บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

KTB กำไรปี 67 แข็งแกร่ง! สินเชื่อรายย่อย-ภาครัฐหนุน Q4 กำไรยังโต
P/E 6.79 YIELD 7.25 ราคา 21.30 (-2.29%)
ไฮไลท์สำคัญ: ผลประกอบการ KTB ปี 2567
ธนาคารกรุงไทย (KTB) โชว์ผลงานปี 2567 กำไรสุทธิ 43,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% แม้ไตรมาส 4 กำไรจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังโต 17.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรสุทธิจะเติบโตถึง 19.8% โดยรวม KTB มีรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียมและหนี้สูญรับคืน สินเชื่อเติบโต 4.7% และยังบริหารจัดการต้นทุนได้ดี
รายละเอียดผลประกอบการและสินเชื่อ
KTB มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารในไตรมาส 4 ปี 2567 อยู่ที่ 10,475 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 แต่ลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 จากรายได้ที่ลดลง โดยเฉพาะเครื่องมือทางการเงินตามสภาวะตลาด สำหรับภาพรวมปี 2567 KTB มีกำไรสุทธิ 43,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3% (19.8% หากไม่รวมรายการพิเศษ) รายได้รวมเพิ่ม 6.4% จากค่าธรรมเนียมและหนี้สูญรับคืน สินเชื่อเติบโต 4.7% จากสินเชื่อรายย่อยและภาครัฐ แม้มีผลขาดทุนด้านเครดิต 31,069 ล้านบาท ลดลง 16.2% จากปีก่อน แต่ยังรักษา Coverage Ratio ที่ 188.6% และ NPL Ratio ที่ 2.99% ลดลงจากปีก่อน NIM อยู่ที่ 3.29% และ Cost to Income Ratio ที่ 43.2% สะท้อนการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ณ สิ้นปี 2567 สินเชื่อรวมอยู่ที่ 2,698,611 ล้านบาท เติบโต 4.7% จากสิ้นปี 2566 โดยสินเชื่อภาครัฐเติบโตสูงถึง 39.1% ขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ลดลง 6.1% และสินเชื่อ SME ลดลง 6.6% สินเชื่อรายย่อยเติบโต 3.3%
โอกาสและความเสี่ยง
KTB มี NPLs อยู่ที่ 95,065 ล้านบาท ลดลง 4.4% จากสิ้นปี 2566 คิดเป็น NPL Ratio 2.99% และมี Coverage Ratio ที่ 188.6% เพิ่มขึ้นจาก 181.3% ในปี 2566 สะท้อนถึงการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่เหมาะสม NIM อยู่ที่ 3.29% และ Cost to Income Ratio ที่ 43.2% สะท้อนการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ KTB มีโอกาสจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการลงทุนด้านเทคโนโลยี แต่ก็มีความเสี่ยงจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ ภาระหนี้ครัวเรือน และการแข่งขันในธุรกิจธนาคารที่สูงขึ้น โดยรวม KTB มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี 2567 และยังคงมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว