บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

GJS เผชิญความท้าทายในไตรมาส 2/68 ขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 311 ล้านบาท แม้ปริมาณขายจะเติบโตถึง 23% แต่ราคาขายที่ลดลงอย่างมากส่งผลกระทบต่อกำไรโดยรวม

รายได้และกำไร:

รายได้จากการขายรวมของ GJS ในไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 2,941 ล้านบาท ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้นถึง 23% แต่ราคาขาย HRC ที่ลดลงถึง 19% ส่งผลกระทบต่อรายได้โดยรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ ต้นทุนเศษเหล็กที่ไม่ได้ลดลงในอัตราส่วนเดียวกัน ยิ่งทำให้ส่วนต่างกำไร (Margin) น้อยลง และขาดทุนเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีรายได้อื่น ๆ 45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18 ล้านบาทจากปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขายเศษซากของเสียจากการผลิต แต่ค่าใช้จ่ายในการขายก็เพิ่มขึ้น 29% เป็น 43 ล้านบาท ตามปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นเป็น 154 ล้านบาท จากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ถาวร ค่าดูแลซอฟต์แวร์ และค่าบำรุงรักษาอาคาร

สินทรัพย์และหนี้สิน:

ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 GJS มีสินทรัพย์รวม 12,061 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 226 ล้านบาท จากสิ้นปี 2567 โดยมีสินทรัพย์หมุนเวียน 4,201 ล้านบาท และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 7,859 ล้านบาท การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ได้แก่ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่เพิ่มขึ้น 198 ล้านบาท สินค้าคงเหลือที่เพิ่มขึ้น 631 ล้านบาท ในขณะที่เงินลงทุนระยะสั้นในเงินฝากประจำลดลง 600 ล้านบาท

ในส่วนของหนี้สินรวมอยู่ที่ 1,485 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 831 ล้านบาท จากสิ้นปี 2567 โดยมีหนี้สินหมุนเวียน 1,287 ล้านบาท และหนี้สินไม่หมุนเวียน 198 ล้านบาท การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ได้แก่ เจ้าหนี้การค้าที่เพิ่มขึ้น 335 ล้านบาท และเงินรับล่วงหน้าจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น 319 ล้านบาท

ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่ที่ 10,575 ล้านบาท ลดลง 604 ล้านบาท จากสิ้นปี 2567 เนื่องจากการขาดทุนสุทธิในไตรมาสนี้

ข้อสังเกต:

ผลประกอบการของ GJS ในไตรมาสนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนของราคาเหล็กในตลาดโลก ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท แม้ว่าบริษัทจะพยายามเพิ่มปริมาณการขาย แต่ก็ไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากราคาที่ลดลงได้

สรุป:

GJS กำลังเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความสามารถในการทำกำไร ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย บริษัทฯ กำลังดำเนินการเพื่อปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการตลาด เพื่อรับมือกับความผันผวนของราคาเหล็ก และสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นในอนาคต