บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป OPPDAY หุ้น SA: เจาะลึกผลประกอบการ Q1 ปี 2568 พร้อมทิศทางธุรกิจในอนาคต
P/E 42.24 YIELD 1.13 ราคา 7.10 (0.00%)
สรุป OPPDAY หุ้น SA: เจาะลึกผลประกอบการ Q1 ปี 2568 พร้อมทิศทางธุรกิจในอนาคต
สวัสดีค่ะท่านนักลงทุน ผู้สื่อข่าว และนักวิเคราะห์ทุกท่าน ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ขอรายงานผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2568 โดยมีหัวข้อหลักในการนำเสนอ 4 ส่วน ได้แก่ ภาพรวมของบริษัท ตัวเลขสำคัญทางการเงิน อัปเดตภาพรวมธุรกิจ และช่วงถาม-ตอบ
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)
ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ไซมิส แอสเสท ไม่ได้มีการเปิดโครงการใหม่ แต่เน้นการขายโครงการเดิมที่มีอยู่ ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้รายได้รวมในไตรมาส 1 อยู่ที่ 935 ล้านบาท ลดลง 35.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และลดลง 20.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (YoY) รายได้หลักยังคงมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็น 66% หรือประมาณ 616.9 ล้านบาท กลุ่มโรงแรมมีส่วนร่วมประมาณ 16% หรือ 147.5 ล้านบาท และส่วนที่เหลือมาจากกลุ่มอื่นๆ คิดเป็น 170.6 ล้านบาท โดยรวมแล้ว กำไรสุทธิอยู่ที่ 9.3% ของยอดขายในไตรมาส 1 ปี 2568
ต้นทุนในการขายและบริการในไตรมาส 1 ปี 2568 อยู่ที่ 500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 63.2% ของรายได้จากการดำเนินงาน ลดลง 1% จากไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว ค่าใช้จ่าย SG&A ในไตรมาส 1 ปี 2568 อยู่ที่ 253.2 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 27.1% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1 ปี 2567 แต่ต่ำกว่าไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว กำไรสุทธิในไตรมาส 1 อยู่ที่ 86.8 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 9.3% ต่อ ยอดขาย ค่อนข้างใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ของปีที่แล้วและสูงกว่าไตรมาส 4 ที่ผ่านมา
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)
ปัจจุบันบริษัทมี 8 กลุ่มธุรกิจ โดยธุรกิจหลักยังคงเป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย แบ่งเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านแนวราบ บริษัทมีการแบ่ง segment ตามกลุ่มลูกค้า เช่น โครงการ The Collection สำหรับระดับ High-end, ไซมิส Exclusive, Landmark สำหรับโครงการ Mixed-use และ Blossom สำหรับระดับย่อมเยา หมู่บ้านมีโครงการ มนต์เสน่ห์ สำหรับระดับ High-end และ ไซมิส คิน สำหรับบ้านที่ตอบสนองเรื่องเทคโนโลยี
กลุ่มธุรกิจโรงแรมเป็น Rising Star ของบริษัท ปัจจุบันมีโรงแรมที่เปิดแล้ว 6 แห่ง แบรนด์ Wyndham (2 แห่ง), Ramada (2 แห่ง), Tribe Living สุขุมวิท 39 (แห่งแรกในไทย) และ Kacia ของ Banyan Group ในอนาคตมีแผนที่จะเปิดโรงแรมเพิ่มเติม รวมถึง Crowne Plaza บริษัทพยายามกระจายความเสี่ยงโดยขยายไปสู่ธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมต่างๆ
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)
ความเสี่ยงหลักที่บริษัทกำลังเผชิญคือสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและยอดขายอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ การแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นยังเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่บริษัทต้องเผชิญ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)
บริษัทมีแผนที่จะรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้โดยการ diversify portfolio ไปยังธุรกิจอื่นๆ เช่น โรงแรมและร้านอาหาร นอกจากนี้ บริษัทจะมุ่งเน้นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและมีมูลค่าเพิ่มเพื่อดึงดูดลูกค้า และบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)
บริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้สร้างคุณค่าของผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรมทางด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายที่จะตอบสนองความคุ้มค่าให้กับทุกคน ภายใต้แนวคิด "สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต" หรือ Asset of Life บริษัทมีแผนที่จะเปิดโครงการเพิ่มเติมในอนาคต เช่น โครงการ Brand Resident ชื่อ The Collection และไซมิส Exclusive ตรงรัชดา รวมถึงโครงการ Health & Wellness ชื่อ ไซมิส ตลิ่งชัน นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดโรงแรม Crowne Plaza
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 37:18]
- เป้าหมายรายได้ปีนี้
ปีนี้คาดว่าจะทำรายได้ประมาณเท่าๆ กับปีที่แล้ว คือบวก-ลบ 4,000 ล้านบาท
- Backlog ที่มีอยู่
มี Backlog อยู่แล้ว on hand เกือบ 1,000 กว่าล้านบาท
- กลยุทธ์ทางการตลาด
เรามุ่งเน้นเรื่องการตลาดโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านแนวราบ และสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพการก่อสร้าง
- การบริหารกระแสเงินสด
บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารกระแสเงินสด บริหารจัดการสต๊อก และติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ
- แผนการลงทุนในอนาคต
เราเน้นการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพ และบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ
สรุป: ถึงแม้ผลประกอบการในไตรมาส 1 จะลดลงเล็กน้อยเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ แต่ไซมิส แอสเสท ยังคงมี Backlog และแผนการตลาดที่ชัดเจน รวมถึงการกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจอื่นๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต