สรุป OPPDAY หุ้น BEYOND

บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน)
สรุปงบการเงิน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2567
สรุป OPPDAY
เปิดวิสัยทัศน์ Beyond Group: ผลประกอบการปี 2567 และทิศทางอนาคตธุรกิจโรงแรม
สวัสดีนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เราจะมาอัปเดตผลประกอบการประจำปี 2567 ของบริษัท บาว แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และทิศทางในอนาคต โดยคุณกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการของเรา
Agenda ในวันนี้
- อัปเดตพัฒนาการของบริษัท
- ผลประกอบการประจำปี 2567
- Outlook ประจำปีนี้
- กลยุทธ์การลงทุน
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ตลอดปีที่ผ่านมา Beyond ยังคงเติบโตและปรับตัว ก้าวข้ามความท้าทายต่างๆ พร้อมทั้งพยายามฉกฉวยโอกาสในธุรกิจของเรา สิ่งที่เราทำคือการสร้างความเป็นผู้นำในบทบาทของผู้ลงทุนของธุรกิจบริการ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
วันนี้อยากจะมาทบทวนในเรื่องของผลการดำเนินงานในปีที่แล้ว และอยากจะยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ Beyond ในการที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน การสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงานเพื่อสร้างอัตราการทำกำไรและผลตอบแทนที่ดี เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนในเรื่องของการสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับท่านผู้ถือหุ้น
หลายๆ ท่านจะคุ้นเคยกับ Portfolio ของเราเป็นอย่างดี ภาพรวมทั้งหมดตรงกับวิสัยทัศน์ที่เราวางไว้ คือ "Inspiring New Ways to Experience the World" รูปแบบของโครงการของเราจะมีความแตกต่างจากในอุตสาหกรรม ปัจจุบันมี 2 โรงแรม ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเจ้าพระยาเอสเตท ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพมาก นอกจากจะอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ แล้ว ยังอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถือว่าเป็นโครงการระดับ Iconic มีพื้นที่กว่า 35 ไร่ และ Riverfront ยาวที่สุดกว่า 350 เมตร
ตั้งแต่เปิดโครงการมา เจ้าพระยาเอสเตทก็ถือว่าเป็น Landmark แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ และของประเทศไทย นำเสนอทั้งในส่วนของศักยภาพที่เติบโต อัตราผลตอบแทนต่างๆ และ Lifestyle ที่ไร้ขีดจำกัด
โรงแรมของเราตั้งอยู่บนทำเลนี้ ซึ่งมีทั้งโรงแรม Four Seasons และโรงแรม Capella ทั้งสองโรงแรมเพิ่งเปิดดำเนินการมา 5 ปี โดยเปิดดำเนินการในช่วง Covid พอดีในปี 2020 Beyond เข้าไปซื้อหุ้น 100% ของ 2 โรงแรมนี้ในช่วงปลายปี 2021 และเราได้ดำเนินงานมาเต็ม 3 ปีแล้ว คือปี 2022, 2023 และ 2024 ถือว่าเป็นการดำเนินงานโดยเต็มรูปแบบ
โรงแรม Four Seasons ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบไปด้วยห้องพักที่หลากหลาย 299 ห้อง และร้านอาหารที่ให้บริการหลายรูปแบบ มีทั้งร้านอาหาร บาร์ และพื้นที่จัดเลี้ยงที่สามารถให้บริการได้แบบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Indoor และ Outdoor
โรงแรม Capella อยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่รูปแบบจะเป็น Low-Rise ให้ Feeling ที่เหมือนกับ Resident มากขึ้น เป็นโรงแรมที่มีห้องพักขนาดใหญ่ 101 ห้อง มีร้านอาหาร มีพื้นที่จัดเลี้ยงเช่นเดียวกัน
เมื่อเราดูเป็น Destination จริงๆ แล้วต้องถือว่าเป็น One of the Best Culinary Destination ของกลุ่มของร้านอาหาร ที่แตกต่างกันไป เรามีร้านอาหารที่เป็น Cuisine ต่างๆ อยู่ 7 ร้าน ทั้งเป็น All Day Dining และ Specialty มีบาร์ 2 บาร์ ทั้ง 2 โรงแรม รวมไปถึงคาเฟ่ และ Lounge ซึ่งก็เป็น All Day Dining ด้วยเช่นกัน
ส่วนที่โดดเด่นอีกส่วนหนึ่งคือพื้นที่จัดเลี้ยง พื้นที่จัดเลี้ยงของทั้ง 2 โรงแรมรวมกันแล้วถือว่าเป็นพื้นที่จัดเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุด ณ ปัจจุบันริมแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถทำได้ทั้ง Indoor และ Outdoor เป็นที่นิยมทั้งงานจัดประชุม ไม่ว่าจะเป็นระดับของประเทศไทยเอง หรือเป็นระดับภูมิภาคก็ตาม รวมไปถึงงานแต่ง Social Event ต่างๆ หรือการ Launch สินค้าต่างๆ ยังมีงานที่มาจัดหรือมาใช้บริการที่โรงแรมของเราอย่างต่อเนื่อง และยังมีการเติบโตในทุกๆ ปีที่ผ่านมา
พัฒนาการที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของโรงแรม คือการที่เราได้รับการยอมรับ ได้รับรางวัลระดับโลก ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจของเรา และเรายังคงเดินหน้าที่จะสร้างมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของห้องพัก การให้บริการ และในส่วนของการให้บริการในเรื่องของ F&B ต่างๆ
โรงแรม Capella ได้รับรางวัลเป็นโรงแรมอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มของการจัดอันดับของ World's 50 Best นะคะ เป็นอันดับหนึ่งของโลกคือ Capella Bangkok นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอรางวัลใหม่สำหรับประเทศไทย คือรางวัล Michelin Key ซึ่งเป็นการให้รางวัลจัดอันดับดาวให้กับโรงแรมจาก Michelin Capella และ Four Seasons ได้รับ 2 ดาว หรือ 2 Key จาก Michelin
ห้องอาหาร "โค้ท" (Côte) ของโรงแรม Capella ได้รับการเลื่อนลำดับจาก 1 ดาว Michelin ขึ้นมาเป็น 2 ดาว Michelin ซึ่งทั้งประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 7 Outlet ที่มีระดับ 2 ดาว และเราก็เป็นร้านอาหาร 1 ในร้านอาหาร 2 ดาวของประเทศไทย
Four Seasons เองก็ได้รับการจัดอันดับของ World's 50 Best ด้วย และได้รับการจัดอันดับของ Michelin Key 2 ดาวด้วย ในส่วนของ Bar Bangkok Social Club อันนี้ก็จะโดดเด่นมาตลอด อันดับที่เป็นระดับโลกคือ World's 50 Best Bangkok Social Club ก็เลื่อนลำดับขึ้นมาเป็นอันดับ 12 ของโลก และเลื่อนลำดับขึ้นมาของ Asia's 50 Best ด้วยเป็นอันดับ 7 และก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยมาโดยตลอด 3 ปี
รางวัลเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้เราได้ยกระดับมาตรฐานของการให้บริการให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ด้วย Location รูปแบบของโรงแรม และ Destination ของประเทศไทยเอง ก็มีโอกาสให้เราสามารถที่จะขยายงานในส่วนของ 2 โรงแรมนี้ ให้สามารถทำกำไร สร้างยอดขายให้เพิ่มสูงขึ้นได้ โดยที่ยังไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องขยาย หรือว่าเพิ่มเงินลงทุนในส่วนของ Portfolio ของ 2 โรงแรมนี้
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
ปี 2024 สำหรับเราถือว่าเป็นปีที่โดดเด่น ทั้งการขยายแผนการขยายธุรกิจในเชิงกลยุทธ์ ในเรื่องของความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน ในเรื่องของความมั่นคงทางการเงินด้วย แม้ว่ามันจะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายอย่าง เรายังคงสามารถสร้างรายได้ที่เติบโตเป็นประวัติการณ์ และรายได้ที่เติบโตเป็นประวัติการณ์นี้ยังมาจาก Portfolio เดิม คือ 2 โรงแรม Four Seasons และ Capella ยังไม่ได้มีการเพิ่มเติมในส่วนของ Portfolio และในส่วนของเรื่องของอัตราการทำกำไร ซึ่งจะอธิบายต่อไป และในเรื่องของการสร้างผลตอบแทนที่จะเป็น Base ให้กับการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวด้วย
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
ภาพรวมของอุตสาหกรรมในปีที่แล้ว เห็นว่าเป็นปีที่ยังมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของบ้านเราด้วย หลายท่านคงจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี ก็จะเห็นว่า on monthly basis มีการเติบโต year on year ในทุกๆ เดือน และเราก็ขึ้นมาแตะระดับ 3 ล้านกว่ามาโดยตลอด on the average ของปีที่แล้ว และทั้งปีเราก็สามารถ Welcome คนที่เดินทางเข้าประเทศเข้าไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้นอย่างมาก เติบโตค่อนข้างมากเลยจากปีที่ผ่านมา ขึ้นมาแตะระดับ 36 ล้านแล้ว ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้กลับไปในเทียบเท่ากับปีก่อน Covid คือปี 2019 ที่เราเข้าไปแตะระดับ 40 ล้าน แต่ถือว่าเป็นระดับที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
ในส่วนรายละเอียดที่น่าสนใจก็คือว่า เรามองเห็นเรื่องของการเดินทางที่เต็มรูปแบบ ในเรื่องของ Source Market และในเรื่องของนโยบายเชิงรุกของภาครัฐ ในเรื่องที่จะ Welcome ให้คนเดินทางได้เข้าประเทศไทยอย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น ในเรื่องของการขยายระยะเวลาให้กับ Source Market ที่สำคัญได้อยู่ในประเทศไทยนานขึ้น ในเรื่องของการให้ฟรีวีซ่ากับ Source Market หลักๆ ของประเทศไทย เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้น ในเรื่องของการตัดสินใจในการเดินทาง ก็จะเห็นว่านโยบายต่างๆ เหล่านี้ที่เป็นเชิงรุก ได้มีผลอย่างดี ที่ทำให้ Demand ของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศมีการเติบโตอย่างชัดเจน
ปีที่แล้วเรามีผู้ที่เดินทางเข้าประเทศเกือบ 36 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 26% จากปีก่อนหน้า ในส่วนของรายได้แตะที่ระดับ 1.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 34% เพิ่มขึ้นมากกว่าตัว Volume ด้วยซ้ำ ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีมากๆ เป็น Trend ที่ดีมากๆ แม้ว่าจำนวนนักเดินทางยังไม่กลับไปสู่ระดับ 40 ล้านคนก็ตาม
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
พัฒนาการอีกสำคัญหนึ่งที่เรามองเห็น ก็อาจจะมีความเป็นกังวลว่าตลาดหลักของเราคือตลาดจีน ยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ ในปีก่อน Covid เรามีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศน่าจะอยู่ที่ประมาณ 8 แตะระดับ 10 ล้านคน ในส่วนของ 40 ล้าน ปีนี้ที่ผ่านมาก็อยู่ที่น่าจะเข้าใกล้ระดับ 6 ล้านคน อาจจะยังไม่ถึงเป้าประมาณ 8 ล้านคน ที่ทางภาครัฐวางไว้ แต่ยังไงก็ตาม สิ่งที่เราเห็นก็คือว่าตลาดหลักอื่นๆ ได้ก้าวขึ้นมาทดแทนตลาดจีน ตลาดหลักอื่นๆ ที่เข้าไปสู่ระดับที่สูงกว่าก่อน Covid แล้วก็อย่างเช่นตลาดมาเลเซีย อันนี้ก็ถือว่าเป็นตลาดที่สำคัญ ตลาดอินเดีย ตลาดรัสเซีย แล้วก็ตลาดที่มีการเติบโตอย่างมากก็เช่นตลาดไต้หวันด้วย ในส่วนตลาดอื่นๆ อย่างเช่น US และยุโรปใกล้เคียง เกือบจะไประดับปกติแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าดูโดยภาพรวม เราก็ยังมองว่าโครงสร้างของนักท่องเที่ยวที่มีการเปลี่ยนแปลง ก็จะสร้างโอกาสให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเพิ่มขึ้น
ในส่วนของ Beyond เอง เราก็เห็นว่าแนวโน้มที่สดใสของตลาด เราก็อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมมากๆ ในการที่จะได้โอกาสจากการฟื้นตัวนี้ เพราะว่าเราเห็น Demand ของห้องพักและการบริการที่ในระดับ Ultra Luxury ในเรื่องของการส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า ในเรื่องของความคาดหมายต่างๆ ห้องอาหารชั้นนำ Demand ในส่วนนี้ยังเป็น Demand ที่มีการเติบโต ซึ่งก็ตรงกับ Product ของเรา ถ้ามาดูในไตรมาส 4 เราเติบโต year on year 19% ในเรื่องของรายได้ และก็ถือว่าเป็นการทำรายได้ที่สูงเป็นประวัติการณ์ต่อไตรมาส ขึ้นไปแตะระดับ 1,000 กว่าล้าน จากในปีที่ผ่านๆ มา เราขึ้นไปแตะระดับประมาณ 1,051 ล้าน ซึ่งสูงกว่าไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และก็ยังคงสูงกว่าไตรมาส 1 ของปีที่แล้วด้วย ถ้ามาดูภาพรวมของทั้งปี เราได้รวมที่ระดับ 3,000 เกือบๆ 3,500 ล้าน สูงกว่าปีที่แล้วถึง 17% และในภาพรวมทั้งหมด ก็เป็นส่วนของรายได้ที่มาจากส่วนของห้องพัก 51% และในส่วนของ F&B 42% รายได้อื่น 7% การเติบโตของรายได้ในส่วนของห้องพัก เติบโตทั้งในส่วนของ Occupancy และก็เติบโตในส่วนของ ADR ด้วย จึงทำให้ RevPar Growth เติบโตถึง 23% year on year และโรงแรมของเราก็ยังติดอันดับ RevPar อันดับ 1 ของกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาด้วย
F&B ก็มีความเป็นกังวลจากนักลงทุน ตลอดเวลาที่ได้มีการพูดคุยกันว่า เอ๊ะ ของเราเติบโตมาค่อนข้างมาก แล้วมันจะพีคแล้วยัง มันจะยังเติบโตต่อไปไหม ก็ต้องเรียนว่ายังมีการเติบโต ในส่วนของ F&B ก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง อัตราการเติบโตของ F&B อาจจะไม่เทียบเท่าอัตราการเติบโตของรายได้ห้องพัก หรือกำไรในส่วนของห้องพัก เนื่องจากขนาดด้วย อย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าอัตราการทำกำไรของห้องพัก อย่างที่ทราบกันจะสูงกว่าอัตราการทำกำไรของ F&B เพราะฉะนั้นการเติบโตในอัตราที่สูงกว่าของห้องพัก จึงส่งผลให้อัตราการทำกำไรระดับ EBITDA โดยภาพรวมมีการเติบโตขึ้นด้วย
ถ้ามาดูในส่วนของ Consolidate ทั้งบริษัทเลย จะเห็นว่ารายได้ของธุรกิจโรงแรม อย่างที่เรียนมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ 17% ในส่วนของรายได้รวมจะเติบโตอยู่ที่ 5% เนื่องจากว่าในปีก่อนหน้าคือปี 2023 เรามีรายได้พิเศษจากการขายทรัพย์สิน จาก Asset Monetization ในการขายที่ดินที่เราไม่ได้ใช้ที่ระยอง และเราทำกำไรไปได้ในปี ในปีนั้น ถ้าเราดูเฉพาะ รายการปกตินะคะ ก็จริงๆ แล้วก็เติบโตในระดับนี้ประมาณ 17% ในส่วนของค่าใช้จ่าย เติบโตน้อยกว่า จึงทำให้ในส่วนของ EBITDA จริงๆ แล้วถ้าดู EBITDA โรงแรม จะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 33% และถ้าเราตัดรายการพิเศษออกไป ใน EBITDA ปกติ จะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ ในส่วนของค่าเสื่อมราคา มีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะว่ามันก็มีการปรับปรุง และก็จะมีตัวทรัพย์สินที่เป็น Work in Progress ระหว่างทาง กลับเข้ามาเป็น PPE เป็นทรัพย์สินถาวรเพิ่มขึ้นในสิ้นปี 2024 จึงทำให้ ในส่วนของค่าเสื่อมราคามีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ว่าในส่วนที่เป็นในเรื่องของต้นทุนทางการเงิน ก็จะเห็นว่าลดลงอย่างเห็นได้ชัด จริงๆ ก็ลดลงประมาณเกือบ 30 ล้าน ส่วนที่ลดลงมาจาก 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือในเรื่องของการชำระหนี้คืนตามกำหนด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหนี้ของธนาคารที่อยู่กับ 2 โรงแรม และก็ในส่วนของหุ้นกู้ ที่อยู่กับตัว Beyond บริษัทแม่เอง ก็มีการชำระคืนตามกำหนด นอกจากนั้นด้วย Cash Flow ของโรงแรม ที่แข็งแกร่ง เราก็มีการชำระหนี้บางส่วนก่อนกำหนดด้วย แล้วก็ส่วนที่ 3 มาจากการที่เราเจรจากับทางเจ้าหนี้ของทางธนาคาร ให้มีการปรับในเรื่องของสูตรของดอกเบี้ย ก็มีการได้รับ Saving กลับเข้ามาบางส่วนในส่วนนั้นด้วย ทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็นความพยายามแบบ Collective Effort ในการที่จะพยายามลดในเรื่องของต้นทุนค่าใช้จ่ายทางการเงิน ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเดี๋ยวในปีนี้ ตอนที่เราคุยกันเรื่อง Outlook ในส่วนนี้จะมีพัฒนาการเพิ่มขึ้น ในเรื่องของการที่เราจะประหยัดในเรื่องของต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นจริงๆ ทั้งปี ถ้าเราไม่นับรายการปกติจริงๆ แล้วบริษัทมีผลกำไร และโรงแรมทั้งสองโรงแรม ทำกำไร Bottom Line ทั้งปีด้วยเช่นกัน ในส่วนของภาษี ก็เป็นเรื่องปกติ ว่าเราทำกำไรเพิ่มขึ้น เราก็จะมีการจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น และในส่วนของปีนี้ของปี 2024 เราก็ถือว่าเราบรรลุตามเป้าหมายที่เราวางไว้ว่า ปี 2024 2023 2024 เราจะต้องเป็น Road to Profitability ซึ่งทั้งสองโรงแรมของเราก็ได้ ทำกำไร ไม่ใช่เฉพาะกำไร Bottom Line แต่ได้มีอัตราการทำกำไรที่สูงขึ้นด้วย
ในส่วนของภาพรวมสถานะทางการเงิน ถ้ามาดู Balance Sheet ในส่วนของ Total Asset อาจจะดูเหมือนลดลงเล็กน้อย ส่วนที่ลดลงเนื่องจากกระแสเงินสด ที่เรานำไปจ่ายคืน ภาระหนี้สิน เพื่อให้ เป็นการประหยัดในเรื่องของต้นทุนทางการเงิน ส่วนที่ 2 ก็จะเป็นในเรื่องของค่าเสื่อมราคา ที่เกิดขึ้นด้วย ในส่วนของ Liability ก็ลดลง แล้วก็ในส่วนของ Equity ลดลงเล็กน้อยจาก ผลขาดทุน Bottom Line ก็มีผลกระทบเล็กน้อย ในส่วนของ Current Portion ก็จะเห็นว่าก็มีสัดส่วนที่ลดลง เพราะว่าเรามีการทยอยจ่ายหนี้ ไปในหลายๆ ส่วน อัตราส่วนของหนี้สิน ต่อทุน ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องถือว่า ปกติ Interest Bearing Debt น่าจะลดลงเล็กน้อย จากระดับ 0.9 มาอยู่ที่ 0.87 Total Liability ต่อ Equity ก็ยังอยู่ในระดับที่ ต้องบอกว่าเป็น Controllable และก็ยังเป็นอยู่ระดับที่เรามองว่ายัง Healthy ก็คือประมาณสัก 1.1 ก็ยังอยู่ในระดับที่ ค่อนข้างจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ของ ของตัวอุตสาหกรรมเอง
ในภาพรวมของตัว Debenture หลายท่านที่ติดตามข่าวก็คงจะทราบดีว่าเราก็จะมีการชำระคืนตัวหุ้นกู้ตามกำหนด ปีที่แล้วในช่วงไตรมาส 1 ก็มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดคือประมาณ 577 ล้านบาท อันนี้ก็ชำระคืนไปแล้ว แล้วก็เดี๋ยวปีนี้เราก็จะมีหุ้นกู้ที่ออกไปในคราวเดียวกัน เป็น Series 2 จะครบกำหนดประมาณสัก 318 ล้านบาท อันนี้เราก็เตรียม Funding ที่จะชำระคืนตามกำหนด อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพอเข้าสู่ไตรมาส 2 จำนวน หมายถึงภาระหนี้สินในส่วนนี้ก็จะลดลง อัตรา ในเรื่องของการต้นทุนทางการเงินในส่วนนี้ก็จะลดลง แล้วก็ปีที่แล้วเรามีการออก หุ้นกู้อีกส่วนหนึ่งประมาณ 400 ล้านบาท ในปีที่แล้ว ซึ่งก็ออกไปในช่วงไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากผู้ลงทุนที่เชื่อมั่นในตัวของ Beyond เอง ก็สามารถออกหุ้นกู้ในระดับที่จริงๆ เราก็ เกินกว่าที่ ที่เราวางเป้าหมายไว้ ก็อยู่ที่ 400 ล้านบาท ในส่วนของหุ้นกู้ทั้งหมด Collateral ก็คือเป็นที่ดินที่ตากนะคะ ซึ่ง ซึ่งก็เป็นที่ดินที่อยู่ในแผนของ Asset Monetization อย่างไรก็ตามเนี่ย เราก็ยังวางแผนว่าที่ดินที่ตาก ก็ยังอยู่ในแผนของ Asset Monetization แต่ว่าในระหว่างนี้ ก็คงจะรอดูให้ Valuation เนี่ย เป็น Valuation ที่เหมาะสมนะคะ เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงเอาตัว Asset อันนั้นมาเป็น Collateral ของการ ระดมทุนในกลุ่มนี้แทนนะคะ
ในส่วนของ Outlook นะคะ ก็คงอยากจะ แชร์นะคะ กับ ท่านผู้ลงทุนว่า โฟกัสของเรานะคะ ก็ ในส่วนของปี 2025 นะคะ จากที่เราโฟกัสในเรื่องของการ ต้องทำกำไรให้ได้นะคะ ซึ่งอย่างที่เรียนว่าก็บรรลุเป้าหมายไปนะคะ ในปี 2024 แล้วนะคะ เพราะฉะนั้นเนี่ย Target ของเราต่อไปก็คงจะเป็น Beyond Profitability นะคะ คือการเรื่อง เป็นเรื่องของการวาง Platform ต่างๆ นะคะ เพื่อ ให้เราเนี่ยสามารถสร้างผลตอบแทน และสามารถสร้างการเติบโตที่มั่นคงนะคะ ในระยะยาวได้นะคะ ก็เซ็ตเป็น Revenue Target ของปีนี้นะคะ เพราะฉะนั้นในระยะสั้นของปีนี้เองเนี่ย เราเซ็ต Revenue Target อยู่ที่ 3,700 ล้านนะคะ ของ 2 โรงแรมนะคะ ก็จะเติบโตประมาณ 6% นะคะ year on year โฟกัส ของเราเนี่ยยังอยู่ในกลุ่มของ Ultra Luxury นะคะ เราก็ยังจะยืนเป็นผู้นำของกลุ่ม Ultra Luxury Positioning ของประเทศไทยนะคะ ซึ่งก็จะมีการนำเสนอในเรื่องของรูปแบบ F&B ใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วยในปีนี้นะคะ ในส่วนของอุตสาหกรรมเนี่ยเรามองว่ายังคงจะมีการเติบโตใน พาร์ทของ Demand นะคะ เติบโต เพิ่มขึ้นไปสู่ระดับ เอ่อ 40 ล้านนะคะ ซึ่งกลับไปสู่ระดับก่อนโควิดนะคะ แล้วก็ในส่วนของเรื่องของ Speding นะคะ ก็น่าจะมีแนวโน้มที่จะเป็นอัพเทรนด์ต่อไปนะคะ ซึ่งเรามองว่าในส่วนของการเติบโตของ Demand เนี่ยค่ะ ก็น่าจะยิ่งเข้ามา นะคะ สนับสนุนในเรื่องของการเติบโตของเรานะคะ สิ่งที่เราให้ความสำคัญเสมอ นะคะ ก็คือในเรื่องของ อ่า ศักยภาพนะคะ ในเรื่องของสถานะ ทางการเงินนะคะ ที่เราต้อง Make sure ว่าเรามีความพร้อมอยู่เสมอ นะคะ เพราะว่าเราเป็นบริษัท ลงทุนนะคะ ส่วนที่สองก็คือในเรื่องของการสร้าง อ่า อัตรา อ่า ผลกำไรนะคะ ที่ดีและเหมาะสม เพื่อให้เราเนี่ย สามารถที่จะสร้างในเรื่องของการ อ่า ผลตอบแทนในระยะยาวได้อย่างมั่นคงนะคะ แล้วก็ในเรื่องของการ ขยาย อ่า ในเรื่องของธุรกิจนะคะ ที่เป็นการขยายแบบเชิงกลยุทธ์นะคะ ซึ่งก็น่าจะมี อ่า เร็วๆ นี้นะคะ คงจะได้มีโอกาสได้มาแชร์กับท่านผู้ลงทุนอย่างมี อ่า รูปธรรมมากขึ้นนะคะ
ถ้าดูภาพรวมของอุตสาหกรรมนะคะ ก็ ก็คงจะคาดว่าคงเป็นไปตามเป้าหมายนะคะ ที่ทางภาครัฐวางไว้ แล้วก็ในเรื่องของ stimulus plan ต่างๆ ที่ทางภาครัฐนะคะ ก็คงยังต้อง ดำเนินการอย่างต่อเนื่องนะคะ ก็ทาง รัฐเองก็มองว่าปีนี้เนี่ยน่าจะก้าวเข้าสู่ 40 ล้านนะคะ ในส่วนของเป้า Speding เนี่ยค่ะ ก็คงจะ เพิ่มเติมนะคะ จาก 1.67 ล้าน ขึ้นไปเป็นระดับ 2 ล้านล้านนะคะ ต่างเป้านั้น เพราะนั้นจะเห็นว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้นะคะ มกราคม อ่า กุมภาพันธ์เนี่ย จริงๆ ก็มี Growth year on year นะคะ ก็ น่า 2 เดือนน่าจะอยู่ประมาณ 7 ล้าน 6 6 ล้านกว่านะคะ ประมาณ 7 ล้านนะคะ ซึ่ง ก็จริงๆ ก็อาจจะมี ความเป็นกังวลว่า เอ๊ะ ดู เดือนกุมภาพันธ์นะคะ ตัวเลขที่ออกมาเหมือนเดือนกุมภาพันธ์ คนที่เดินทางเข้าประเทศจะน้อยกว่าปีที่แล้วนะคะ นิดหน่อยนะคะ ก็ ยังอยู่ระดับ 3 ล้านกว่านะคะ แต่จริงๆ แล้วต้องดู 2 เดือนผสมกันคือ กุม มกราคมกับกุมภาพันธ์เนี่ย ทุกๆ ปีนะคะมันจะมีตัวแปรอย่างหนึ่งก็คือตุษจีนนะคะ ตรุษจีนเนี่ยก็ขึ้นอยู่กับ เอ่อ พระจันทร์อะนะคะว่าจะตรงกับ อ่า บางปีก็อาจจะตรงกับปลายเดือน อ่า มกราคมอย่างเช่นปีนี้นะคะ บางปีก็จะไปเจอกับต้นเดือนกุมภาพันธ์อย่างเช่นปีที่แล้วนะคะ เพราะฉะนั้นถ้าถ้านักลงทุนดูเป็นเดือนต่อเดือนเนี่ยอาจจะเห็นว่า เอ๊ะทำไมเดือนกุมภาพันธ์มันลดลง แต่ว่าจริงๆ แล้วถ้าดู 2 เดือนรวมกันนะคะ เอ่อ เพราะว่าเดือนมกราคมเนี่ยมี Growth อ่า สูงนะคะ จากปีที่แล้วพอเราดู 2 เดือนรวมกันก็จะเห็นเลยว่ายังมี Growth อยู่นะคะเนื่องจากว่ามันมี Shift ของตัวอ่าตรุษจีนที่ ที่ผ่านมานะคะ เรามองว่า Trend ตอนนี้อะค่ะก็น่าจะยังเป็นไปตาม Trend นะคะ
ในส่วนของเราเองอะค่ะ อย่างที่บอกว่าตั้งเป้าไว้ที่ 3,700 ล้านบาททั้งปีนะคะ เราก็ยัง เอ่อ ตั้งเป้าที่จะมีการเติบโตในทุกๆ ไตรมาสนะคะเติบโต year on year ในทุกๆ ไตรมาส ก็ เอ่อ ไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว เอ่อ ก็ทำเป้าไว้ค่อนข้างสูงนะคะ ก็จริงๆ ปีที่แล้วก็ทะลุเป้าไปอยู่ที่ 952 ล้านบาทนะคะ ก็ ต้องถือว่าเป็นความท้าทาย นะคะ ของ ของเราอย่างมากที่จะพยายามทำให้เกิด Growth year on year อ่า ต่อไปนะคะ ในไตรมาส 1 แล้วก็ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 แล้วก็ไตรมาส 4 นะคะ แล้วก็สิ่งที่สำคัญก็คือในเรื่องของอัตราการทำกำไรค่ะ ก็ เอ่อ ปีนี้นะคะ 3,700 ล้านบาทนะคะ อย่างที่เรียนว่าจริงๆ ทุกๆ ปีมันก็ทะลุเป้ามาโดยตลอดนะคะ ก็ ก็ยังหวังว่าปีนี้ต้นปีนะคะ ก็อาจจะดู เอ่อ มีความท้าทายนะคะ จากทั้งอุตสาหกรรมทั้งจาก เอ่อ เศรษฐกิจของโลกทั้งในเรื่องของ Geopolitics ต่างๆ นะคะ อันนี้เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะคะ ก็จะมีการทำในเรื่องของ เอ่อ การตลาดนะคะ อย่างเชิงรุก อ่ะ มาโดยตลอดนะคะ แล้วก็พยายามจาก Source Market ที่เรามองว่าเป็น อ่า โอกาสนะคะ เพิ่ง อ่า รูปแบบของ Source Market ต่างๆ เนี่ยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างนะคะ แต่ยังไรก็ตามเนี่ยเราก็มองเห็นโอกาสใน Source Market ใหม่ๆ ด้วยนะคะ
ในส่วนสุดท้ายนะคะ ในเรื่องของการ ขยายงานนะคะ ก็ต้องบอกว่า เอิ่ม หลังจากที่สร้าง ประวัติศาสตร์ด้วยความสามารถในการทำกำไรไปแล้วนะคะ ก็ เราก็วางแผนว่าจะเข้าสู่เฟสใหม่นะคะ ที่ ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมนะคะ ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมก็เป็นการสร้าง Future สำหรับ Sustainable Growth นะคะ ก็เราวางกลยุทธ์สำคัญไว้ 3 ด้านนะคะ อย่างที่เรียนก็คืออันที่ 1 คือการสร้างประสบการณ์ Luxury นะคะ ที่ ที่เหนือความคาดหมาย อยู่ตลอดเวลานะคะ อันที่ 2 เนี่ย ก็คือการขยายพันธมิตรระดับโลกนะคะ เอ่อ ถ้า เอ่อ เกลื่อนไว้อย่างเงี้ยก็คงพอจะคาดเดาได้นะคะว่าการขยายงานเนี่ยคงไม่ได้หยุดแค่ที่ประเทศไทยนะคะ ก็จะเป็นการขยายงาน เอ่อ ไปต่างประเทศด้วยนะคะ ในส่วนที่ 3 เนี่ยก็จะ มีในเรื่องของการขยายแบรนด์และตลาดใหม่นะคะ ซึ่งก็จะมา ควบคู่กันไปนะคะ กับ อ่า รูปแบบของ Product รูปแบบใหม่นะคะ แล้วก็การสร้างแบรนด์ของตัวเองด้วยนะคะ ซึ่งเดี๋ยว อ่า ในช่วงที่เรา อ่า มารีวิวผลประกอบการของไตรมาส 1 นะคะ ในช่วงอาจจะปลายเมษายน หรือว่าต้นพฤษภาคมนะคะ ก็คงจะมี อ่า แผนการขยายงานที่เป็นรูปแบบของกลยุทธ์เนี่ยค่ะที่เป็นรูปธรรมนะคะ ที่จะมาแชร์กับท่าน เอ่อ ผู้ลงทุนนะคะ เพิ่มเติมนะคะ ในส่วนนั้นนะคะ เอ่อ ก็ในส่วนสุดท้ายนะคะ ก็แม้ว่าเราเนี่ยจะ จะต้องบอกว่าภาคภูมิใจนะค่ะจริงๆ ก็ภูมิใจกับผลประกอบการนะคะ ในช่วง 3 ปีมาโดยตลอดกับ 2 โรงแรมของเรานะคะ ทั้งปี 2022 2023 และปี 2024 นะคะ แต่ว่าจริงๆ แล้วเราก็จริงๆ ก็ตื่นเต้นมากกว่านะคะ กับอนาคตที่ ที่กำลังจะมาถึงนะคะ ก็ต้อง ต้องขอขอบคุณนะคะ ท่าน นักลงทุนทุกท่านนะคะ ที่ ที่ไว้ วางใจแล้วก็เชื่อมั่นนะคะ แล้วก็ติดตาม อ่า Beyond มาโดยตลอดนะคะ แล้วก็ ต้องขอขอบคุณนะคะจริงๆ ก็เริ่มมีคำถาม อ่า ส่งเข้ามานะคะ แล้วก็ยัง อ่า Welcome นะคะ ความคิดเห็นของทุกๆ ท่านนะคะ แล้วก็เราก็อยากจะ อ่า อยากให้ท่านนะคะ ติดตามแล้วก็ให้การสนับสนุน อ่า เราต่อไปนะคะ แล้วก็การสนับสนุนของท่านจริงๆ ก็ถือว่าเป็นแรงผลักดันนะคะ ให้เราเนี่ยได้ก้าวหน้า อ่า ไปข้างหน้านะคะ แล้วก็มุ่งมั่นที่จะยกระดับในเรื่องของประสิทธิภาพนะคะ ในเรื่องของการทำกำไร แล้วก็ในเรื่องของการสร้างผลตอบแทนนะคะ
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [01:04:20]
ค่ะ ถ้าหากท่านนักลงทุนมีคำถามนะคะ สามารถส่งมาทางช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ได้ ณ ตอนนี้นะคะ อ่าพี่แต้วคะมีคำถามแรกเข้ามาค่ะถามว่าเดือนกุมภาพันธ์เนี่ยนักท่องเที่ยวมาไทยค่อนข้างน้อยรพาของเราได้รับผลกระทบบ้างไหมคะ
นักท่องเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์มีผลต่อ RevPar อย่างไร
ก็อย่างที่เรียนน่ะนะคะจริงๆ แล้วเนี่ย เดือนมกราคมกุมภาพันธ์คือเดือนกุมภาพันธ์เนี่ย จำนวนนักท่องเที่ยวจริงน่าจะน้อยกว่าปีที่แล้วแค่เล็กน้อยใช่ไหมคะน่าจะเป็นระดับเป็นแสนนะคะ แต่ยังอยู่ติดระดับ 3 ล้านกว่านะคะซึ่งเป็นการชิพของเรื่องของเอิ่มตรุษจีนนะคะในไตรมาส 1 เนี่ยค่ะจริงๆ เอ่อ Target ของเราเนี่ย เราก็ยังมอง อ่า RevPar Growth นะคะ แล้วก็เราก็ยังมองว่าน่ายังจะเป็นไปตาม Trend นะคะ แล้วก็ เอิ่ม ตอนนี้ก็เข้าสู่เดือน เอ่อ เดือนมีนาคมแล้วนะคะ ก็คิดว่าน่าจะยังเป็นไปตาม Trend ว่ายังคง Target เอ่อ RevPar Growth จากปีที่แล้ว
ค่ะ อ่าอันนี้จริงจริงมีคำถามฝากมาทางช่องทางของ IR ค่ะต่อด้วย Slide of day ค่ะอาจจะเป็นแนวโน้มของดอกเบี้ยค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของบริษัทในปีนี้ค่ะว่าภาพรวมจะเป็นแบบใดบ้างค่ะ
แนวโน้มดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายของบริษัทในปีนี้
ค่ะค่ะได้ค่ะ ก็จริงๆ เอ่ออย่างที่เรียนน่ะนะคะว่ามีการชำระหนี้นะคะ ทั้งตามกำหนดและก่อนกำหนด เพราะฉะนั้นเนี่ยเมื่อสิ้นปี 2024 เนี่ยจริงๆ ถ้าดู ภาพรวมของ อ่า ภาระหนี้สินทั้งหมดก็ลดลงนะคะ ลดลง เอิ่ม น่าจะลดลงไปประมาณสักเกือบ 300 ล้านนะคะ เพราะว่ามันมีส่วนที่เรา อ่า คือถ้าดูในส่วนของหนี้สินของธนาคารเนี่ยลดลงแน่นอนนะคะ แต่ว่ามันจะมีในส่วนของหุ้นกู้ นะคะ เราคืนหุ้นกู้ไป 577 ล้านแล้วเรามีการออกหุ้นกู้ใหม่ อ่า 400 400 ล้านนะคะ ตัวนั้นก็ลดไป ลดไปประมาณสัก 100 ล้านนั้นรวมๆ แล้วเนี่ยลดไปประมาณสัก 300 ล้านนะคะ เอิ่ม ปีที่แล้วเนี่ยเราได้ อ่า อัตราดอกเบี้ยที่มีการปรับปรุงนะคะ ปีนี้เนี่ยก็จะยิ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่ดี ยิ่งขึ้นนะคะ ซึ่งมาจาก 2 ส่วนส่วนที่ 1 ก็คือการปรับอัตราดอกเบี้ย อ่า ของ อ่า เจ้าหนี้ธนาคารนะคะ ให้กับบริษัทเนื่องจาก อ่า ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทนะคะ ก็จะเห็นได้ว่าในเรื่องของความเสี่ยงต่างๆ เนี่ยก็มีการประเมินความเสี่ยงที่ลดลงนะคะ เราก็ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่าปีที่แล้วอย่างมากนะคะ ก็เดี๋ยวตอนเนี่ยไตรมาส 1 เนี่ยนะคะ จะ Effective แล้วนะคะเดี๋ยวคงจะได้มาแชร์กับ อ่า ท่านผู้ลงทุนต่อไปนะคะ ในส่วนที่ 2 เนี่ยก็ คงเห็นในเรื่องของการลด อ่า ดอกเบี้ยนโยบายมาโดยตลอดนะคะ ก็ปีที่แล้วก็ลดไป 0.25 ปีนี้ก็พึ่งประกาศลดอีก 2.025 นะคะอันนี้ก็จะมีผลกับสูตรอัตราดอกเบี้ยของเราเช่นกัน เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยของเราเนี่ยสูตรเป็น Floating Rate อยู่นะคะ เพราะฉะนั้นเนี่ย ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไปเนี่ยค่ะที่ เราจะได้รับอานิสงส์จากทั้งอัตราดอกเบี้ยใหม่ของตัวเราเองแล้วก็จากเอิ่มดอกเบี้ย MLR ที่ลดลงด้วยนะคะ แล้วก็ เพราะฉะนั้นเนี่ยเรามองว่าปีนี้ต้นทุนทางการเงินของเราเนี่ย น่าจะ Continue ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ค่ะ คำถามถัดมาค่ะก็จะเป็นแนวโน้มเกี่ยวกับช่วงไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ค่ะที่โดยปกติแล้วเนี่ยบริษัทจะมีผลขาดทุนค่ะพี่แต้วมองว่าปีนี้เนี่ยภาพรวมจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่แล้วหรือเปล่าคะ
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 และ 3 จะเป็นอย่างไร
ปีนี้เรามองว่าปรับตัวดีขึ้นแน่นอนนะคะ เพราะว่าจริงๆ เนี่ยในเรื่องของเอิ่ม การผลักดันอัตราการทำกำไรของเอ่อธุรกิจโรงแรมอะค่ะ เราไม่ได้ดูเป็นเฉพาะไตรมาสนะคะ มันเป็นการผลักดันที่ต่อเนื่องนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็จะผลักดันมาตลอดเวลานะคะจริงๆ แทบจะดูกันทุกวันน่ะนะคะว่ามันมีอะไรที่เราสามารถทำได้อีกอะไรที่มัน generate เอ่อ ในเรื่องของ Product Tivy ในเรื่องของ Economy of Scale นะคะ ก็จริงๆ ก็เป็นที่ทราบกันดีนะคะว่าธุรกิจโรงแรมเนี่ยมันก็มี Fix อ่า cost อยู่ อ่า ส่วนหนึ่ง variable cost อยู่ส่วนหนึ่ง Semi Fix บ้างนะคะ มันก็มีการที่เราจะสามารถ อ่า Manage ได้นะคะ ซึ่ง variable cost เนี่ยโดยปกติมันก็ไปตาม อ่า ยอดขายซึ่งอันนี้ก็ ก็ยิ่งยอดขายมากจริงๆ เนี่ยvariable cost มันไม่ได้ตามไป ไปได้ทุกเรื่องอะนะคะ เรามองว่าอัตราการทำกำไรที่เราประสบความสำเร็จในไตรมาส 4 เนี่ยก็จะเป็นอัตราการทำกำไรที่เราจะผลักดันอย่างต่อเนื่องต่อไปนะคะซึ่งความตั้งใจของเราเนี่ยเราก็มองว่าหากสถานการณ์เป็นไปตามปกติเนี่ยค่ะเราน่าจะสามารถทำกำไรได้
ค่ะ ค่ะ อ่าคำถามน่าจะเป็นคำถามสุดท้ายค่ะพี่แต้ว อันนี้ก็ฝากมาจากช่องทาง IR นะคะก็คือ เอ่อคำถามปีที่แล้วค่ะบริษัทมีค่าใช้จ่ายพิเศษเกิดขึ้นที่เป็น One Time ค่ะปีนี้มองว่าค่าใช้จ่ายพิเศษเนี่ยจะมีเกิดขึ้นอีกหรือเปล่าคะ
จะมีค่าใช้จ่ายพิเศษในปีนี้หรือไม่
เอิ่ม จากเหตุการณ์ของปีที่แล้วนะคะจริงๆ ทุกท่านก็ทราบกันดีจากข่าวที่มันมี อ่า เคสเกิดขึ้นนะคะ ซึ่งเอิ่ม ทางบริษัทเองเนี่ยก็ได้ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐนะคะ ในการที่จะปฏิบัติตามเพื่อช่วยเหลือแล้วก็ อ่า บรรเทาผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นนะคะ ซึ่งอันเนี้ยเราก็จึงเกิดรายการพิเศษที่เกิดขึ้น รายการพิเศษที่เกิดขึ้นของ อ่า เคสเนี้ยค่ะ ได้จบไปแล้วตั้งแต่ปีที่แล้วนะคะ เพราะว่า อ่า เราได้ดำเนินงานทุกอย่างเนี่ย ครบถ้วนนะคะ อ่า ไปตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วเราก็ได้ลงในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ เข้าไปสู่ อ่า P&L ของเราในปีที่แล้วด้วยเช่นกันค่ะ
ก็ น่าจะประมาณนี้ค่ะถ้าเกิดหากท่านนักลงทุนท่านใดนะคะมีคำถามเพิ่มเติมนะคะสามารถส่งมาในช่องทางของ IR ได้นะคะทั้งอีเมล์หรือว่าโทรศัพท์เข้ามาสอบถามข้อมูลได้เช่นกันค่ะก็วันนี้ขอขอบคุณทุกท่านมากค่ะขอบคุณค่ะ
สรุปประเด็นสำคัญ
Beyond Group ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานปี 2567 ด้วยผลประกอบการที่เติบโตและรางวัลระดับโลกที่ได้รับ บริษัทมุ่งมั่นที่จะรักษาความเป็นผู้นำในตลาด Ultra Luxury และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยเน้นการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์และสร้างพันธมิตรระดับโลก แม้จะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่บริษัทก็ยังคงมองเห็นโอกาสและพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น