บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

DELTA ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ชิ้นส่วน Data Center ที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากลูกค้าในสหรัฐฯ ที่พร้อมรับภาระภาษีนำเข้าที่อาจเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มกำไรในไตรมาส 2-3/68 ยังไม่น่าจะผลักดันให้ราคาหุ้นทะลุกรอบการซื้อขายเดิมที่ 90-120 บาท

อุปสงค์ Data Center กลบความกังวลภาษีนำเข้า

DELTA ได้รับสัญญาณบวกจากลูกค้าในสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็น 30-35% ของยอดขายและเน้นผลิตภัณฑ์ Data Center ลูกค้าส่วนใหญ่ยอมรับต้นทุนภาษีนำเข้าจากไทยที่อาจเพิ่มเป็น 10-15% เนื่องจากอุปสงค์ยังแข็งแกร่ง สินค้ามีความซับซ้อน และมี lead time การผลิตนาน (12-18 เดือน) โดยคำสั่งซื้อไม่น่าจะถูกดึงออก เว้นแต่ว่าอัตราภาษีจะเกิน 15% ทั้งนี้ DELTA จะไม่เป็นฝ่ายรับภาระภาษีเอง นอกจากนี้ DELTA ยังมองเห็นโอกาสรับคำสั่งซื้อจากการย้ายฐานการผลิต (China+1) โดยเฉพาะในกลุ่มชิ้นส่วน, ยานยนต์ และสินค้า IT-computing ที่เคยผลิตจาก Delta Taiwan

ข้อสังเกต

บล.บัวหลวง (BLS) ให้คำแนะนำ "ขาย" หุ้น DELTA โดยมีราคาเป้าหมายพื้นฐานที่ 90.00 บาท (ราคา ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2568 อยู่ที่ 104.50 บาท) แม้ว่าอุปสงค์ Data Center จะยังคงแข็งแกร่ง แต่แนวโน้มการเติบโตของกำไรในไตรมาส 2-3/68 ยังไม่น่าจะผลักดันให้ราคาหุ้นทะลุกรอบการซื้อขายเดิมที่ 90-120 บาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีฟ้องร้องกับ Vicor Corp. ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำไรในไตรมาส 2/68

สรุป

BLS คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ของ DELTA จะอยู่ที่ 5.2-5.3 พันล้านบาท ลดลงจาก 6.6 พันล้านบาทในไตรมาส 2/67 และ 5.5 พันล้านบาทในไตรมาส 1/68 หากไม่รวมรายการพิเศษกำไรหลักจะอยู่ที่ 5.7 พันล้านบาท ลดลง 8% YoY แต่เพิ่มขึ้น 13% QoQ เมื่อมองไปยังไตรมาส 3/68 BLS คาดว่ากำไรหลักจะทรงตัว QoQ โดยคำสั่งซื้อเร่งด่วนทยอยหมดลงขณะที่แรงหนุนจากกลุ่ม DC/AI ยังคงต่อเนื่อง