สรุปด้วย AI(O) BOT

## บริษัท เอเซีย เมทัล จำกัด (มหาชน) : ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567

ในไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัท เอเซีย เมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ AMC มีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 11.36 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ทำกำไรสุทธิได้ 78.80 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 67.44 ซึ่งสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการลดลง ร้อยละ 22.40 โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 1,562.51 ล้านบาท (ไตรมาส 3 ปี 2566: 2,012.34 ล้านบาท) ผลจากความต้องการเหล็กภายในประเทศที่ลดลง ราคาขายเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลง การจัดสรรงบประมาณการก่อสร้างภาครัฐที่ล่าช้า การเข้ามาของสินค้าโครงสร้างสำเร็จรูป รวมถึงสินค้าสำเร็จรูปที่ส่งออกมายังประเทศไทยจากกลุ่มประเทศอาเซียน ส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งการบริโภคในตลาดท่อเหล็กและเหล็กแปรรูปสำหรับงานก่อสร้างในประเทศ โดยคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 ปี 2567 นอกจากนี้ บริษัทยังมีการปรับลดราคาทุนของสินค้าคงเหลือเป็นมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (งลงฯ) มูลค่า 55.24 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนขายสินค้าและการให้บริการลดลง 289.54 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.30 (ไตรมาส 3 ปี 2566 : 1,892.40 ล้านบาท)

AMC มีแผนที่จะระบายสินค้าที่มีต้นทุนสูงออกไป เพื่อลดต้นทุนเฉลี่ยในช่วงกลางไตรมาสแรกของปี 2568 บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน ในส่วนของการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) บริษัทฯ มุ่งเน้นการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ณ สถานที่ผลิตทั้ง 2 แห่ง เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ ยังมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน สังคม และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง รวมถึงยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีพร้อมกับการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย

จากผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 และอัตราส่วนทางการเงินย้อนหลัง บริษัท AMC อาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนแบบเร็ว เนื่องจาก P/E ของ AMC อยู่ที่ 4.77 สะท้อนถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่ต่ำ ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ มี D/E อยู่ที่ระดับปานกลาง และ YIELD ในช่วงปัจจุบันอยู่ที่ 5.94% ซึ่งถือว่าไม่น่าสนใจลงทุนเพื่อรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนติดลบในช่วงปี 2566 ซึ่งสะท้อนถึงการนำเงินไปลงทุนต่อยอดธุรกิจ แม้ว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องต่ำ (วงจรเงินสด 72.43) และมีค่าเฉลี่ยเก็บหนี้ที่ 32.95 วัน ซึ่งถือว่าดีในระดับหนึ่ง

โอกาสที่น่าสนใจสำหรับ AMC ได้แก่ :

- **การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก** อาจส่งผลดีต่อความต้องการเหล็กในประเทศไทย
- **การลงทุนด้านเทคโนโลยี** เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน
- **การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ** เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงบางประการที่ควรถือไว้พิจารณา :

- **ความผันผวนของราคาเหล็ก**
- **การแข่งขันจากคู่แข่งในประเทศและต่างประเทศ**
- **ความเสี่ยงด้านการเมืองและเศรษฐกิจ**

โดยสรุป บริษัท AMC น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต แต่ควรติดตามผลประกอบการอย่างใกล้ชิดและเตรียมรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น