สรุป Oppday หุ้น PSH: เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568 พร้อมทิศทางธุรกิจอสังหาฯ และ Healthcare

P/E -100.00 YIELD 5.65 ราคา 3.72 (0.00%)

สรุป Oppday หุ้น PSH: เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568 พร้อมทิศทางธุรกิจอสังหาฯ และ Healthcare

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

รายได้รวมในไตรมาส 1/2568 ของ PSH อยู่ที่ 3,705 ล้านบาท ลดลง 11% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

  • ปัจจัยภายนอก: การประกาศขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ, ปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น (รวมถึงกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบน)
  • ผลกระทบ: ลูกค้าระดับล่างชะลอการตัดสินใจซื้อบ้าน, ตลาดบ้านพรีเมียมเริ่มมีสัญญาณอิ่มตัว

ธุรกิจโรงพยาบาลยังคงเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ไตรมาสแรกจะเป็นช่วง Low Season อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ที่ 30.6% ลดลงจากไตรมาส 1 ปีก่อนประมาณ 1.4% แต่หากไม่รวมการขายที่ดินที่ไม่ใช้ประโยชน์ กำไรขั้นต้นถือว่าทรงตัวและปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

บริษัทเปิดตัว "Pianary" ภายใต้บริษัท Inno Home Construction ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างที่แยกตัวออกมาจากพฤกษาเรียลเอสเตท โดยนำความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างบ้านตลอด 32 ปีที่ผ่านมา ส่งมอบบ้านคุณภาพตามเวลาและควบคุมงบประมาณได้ดี ในระดับราคาบ้าน 30-30 ล้านบาท

เน้นการร่วมมือกันในกลุ่มบริษัท (อสังหาฯ และโรงพยาบาล) สร้างการอยู่อาศัยในรูปแบบ Wellness ผ่านการทำ Health to Home ไปยังทุกหมู่บ้านในโครงการของพฤกษา นำเสนอโปรแกรมดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลเพื่อยกระดับทั้งแบรนด์และมูลค่าบ้าน

ใช้นวัตกรรมการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยร่วมมือกับปูนอินทรี คิดค้นปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก รักโลก นำมาผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปคาร์บอนต่ำที่มีความทนทานและรับแรงได้สูง

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**
  • ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ: สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
  • ความเสี่ยงด้านการเงิน: ปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น
  • ความเสี่ยงด้านการตลาด: การอิ่มตัวของตลาดบ้านพรีเมียม

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น: ยอดขายและยอดโอนอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย, กำไรอาจลดลง

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**
  • ลดการลงทุนในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก
  • เน้นการลงทุนในธุรกิจหลักมากขึ้น
  • บริหารจัดการต้นทุนของธุรกิจอสังหาฯ และควบคุมค่าใช้จ่าย
  • โฟกัสการทำราคาในโครงการที่มีสต็อกค้างนาน
5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง โดยเน้นคอนโดตึกเตี้ยซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น

วิสัยทัศน์: สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยเน้นธุรกิจหลัก (อสังหาฯ และ Healthcare) และใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างความแตกต่าง

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** [เริ่ม Q&A นาทีที่ 45:58] * **ทิศทางผลงาน Q2/2568 จะเป็นอย่างไรเมื่อเทียบ Year on Year และ Q on Q** * **คุณธีระ (ธุรกิจอสังหาฯ):** * ปลาย Q1 มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวซึ่งเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ * เมษายนเป็นช่วง seasonal ทำให้มีวันหยุดเยอะ * อาจมีการ panic จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวต่อเนื่องมา * ยอดโอนในเดือนเมษายนอยู่ที่ 660 ล้านบาท * มาตรการ LTV เพิ่งเริ่มมีผล 1 พฤษภาคม * การลดภาษีโอนในปลายเดือนเมษายน * ภาพรวมยังไม่ชัดเจน คาดว่าอีก 1-2 อาทิตย์จะพอคาดการณ์ Q2 ได้ * **นพ.สุวรรณ (ธุรกิจโรงพยาบาล):** * Q2 ทิศทางผู้ป่วยมักจะเริ่มเยอะขึ้นตาม season * เป็นช่วงที่มีภาวะฝนตก โรคระบาดจะเยอะขึ้น เด็กๆ เริ่มเปิดเทอม อาจมีการติดเชื้อในครอบครัว ทำให้มียอดผู้ป่วยเยอะขึ้น * ปีนี้ฝนตกมาค่อนข้างเร็ว ยอดผู้ป่วย OPD ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมเยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้ว * วิมุตจะครบรอบ 4 ปี จะมีการจัดกิจกรรม Health Expo คิดว่าจะได้รับความสนใจมากขึ้น มาเป็น package ตรวจสุขภาพ น่าจะสามารถมีคนไข้เพิ่มขึ้น * จะมีการเปิดศูนย์ปอด ซึ่งลงทุนเครื่องมือส่องกล้องด้วยวิธีแบบใหม่ (เครื่องทันสมัย) ซึ่งในไทยยังมีน้อยมาก จะโปรโมทเรื่องศูนย์ปอดเพิ่มมากขึ้นใน Q2 * **Backlog ปัจจุบันเหลือเท่าไหร่ โครงการที่จะเปิดใน Q2 มีอีกกี่โครงการ มูลค่าประมาณเท่าไหร่** * Backlog เหลืออยู่ประมาณ 4,378 ล้านบาท (ล่าสุดปัจจุบัน) * Q2 จะเปิดอีก 3 โครงการ * Townhouse 2 โครงการ * บ้านเดี่ยว 1 โครงการ * มูลค่ารวม 3 โครงการนี้ประมาณ 2,100 ล้านบาท * บ้านเดี่ยวที่เปิดเป็น segment 7-10 ล้าน (segment premium) * **ใน Q2 โรงพยาบาลวิมุตมีทิศทางผู้ป่วย ยอดเข้ามาเยอะหรือไม่ เพิ่มขึ้นจากปี 67 และไตรมาสก่อนหน้าเท่าไหร่** * ยอดคนไข้ใน Q2 (OPD) ค่อนข้างจะขึ้นเยอะขึ้น ประมาณ 20% * IPD ยอดการขึ้นยังไม่ได้ขึ้นสูงมากนัก เพราะโรงพยาบาลเริ่มมี effect ของเรื่อง copayment เข้ามา ทำให้คนไข้ตัดสินใจในการนอนโรงพยาบาลน้อยลง * จะมีการจัดทีมดูแลคนไข้ที่ใช้เรื่อง copayment คอย monitor ให้ว่าการนอนของตัวโรคที่เป็น simple disease จะมีผลกับ copayment ทางทีมจะเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มความสบายใจให้คนไข้ * **ทั้งปี ยังคงยอด target ไว้ที่ยอดขาย 23,000 ล้านบาท และยอดโอนที่ 20,000 ล้านบาทเหมือนเดิมหรือไม่ โครงการที่เปิด 22 โครงการยังตามแผนเดิมหรือไม่** * เป้าของทั้งปี (ยอดขาย 23,000 ล้านบาท และยอดโอนที่ 20,000 ล้านบาท) ยังไม่ได้มีการปรับลดลง แม้ Q1 performance จะเป็นช่วง seasonal ของทั้ง real estate และโรงพยาบาล คาดว่า Q2 เป็นต้นไปน่าจะสามารถ catch up ได้ เนื่องจากมีมาตรการรัฐเข้ามาเพิ่ม และโรงพยาบาลจะมีการเปิดศูนย์ COE เพิ่มมาใหม่ * แผนเปิดโครงการ 22 โครงการยังคงแผนเดิม เพราะได้ปรับตัวมาก่อนหน้านี้แล้วว่าเปิดโครงการที่มีขนาดเล็ก (มูลค่าโครงการประมาณ 800-1,000 ล้านบาท) และจำนวนยูนิตไม่ได้เยอะเหมือนเมื่อก่อน **หัวข้อที่ถามและคำตอบที่ผู้บริหารตอบในคลิป** * ผลงาน Q2/2568 * Backlog และโครงการใหม่ * ทิศทางผู้ป่วยโรงพยาบาล * เป้าหมายยอดขายและแผนโครงการ

โดยสรุป, PSH ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจ แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเน้นการปรับกลยุทธ์, การใช้นวัตกรรม, และการสร้างความร่วมมือเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด