีก่อน Total Liabilities to Equity Ratio ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำอยู่ที่ 1.05 เท่า ซึ่งต่ำกว่าในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน

สาเหตุที่ Current Portion เพิ่มสูงขึ้นจาก 2,000 ล้านเป็น 3,400 ล้าน คือการจัดตัวหนี้ ในพอร์ตของโรงแรมมีหนี้ระยะยาว 5,000 ล้าน ลดลงมาเหลือ 4,000 กว่าล้าน 3,000 ล้านเป็นหนี้กับสถาบันการเงิน จัดเป็นหนี้ระยะยาว มีระยะเวลาคืนเงินต้น 10-12 ปี สอดคล้องกับการลงทุนของโรงแรมที่เป็นการลงทุนระยะยาว

มีหนี้ส่วนหนึ่งที่รับมาตอนซื้อโรงแรม จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคมปีหน้า แต่ได้ Take Action ไปแล้วตั้งแต่ปีก่อนด้วยการคุยกับทางสถาบันการเงินในการที่จะ Refinance หนี้ส่วนนี้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในเรื่องของ Refinancing Risk ล่วงหน้า ในปีนี้ได้รับวงเงินจากสถาบันการเงินมาแล้ว 1,000 ล้าน Refinance ไปในเดือนตุลาคม จึงไม่ได้แสดงอยู่ในงวดเดือนกันยายน แต่ถ้าไปอ่านในหมายเหตุงบการเงินก็จะเห็นว่าได้เขียนไว้แล้วว่าในหนี้ 2,000 ล้านที่จะครบกำหนดในปีหน้าได้ Refinance ไปแล้ว 1,000 ล้าน

การ Refinance ไม่ใช่เพียงแค่เป็นการลดในเรื่องของความเสี่ยงเรื่องของ Refinancing แต่เป็นการขยายระยะเวลา ซึ่งทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในเรื่องของ Cash Flow มากขึ้น ดอกเบี้ยที่ได้รับจากสถาบันการเงินก็เป็นดอกเบี้ยที่ดีกว่าดอกเบี้ยเดิม ซึ่งอันนี้ก็ยิ่งทำให้บริษัทผลักดันในเรื่องของความสามารถในการทำกำไรได้เพิ่มยิ่งขึ้น

Current Portion อื่นๆ นี่ก็จะเป็น Current Portion ปกติ เราก็จะมีหนี้ระยะยาวที่ครบกำหนดชำระใน 1 ปี จากสิ้นงวดเดือนกันยายนไปจนถึงกันยายนปีหน้าอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท อีกส่วนหนึ่งเป็น Debenture ที่ยังมีอยู่อีก 1 Series คือ 400 ล้านบาท จะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม ซึ่งอันนี้เราก็มีแผนที่จะชำระคืนตามกำหนดอยู่แล้ว ในส่วนที่ 3 ก็จะเป็นในเรื่องของค่ามัดจำของลูกค้า ซึ่งลูกค้าโรงแรมเวลาที่จะมีการจองในเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการจัดงานเนี่ย ก็จะมีการจ่ายมัดจำล่วงหน้า บางครั้งก็จะมีการจ่ายมัดจำล่วงหน้าเป็น 6 เดือน 8 เดือน 1 ปี ซึ่งตัวนี้ก็ถือว่าไม่ได้เป็นหนี้ แต่เป็นภาระที่เดี๋ยวพอลูกค้ามาจัดงานแล้วชำระเงิน ส่วนนี้ก็จะกลายไปเป็นรายได้ต่อไป

การบริหารจัดการในเรื่องของ Capital Structure และในเรื่องของโครงสร้างเงินทุน ในเรื่องของต้นทุนของทางการเงิน อย่างที่เรียนไปตอนต้นว่าด้วยการที่บริษัทได้มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด ตั้งแต่ที่ซื้อกิจการโรงแรมมา ก็จะเห็นในเรื่องของผลประกอบการ ในเรื่องของ Cash Flow ที่สินทรัพย์ที่มีเนี่ยสามารถที่จะ Generate ทั้ง Cash Flow แล้ว ก็ Free Cash Flow ได้เนี่ย ก็ทำให้มุมมองความเสี่ยงของสถาบันการเงินต่อกลุ่มธุรกิจของบริษัทลดลง ในขณะเดียวกันเนี่ยก็ทำให้มีความน่าเชื่อถือ ได้สร้างความน่าเชื่อถือต่อสถาบันการเงินที่สูงขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นเนี่ยตั้งแต่ปีที่แล้วที่มีการเจรจากับสถาบันการเงินแล้วก็มีการที่จะคุยเพื่อที่จะหา Terms และ Condition ที่เหมาะสมกับสถานะของบริษัท แล้วก็ในที่สุดเราก็มีการเซ็นสัญญานะคะ แล้วก็เปลี่ยนแปลง Terms ต่างๆ ทั้งในส่วนของยอดหนี้ 3,000 ล้าน แล้วก็มาทำ Refinancing ของยอดหนี้ 2,000 ล้าน รวมไปถึงการได้วงเงินเพิ่มเติมจากธนาคารเพื่อที่จะให้บริษัท ใช้ในการสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจต่อไป ดังนั้นเป็นส่วนหนึ่ง จึงทำให้บริษัทสามารถปลด ล็อก ในส่วนของ Cash Flow กลับมาให้มันมีความยืดหยุ่น ได้ดีขึ้น ส่วนที่ 2 ก็คือในเรื่องของการปรับ สูตรของดอกเบี้ย

เพื่อเป็นการได้รับประโยชน์จากการที่ดอกเบี้ยอยู่ในขาลง บริษัทมีการปรับสูตรดอกเบี้ยที่เป็น Fix เนี่ยกลับมาเป็น Float มากขึ้น และในขณะเดียวกันบริษัทก็ได้รับสูตรดอกเบี้ยจากธนาคารที่เป็นสูตรดอกเบี้ยที่ดีขึ้นอย่างมาก เพราะฉะนั้นตอนนี้ Average Cost of Fund ของบริษัท เนี่ยกลับมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า MLR อย่างมีนัยยะสำคัญ ก็สิ้นงวด ไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเนี่ย Cost of Fund เราก็อยู่ที่ประมาณสัก 5.7% นะคะ แล้วก็เมื่อเราจ่าย Debenture ในปีหน้าเนี่ย ก็คาดว่า Cost of Fund ตัวนี้ก็จะลดลงไปอีก ในขณะที่แนวโน้มดอกเบี้ยเองก็ยังมีแนวโน้มที่จะลดลง นะคะ ในส่วนนี้เรามองว่าก็จะเป็นประโยชน์นะคะ แล้วก็จะช่วยสร้าง รากฐานที่ดี จะช่วยปลด ล็อก ศักยภาพของการสร้างผลตอบแทนที่ดีของสินทรัพย์ของบริษัทไปในระยะยาวด้วย

Debenture ที่บริษัทออกมาชำระคืนตามกำหนดในทุกซีรีส์ ในส่วนของ 400 ล้านที่จะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม มีแผนและ Cash Flow ที่จะรองรับ ที่จะชำระคืนตามกำหนดแล้ว และก็ในส่วนของปีหน้าเนี่ยเราก็ไม่ได้มีแผนว่า จะไปออกหุ้นกู้อีกนะคะ เพราะว่าตอนนี้เนี่ยเรามีฐานของ เงินกู้ Project Financing แล้วก็เป็น Corporate Finance จากสถาบันการเงิน ซึ่งมีเงื่อนไขที่ทั้งต้นทุนทางการเงินแล้วก็เงื่อนไขที่ดีกว่า

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

เห็นการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวอย่างชัดเจนในไตรมาส 4 คาดว่าจะปิดทั้งปีอยู่ที่ 33 ล้านคน ปีหน้าทางท่องเที่ยวก็วางเป้าอยู่ที่ใกล้ๆ กับปี 2567 นะคะ อยู่ที่ 36 ล้านคน ซึ่งอันนี้ก็เป็นการ Take Factor ทุกๆ Factor นะคะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการชะลอตัวของ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนนะคะ ในเรื่องของ ภาวะเศรษฐกิจโลก แล้วก็ในเรื่องอาจจะมีความไม่แน่นอนในเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ต่างๆ นะคะ แต่เราก็มองว่าตัวเลข 36 ล้านคนเนี่ยก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีมาก นะ คะสำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการ Target กลุ่มที่มีคุณภาพ เพราะว่าตอนนี้เนี่ย แคมเปญต่างๆ ของการท่องเที่ยวเนี่ยจะเน้นในเรื่องของการ spending นะ คะ ไม่ว่าจะเป็น เป็น การ spending ต่อ ร night ที่สูงขึ้น กับ 2 เป็น การ extend room night stay นะ คะ อันนี้ก็เป็น Target ที่ เรา มองว่าเป็น Target ที่ดีมาก เพราะมันจะเน้นในเรื่องของคุณภาพของ อ่า ผู้ ผู้ เดิน ทาง นะ คะ ซึ่งโรงแรมของเราทั้ง 2 โรงแรมนี้จริง ๆ เป็นโรงแรมที่สอดคล้องกับทิศทางนะคะ ทิศทางของการท่องเที่ยว แล้วก็สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ บริโภคที่เรามองเห็นอย่างชัดเจนนะคะ ว่า อ่า ทิศทางของพฤติกรรมของผู้บริโภคเนี่ยจะ ค่อนข้าง Selective นะ คะ แล้วก็จะค่อนข้าง ให้ความสำคัญกับเรื่องของประสบการณ์ ในขณะที่ ใน เรื่อง ของการจับจ่ายใช้สอยเนี่ย ถ้าประสบการณ์เป็นประสบการณ์ที่ เป็น สิ่งที่เขาชอบ เป็นสิ่งที่เขาโดนใจเนี่ย จริงๆ เรื่องราคาเนี่ยไม่ค่อย ไม่ค่อยเป็นประเด็นนะคะ ก็คือเป็นเรื่องของความรู้สึกทางจิตใจมากกว่านะคะ ก็เป็น เป็น เรื่อง ของ emotional attach เพราะฉะนั้นเนี่ย ใน ส่วนของ ราคาเนี่ย มันก็จะสามารถปรับขึ้นได้ ถ้าเราสามารถส่งต่อประสบการณ์ที่ประทับใจให้กับลูกค้าได้นะคะ

ระยะสั้น ผลประกอบการ ไตรมาส 4 โดยปกติไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของบริษัทอยู่แล้ว ด้วย รูปแบบของ โรงแรมของบริษัท ที่รองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่ม Reacher นะ คะ แล้วก็ อ่า Location ของเราที่อยู่ริมแม่น้ำก็เป็น Location ที่รองรับกลุ่ม Reacher แล้วก็ในเรื่องของเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุน อ่า ราย ได้ FN ต่าง ๆ นะ คะ ก็ไตรมาส 4 ก็จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดแล้วก็สูงที่สุด ของเรามาโดยตลอด นะคะ ก็ Forecast ของเราของไตรมาส 4 เนี่ยค่ะ จาก อ่า เดือน ตุลาคมนะคะ ที่ปิดไป เดือน พฤศจิกายนที่กำลังจะปิดลง แล้วก็ Forward อ่า อ่า Booking ที่เรามี ออนแฮนด์สำหรับเดือนธันวาคมนะคะ เราก็มีความมั่นใจนะคะที่ รายได้ของไตรมาส 4 เนี่ยค่ะ จะ กลับมาเทิร์นอราว แล้วก็จะเป็นรายได้ที่สูงที่สุดนะคะ อ่า ของทั้งปีแน่นอนอยู่แล้วนะคะ แต่จะเป็นรายได้ที่สูงที่สุด ที่ อ่า เราจะเคยทำมาด้วยนะคะ แล้วเราก็คาดการณ์ตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะเป็นรายได้ที่สูงกว่าไตรมาส 4 ของปีที่แล้วนะคะ อันนั้นก็จะเป็น อ่า Outlook ของไตรมาส 4 นะคะ

ถ้ามาดูเปรียบเทียบของ ช่วงปีหลังนะคะ ของปี 2025 กับปี 2024 เนี่ยเราก็มองว่า Gap ที่เกิดขึ้นในไตรมาส 3 เนี่ยค่ะ ก็น่าจะมา Blidge Gap ใน ไตรมาส 4 นะคะ แล้วก็ อ่า รายได้ของช่วงครึ่งปีหลังเนี่ยก็น่าจะ อ่า ไม่ได้ลดลงจากอ่าปีที่แล้วนะคะ แล้วก็แต่โดยภาพรวมเนี่ยค่ะ เนื่องจากอ่าช่วงเอิ่ม ครึ่งปีแรกนะคะ ที่รายได้เนี่ยลดลงจากปีที่แล้วนั้นในภาพรวมของทั้งปีเนี่ยก็คาดว่า ตัวรายได้เองน่าจะยังอ่าต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อยนะคะ

สำหรับปี 2569 นะคะ สำหรับปี 2569 อ่า โฟกัสเนี่ยก็จะ เป็น ตั้งแต่ท็อปไลน์ไปจนถึง Bottom Line นะคะ เพราะว่า อ่า เนื่องจากว่าตอนปี 2568 เนี่ยอ่า ราย ได้อ่ามีการสะดุดนะคะ จากสถานการณ์ต่างๆ เพราะฉะนั้นตอนนี้เราก็ ต้องใส่ อ่า เอนจี้ไปหรือทั้งหมดเลยนะคะ ทั้งในเรื่องของรายได้ที่จะต้องผลักดันให้เกิดการเติบโตนะคะ ในเรื่องของอัตราการทำกำไรซึ่งเราก็มองว่า อ่า หลายๆ มาตรการที่เราทำมาในการทำ คอร์ส คอนโทรล นะคะ ในการลดต้นทุนทางการเงินต่างๆ เนี่ยก็จะช่วยยิ่งส่งผลให้เห็นชัดเจน ในปีหน้า 2569 นะ คะ ซึ่งปีหน้าเราก็ Target ที่จะ อ่ามี Growth อ่า ในเรื่องของยอดขายเติบโตจากปีนี้นะคะ อยู่ที่ 10% นะคะ ก็ถือว่าจะได้กลับไปสู่ อ่า Double Digit Growth กันอีกครั้งหนึ่งในปีหน้านะคะ ก็ถามว่าจะต้องทำอย่างไรนะคะ กลยุทธ์หลักๆ ก็คือ 1 ต้องคงความเป็นผู้นำนะคะ ของ 2 โรงแรมนะคะ ที่เราได้ทำมาตลอด เพราะฉะนั้นตรงนี้เราต้องยังต้องรักษาความเป็นผู้นำแม้ว่าจะมีโรงแรมที่เปิดใหม่ ที่อาจจะอยู่ในกลุ่ม Ultra Luxury ไม่ว่าจะในซิตี้ นะ คะ หรือในริมแม่น้ำ อ่า ที่อาจจะเกิดขึ้น ใน อนาคตก็ตามอันเนี้ยเป็นสิ่ง ที่ สำคัญที่เราจะต้องคงความเป็นผู้นำนะคะ อันที่ 2 ก็คือการที่จะต้อง อ่า Always Over delivery นะคะ ให้เราอ่ะอยู่ในใจของลูกค้าเสมอนะคะ เพราะฉะนั้นเนี่ย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเนี่ย ลูกค้าก็จะเลือกโรงแรมของเรานะคะ เป็น Top Of Mind อยู่เสมอ งั้นพอส่วน Top Line มาแล้วเนี่ย อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญของเราก็คือในเรื่องของ Efficiency นะ คะ นั้นการผลักดันในเรื่องของ Margin เนื่องจากว่า อ่า ที่เคยแชร์กับท่านนักลงทุนเนี่ย จริงๆ โรงแรมเราต้องถือว่าเป็นโรงแรมใหม่ นะคะ เราก็เพิ่งเปิดมาได้ไม่กี่ปีนะคะ เพราะฉะนั้นเนี่ยมันยังไปไม่ถึง Fullless อ่า potential นะคะ ในเรื่องของ Efficiency ยังมีรูมให้เราสามารถที่จะปรับปรุงมีรูมให้เราสามารถที่จะ อ่า ผลักดัน อ่า ไปได้อีกในเรื่องของ Margin ต่างๆ นะคะ ซึ่งอันนี้เราก็จะให้ความสำคัญอย่างมากนะคะ ในส่วนอื่นๆ เนี่ยก็จะต้อง อ่า ensure ว่าทรัพย์สินของบริษัท นะคะ อยู่ในสภาพที่ดี แล้วก็นอกจากนั้นเนี่ยก็อาจจะมีการต้องลงทุนบ้างเล็กน้อยในการที่จะปรับปรุงหรือปรับรูปแบบให้เข้ากับอ่าพฤติกรรมของลูกค้าหรือความต้องการของลูกค้านะคะ แล้วก็ส่วนที่สำคัญที่สุดก็เป็นเรื่องของการยัง ต้องมุ่งมั่นที่จะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัท เนี่ยแข็งแกร่งนะคะ เพราะฉะนั้นเนี่ยก็จะเห็นว่าแม้ปีนี้เนี่ยค่ะจะเกิดสถานการณ์ อ่า มากมายหลายอย่างที่เกิดขึ้นนะคะ แต่ อย่างไรก็ตามเนี่ยเรายังสามารถ Generate อ่า Cash Flow ที่เพียงพอไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ อ่า Dead obligation นะคะ ในเรื่องของการลงทุนต่างๆ นะคะ ที่ยังคงเป็นไปตามแผนนะคะ

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

อัปเดตล่าสุด คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติโครงการ Share Repurchase โดยได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แล้ว วัตถุประสงค์ที่สำคัญก็เพื่อให้โครงสร้างเงินทุนของบริษัทเนี่ยมีประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 ธันวาคมวันจันทร์หน้านะคะ ไป 6 เดือนนะคะ ไปสิ้นสุดในเดือนพฤษภาคม อ่า ปีหน้านะคะ ในเรื่องของการซื้อคืนอ่ะค่ะก็จะทำผ่าน อ่า ระบบอ่าซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์นะคะ แล้วก็ อ่า เราได้เซ็ตอ่า วงเงินนะคะ ในการที่จะซื้อคืนเนี่ยอยู่ที่ 250 ล้านบาทนะคะ แล้วก็วอลุ่มเนี่ยก็คือไม่เกิน 10% นะ คะ จริงๆ 29 ล้านก็อยู่ที่ประมาณ 10% นะคะ ของทุนที่อ่าชำระแล้วนะคะ ของหุ้นที่ชำระแล้วของบริษัทนะคะ อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งพัฒนาการนะคะ ที่เรามองว่า อ่า เราต้องทำทั้งในเรื่องของ Business Optimization ในเรื่องของผลประกอบการ ในเรื่องของการสร้างประสิทธิภาพต่างๆ นะคะ แต่ในขณะเดียวกันเนี่ยสิ่งที่จะ อ่า สำคัญอีกส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของการในการจัด ในเรื่องของเงินทุนนะคะซึ่งเรามองว่าตัวนี้ก็จะช่วยปลด ล็อก ศักยภาพ ของการสร้างผลตอบแทนนะคะให้กับอ่าท่านผู้ลงทุนนะคะ

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่อเนื่องในปีหน้า แต่อาจจะลดน้อยลงจากปีที่แล้ว ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของการท่องเที่ยวของไทย ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ความเป็นผู้นำของโรงแรม รวมถึงความสามารถในการแข่งขัน จะเป็นแรงผลักดันให้เติบโตต่อไป การได้รับรางวัลระดับโลกสะท้อนว่าไม่ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร ลูกค้าก็ยังเลือ กโรงแรมเป็นที่หนึ่งในดวงใจ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

มุ่งมั่นพัฒนาการลงทุน บริหารสินทรัพย์ และจัดการผลตอบแทนให้มั่นคงในระยะยาว สร้างให้บริษัทเป็นบริษัทลงทุนที่เป็นผู้นำในกลุ่มของ Luxury Hospitality เป้าหมายไม่ใช่แค่สร้างผลตอบแทนให้กลุ่มของบริษัทหรือผู้ลงทุน แต่ต้องการจะยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในเวทีโลกอย่างภาคภูมิใจ

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศค่อนข้างสูง บริษัทติดตามเรื่องนี้มาตลอด Competitive Landscape ไม่ได้ดูเฉพาะ Supply ในประเทศ ดูการแข่งขันระหว่างประเทศด้วย โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่มี product คล้ายกัน

ในกลุ่ม Long hall ยังมีการเติบโตที่ดีและมีศักยภาพในการเติบโตต่อ ถ้ามาดูในกลุ่ม อ่า Short hall ซึ่งโดยปกติเนี่ยก็จะสามารถ อ่า ตัดสินใจได้เร็วกว่าในการเดินทางอยู่แล้วอ่ะนะคะ เราก็ยังมองว่าประเทศไทยเนี่ยค่ะยังมีจุดเด่นนะคะ จุดเด่นของประเทศไทยก็คือความหลากหลายของ Destination นะ คะ อ่าอาหารเนี่ยคงไม่ต้องพูดนะคะอันดับ 1 อ่า ของโลกแน่นอนนะคะ ก็อยู่ในเวทีโลกมาโดยตลอดในเรื่องของทั้งอาหารไทยอาหารท้องถิ่นนะคะ แล้วก็ร้านอาหารต่างๆ นะคะ ที่หลากหลายในระดับ International แล้วก็การที่ประเทศไทยเนี่ยได้รับเอิ่ม การเอิ่ม ต้องบอกว่าส นะ คะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมิชลินนะคะ ที่เพิ่มมากขึ้น จำนวนร้านอาหารที่ได้รับการ Certify เพิ่มมากขึ้น มีร้านอาหารที่ติดอันดับโลก ของ World 50 Best ด้วยนะคะ ของ Asia 50 Best ด้วย เอิ่ม ยังมองว่าประเทศไทยเนี่ยยังเป็น เป้าหมายที่เป็นจุดหมายระดับโลกของ อ่า การท่องเที่ยวนะคะ ของ ของ ผู้ เดินทางทั่วโลกนะคะ เพราะฉะนั้นเนี่ยเรายังมองว่า ไม่ ไม่ น่าจะเกิด คิดว่าไม่ได้เกิดผลกระทบทางโครงสร้างนะคะ กับประเทศไทยในการที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปในกลุ่มของ อย่างเช่นอ่า ประเทศคู่แข่งนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม นะคะ ญี่ปุ่นเกาหลีเพิ่มมากขึ้นนะคะ จริงๆแล้วของเราก็มียังมีนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในบางมาร์เก็ตด้วยนะคะ

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): (เริ่ม นาทีที่ 48:50)

คำถามแรก: แนวโน้มการเติบโตของ Margin ของบริษัทในอนาคตจะเป็นอย่างไรบ้าง?

ตอบ: เรื่อง Margin เป็นผลลัพธ์ของประสิทธิภาพและประสิทธิผล เรามุ่งเน้น Efficiency ของทั้งสองโรงแรม วันนี้ยังมองว่าทั้งสองโรงแรมยังไม่ถึงจุด Stable หรือ Fullless Potential จึงยังมี Room ที่จะผลักดัน Margin ให้สูงขึ้นได้ ที่ผ่านมาจะเห็นว่า Margin เพิ่มขึ้นมาโดยลำดับ อาจมีสะดุดในปีนี้ แต่ปีหน้าตั้งเป้าที่จะมี Growth ของ Margin ต่อไป ซึ่งจะมาจากทั้งการผลักดันยอดขายให้ได้เป้า และการมี Cost Management ต่างๆ

คำถามถัดมา: หลังจากที่โรงแรมได้รับรางวัล World's 50 Best Hotels ทั้งสองโรงแรมอยู่ในอันดับ Top 3 คือมันมี improvement ของ Performance อย่างไรบ้าง?

ตอบ: อันนี้เห็นชัดเจนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนที่ Capella ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ของโลก ก็มีแฟนคลับติดตามมา ในส่วนนี้ข้อดีของรางวัลต่างๆ เหล่านี้ คือเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มลูกค้าที่อาจจะยังไม่ได้รู้จักแบรนด์ของเรา หรือยังไม่ได้คุ้นเคยกับแบรนด์ของเรา เพราะฉะนั้นเนี่ย โดยส่วนใหญ่เนี่ยเวลาลูกค้าไม่ได้คุ้นเคยหรือยังไม่ได้รู้จักแบรนด์ของเราเนี่ย ช่องทางการ อ่า การจองเนี่ยค่ะก็จะไปผ่าน ที่ 3 ปาร์ตี้ นะคะ รางวัล เหล่านี้ค่ะ ที่เป็นเลเบิล อ่า ของโรงแรมของเราเนี่ยก็จะช่วยในการตัดสินใจของลูกค้าที่จะเลือกโรงแรมเรา อ่า มากกว่าที่จะไปเลือกเอิ่มที่อื่นนะคะ ซึ่งเราเห็นมาตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วเราก็มองเห็นว่า อ่า ตั้งแต่ประกาศมาเนี่ยค่ะซึ่งอาจจะประกอบด้วยมันเป็น อ่า High Season ด้วยนะคะ อันนี้ก็จะเห็นเอ่อผลบวกอย่างชัดเจนเหมือนกันค่ะ

คำถามถัดมา: ตอนนี้มีข่าวเรื่องการแข่งขันระหว่างประเทศ การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่ค่อนข้างสูง ทางบริษัทมองภาพการท่องเที่ยวไทยในปีหน้าและปีต่อๆ ไปอย่างไรบ้าง?

ตอบ: เรื่องนี้ติดตามมาตลอด ดูการแข่งขัน Competitive Landscape ไม่ได้ดูเฉพาะ Supply ในประเทศ ดูการแข่งขันระหว่างประเทศด้วย โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมี product คล้ายๆ กัน Long hall ยังมีการเติบโตที่ดีและมีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไป ประเทศไทยยังมีจุดเด่นคือความหลากหลายของ Destination อาหารอันดับ 1 ของโลกแน่นอน อยู่ในเวทีโลกมาโดยตลอดในเรื่องของทั้งอาหารไทยอาหารท้องถิ่นนะคะ แล้วก็ร้านอาหารต่างๆ นะคะ ที่หลากหลายในระดับ International แล้วก็การที่ประเทศไทยเนี่ยได้รับเอิ่ม การเอิ่ม ต้องบอกว่าส นะ คะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมิชลินนะคะ ที่เพิ่มมากขึ้น จำนวนร้านอาหารที่ได้รับการ Certify เพิ่มมากขึ้น มีร้านอาหารที่ติดอันดับโลก ของ World 50 Best ด้วยนะคะ ของ Asia 50 Best ด้วย เอิ่ม ยังมองว่าประเทศไทยเนี่ยยังเป็น เป้าหมายที่เป็นจุดหมายระดับโลกของ อ่า การท่องเที่ยวนะคะ ของ ของ ผู้ เดินทางทั่วโลกนะคะ เพราะฉะนั้นเนี่ยเรายังมองว่า ไม่ ไม่ น่าจะเกิด คิดว่าไม่ได้เกิดผลกระทบทางโครงสร้างนะคะ กับประเทศไทยในการที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปในกลุ่มของ อย่างเช่นอ่า ประเทศคู่แข่งนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม นะคะ ญี่ปุ่นเกาหลีเพิ่มมากขึ้นนะคะ จริงๆแล้วของเราก็มียังมีนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในบางมาร์เก็ตด้วยนะคะ

คำถามถัดมา: อยากขอทราบอัปเดตเรื่องการเปิดโรงแรมและร้านอาหารใหม่ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง?

ตอบ: แพลนคือจะประกาศต้นปี ตอนที่มาเจอกันอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ตอนที่ประกาศงบปี ยังดำเนินการตามแผนอยู่ ปีหน้าจะมีการเปิด อ่า โรงแรมนะคะ จริงๆ ปีนี้นักลงทุน อ่า คงจะได้เห็นข่าวที่เราตั้ง อ่า บริษัท อ่า ที่ทำเรื่องแบรนด์นะคะ ของโรงแรมไปแล้วนะคะ ก็เอิ่มโรงแรมที่จะเปิดใหม่ในปีหน้าจะเป็นโรงแรมในประเทศไทย แล้วก็จะใช้แบรนด์ของเราเองนะคะ อ่า แล้วก็จะมีร้านอาหารที่ต่างประเทศ อ่า 2 ร้านที่เราทำเป็น อ่า รูปแบบของ JV กับพาร์ทเนอร์นะคะ ก็ทั้ง 2 ร้านจริง ๆ ก็จะเปิดในเดือนมกราคม ปีหน้านี้นะคะ ก็เดี๋ยวตอนที่ อ่า คือตั้งใจว่าจะมาอัปเดตในเรื่องของ อ่า ข้อมูลต่างๆ หรือเรื่องของตัวเลขต่างๆ นะคะ ก็อาจจะมีคำถามว่าเพิ่งเปิดในปีแรกนะคะ ทั้งร้านอาหารทั้ง 2 ร้านแล้วก็ทั้ง อ่า โรงแรมที่จะเปิดใหม่เนี่ยจะมีผลกระทบกับเอิ่ม กำไรและยอดขายอย่างไรหรือไม่นะคะ ในส่วนของยอดขายเนี่ยก็จะมียอด ขายเข้ามาเพราะว่าทั้ง 2 ร้านอาหารเนี่ยค่ะก็จะเปิดตั้งแต่ต้นปีนะคะ ก็จริงๆ ก็ จะมี ยอดขายเอิ่มจริงๆต้องเรียกว่าเป็นกำไรนะคะ เพราะว่าเราคงจะเอามาเป็นระดับของเอ่อกำไรขาดทุนเลยนะคะ ก็เราก็คาดหวังว่ายอดขายทั้งปีนะคะ ก็จะสามารถเอิ่ม สร้างผลตอบแทนที่ดีได้นะคะ ส่วนโรงแรมเนี่ยค่ะ ก็เอ่อเราคาดว่าจะเปิดเอ่อช่วงของอ่าปลายไตรมาส 3 ปีหน้านะคะ เพราะฉะนั้นเนี่ยผลกระทบกับเอิ่มผลประกอบการปีหน้าจริงๆ ก็ น่าจะน้อยมากนะคะ ทั้งในส่วนของยอดขายและก็ระดับของกำไรนะคะ

คำถามเพิ่มเติม: มีการขยายธุรกิจ จะมีการขยายเพิ่มเติมอีกหรือไม่รวมถึงจะมีธุรกิจใหม่ ๆ เพิ่มเติมไหมคะ?

ตอบ: ธุรกิจใหม่ๆ คงไม่ใช่ เพราะโฟกัสในเรื่องของ Hospitality Investment เพราะฉะนั้นการขยายงานก็จะอยู่ในกรอบของ Hospitality Investment ก็คือ โรงแรม F&B โรงแรมจะมีแบรนด์ที่เราทำเองที่จะเปิดในปีหน้า งั้นก็คงยัง มี 1 โรงแรม ถ้าจะมีการขยายงานของโรงแรมนี้ไปในพื้นที่อื่น ๆ เนี่ยก็คงจะได้มาแชร์เอ่อในโอกาสต่อไปนะคะ ในส่วนของ ธุรกิจอาหารเนี่ยค่ะก็จะมี 2 ร้านนี้ที่เปิดนะคะ ในขณะเดียวกันเนี่ยจริงๆเราก็มีอ่าโปรเจคที่อยู่ในไลน์นะคะ ซึ่งก็คิดว่าคงจะได้มาประกาศเพิ่มในโอกาสต่อไปด้วยเช่นกันค่ะ

คำถามถัดมา: เป็นเรื่องความคืบหน้าในการขายที่ดินของจังหวัดตราดค่ะ?

ตอบ: ยัง Active อยู่ตลอดในการที่จะขาย Non Core Asset ในช่วงที่ผ่านมาด้วยสถานการณ์ของเศรษฐกิจ นักลงทุนอาจจะซาๆ ไปในเรื่องการที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ แต่ว่าอย่างไรก็ตามอันนี้ก็ยังอยู่ในแผนที่ที่จะขายค่ะ

เชิญชวนนักลงทุนร่วมบริจาคและส่งกำลังใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ทางภาคใต้ ซึ่งที่หนักหน่อยก็จะเป็นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง สตูล พัทลุง ตรัง ยะลา ต่าง ๆ บียอน เตรียมที่จะช่วยฟื้นฟูและเตรียมที่จะบริจาค ตอนนี้คงมีการรับบริจาคในหลายช่องทาง โดยสามารถบริจาคไปยังมูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หรือบัญชีสภากาชาดไทยเพื่อภัยพิบัติ ตอนนี้คงต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ

สรุป: BEYOND ตั้งเป้าปี 2568 ในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง, รักษาความเป็นผู้นำในตลาด Ultra Luxury, และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไร โดยใช้กลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้า, ควบคุมต้นทุน, และจัดการโครงสร้างเงินทุนให้มีประสิทธิภาพ