บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TFM โชว์ผลงาน Q1 ปี 2568 กำไรโตสวนกระแส! พร้อมลุยตลาดใหม่-ดันยอดขายทะยานหมื่นล้าน
P/E 8.29 YIELD 9.22 ราคา 5.80 (0.00%)
TFM โชว์ผลงาน Q1 ปี 2568 กำไรโตสวนกระแส! พร้อมลุยตลาดใหม่-ดันยอดขายทะยานหมื่นล้าน
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
- ยอดขายรวม 1,231 ล้านบาท ลดลง 1.4% YoY สาเหตุหลักจากซัพพลายลูกปลาไม่เพียงพอ และอากาศหนาวเย็นที่ส่งผลให้ปลา กินอาหารน้อยลง
- ยอดขายอาหารกุ้งเพิ่มขึ้น 9.7% YoY โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น และการส่งออกที่ฟื้นตัวในศรีลังกา
- กำไรขั้นต้น 267 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7% YoY ส่งผลให้ Gross Margin อยู่ที่ 21.7% สูงกว่า Q1 ปีที่แล้ว (16.1%) จากความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นของอาหารกุ้ง และการควบคุมต้นทุนการผลิต
- กำไรสุทธิ 132 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 26.8% YoY จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
ภาพรวมธุรกิจในไตรมาสนี้ TFM ยังคงรักษาการเติบโตได้ดี แม้จะมีปัจจัยภายนอกมากระทบ โดยเฉพาะในส่วนของอาหารกุ้งที่ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเติบโต
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- การเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศสำหรับอาหารกุ้ง
- การฟื้นตัวของตลาดศรีลังกาและการขยายตลาดส่งออก
- การเปิดตลาดใหม่ๆ โดยอาศัย Partnership ที่แข็งแกร่ง
TFM มองเห็นโอกาสในการเติบโตจากการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะเป็น Top 5 ในอินโดนีเซียภายในปีหน้า และ Top 3 ภายในปี 2573 นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการเปิดตลาดใหม่ๆ โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายพันธมิตรที่มีอยู่
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- โรคระบาดในกุ้งที่อินโดนีเซียส่งผลกระทบต่อยอดขาย
- การเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจในปากีสถาน
- ความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและราคาวัตถุดิบ
ความเสี่ยงหลักที่ TFM กำลังเผชิญคือปัญหาโรคระบาดในกุ้งที่อินโดนีเซีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและราคาวัตถุดิบที่อาจผันผวน
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- Diversify รายได้จากหลายประเทศเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาในประเทศใดประเทศหนึ่ง
- ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ลูกกุ้งสายพันธุ์ที่ทนโรคมากขึ้น
- Diversify ฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น
- Lock ราคาวัตถุดิบล่วงหน้า 3-6 เดือนเพื่อลดผลกระทบจากราคาผันผวน
TFM ใช้วิธีการ Diversify รายได้จากหลายประเทศเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาในประเทศใดประเทศหนึ่ง นอกจากนี้ยังร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ลูกกุ้งสายพันธุ์ที่ทนโรคมากขึ้น และ Lock ราคาวัตถุดิบล่วงหน้าเพื่อลดผลกระทบจากราคาผันผวน
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- คาดการณ์ผลผลิตกุ้งในไทยปี 2568 ไม่น่าจะน้อยกว่าปีที่แล้ว
- แนวโน้มราคาวัตถุดิบในไตรมาสที่ 2 ยังคงบริหารจัดการได้
- มุ่งสู่เป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาทภายในปี 2573 โดยมี 4 กลยุทธ์หลัก: Win ในประเทศ, Expansion ในอินโดนีเซีย, New Wave of Growth จากการเปิดตลาดใหม่, และ Sustainability
TFM ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่ออนาคต โดยคาดการณ์ว่าผลผลิตกุ้งในไทยปี 2568 จะไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว และราคาวัตถุดิบในไตรมาสที่ 2 ยังคงบริหารจัดการได้ บริษัทยังคงมุ่งสู่เป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาทภายในปี 2573 โดยมี 4 กลยุทธ์หลัก
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 45.20]
- คำถาม: TFM มีการขายอาหารกุ้ง, อาหารสัตว์น้ำไปบังคลาเทศบ้างไหม และมีสัดส่วนเป็นเท่าไหร่ของรายได้และกำลังการผลิต?
- คำตอบ: ยังไม่มีการส่งออกไปบังคลาเทศ ปัจจุบันมีการส่งออกไปศรีลังกาเป็นหลัก และบังคลาเทศเป็นเป้าหมายต่อไปที่ทีม Marketing กำลังพิจารณา
- คำถาม: ตลาดอาหารปลาในไทยมีผล Seasonal Effect หรือไม่ Quater ใดเป็น Quater ที่ Low Season หรือว่า Low Peak และในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 นี้ ปริมาณการขายอาหารปลาลดลงทั้ง Year on Year แล้วก็ Q1Q จะฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 หรือไม่?
- คำตอบ: สัตว์น้ำเป็นสัตว์เลือดเย็นจะกินอาหารได้ดีในอากาศอบอุ่น Peak มักจะเป็น Quater 2,3 ส่วน Quater 1,4 อากาศค่อนข้างเย็น อาหารปลาที่ปรับตัวลดลงคาดว่าจะกลับมาทำผลงานได้ดีใน Quater 2
- คำถาม: คาดการณ์ผลผลิตกุ้งในปี 2568 จะสูงกว่าปี 2567 หรือไม่?
- คำตอบ: ไม่น่าจะน้อยกว่าปีที่แล้ว จากสถานการณ์ 3 เดือนแรก การลงกุ้งเพิ่มขึ้น Demand ของเกษตรกรยังต้องการลูกกุ้งและลูกปลา
- คำถาม: แนวโน้มวัตถุดิบในไตรมาสที่ 2 เป็นอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก และอัตรากำไรขั้นต้น Gross profit margin ในไตรมาสที่ 2 จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกหรือไม่?
- คำตอบ: บริษัทพยายามที่จะล็อกราคาวัตถุดิบล่วงหน้า 3-6 เดือน ช่วง 3 เดือนข้างหน้าจะบริหารจัดการได้ Quarter 2 ส่วนมากจะเป็น Peak Water แค่ Volume ที่เพิ่มขึ้นอย่างเดียว Assuming ว่าราคาต่างๆ ยังใกล้เคียงเดิมมันก็จะเป็นผลดีกับตัว Gross Profit Margin แล้ว
- คำถาม: แนวโน้มผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องหรือไม่ เพราะอะไร และตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้เติบโตเท่าไหร่ และก็เพราะอะไร แล้วก็อีกคำถามหนึ่งนะคะ ก็เตรียมงบลงทุนนะคะ สำหรับปี 68 นี้เป็นเท่าไหร่ แล้วก็ใช้ทำอะไรบ้างค่ะ?
- คำตอบ: ภาพรวมทั้งปี ตัวยอดขายคิดว่าจะยังทำได้อยู่ใน Range ที่แจ้งไปประมาณ 8-10% ถึงแม้ว่าใน Quater 1 เนี่ยยอดขายลดลงนิดนึงประมาณ 1% แต่คิดว่าน่าจะกลับมาได้ ตัว Quarter 2 ก็อย่างที่แจ้งไปว่า GP เนี่ยน่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดี อาจจะดีกว่าตัว Guidance ด้วย ครึ่งปีหลังยังขอรอดูอีกสักพัก งบลงทุนส่วนใหญ่จะเน้นเร่ง Production Line ของอาหารปลาที่มหาชัยกับอาหารกุ้งที่ระโนด
- คำถาม: ข้อตกลงทางการค้าระหว่างไทยกับอเมริกาน่ะค่ะ คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อ TFM หรือไม่อย่างไรคะ?
- คำตอบ: มองแล้วเป็นสถานการณ์บวก ไม่ได้มีผลกระทบ เพราะเราไม่ได้มีการส่งออกไปที่สหรัฐอเมริกา มองเป็นเรื่องจุดแข็งในเรื่องของวัตถุดิบบางตัว ที่อาจจะมีโอกาส ได้วัตถุดิบที่ดีและก็ราคาที่เหมาะสม วันนี้สถานการณ์หลายๆ ประเทศเริ่มเริ่มคลี่คลาย ภาษีทางสหรัฐอเมริกาและจีนก็ก็เริ่มบรรเทา ก็ทำให้อนาคตจากนี้ไปจะค่อยๆ settle ภาพธุรกิจก็จะค่อนข้างดีขึ้นแล้วก็บรรยากาศน่าจะน่าจะดีขึ้น
- คำถาม: ภาพอุตสาหกรรม เอ่อ ภาพอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำสัตว์บกในปี 2568 ของประเทศไทยมีแนวโน้มเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็คาดว่า จะมีการเติบโตจากปี ก่อนหรือไม่ จากเซกเตอร์ปศุสัตว์ใดค่ะ?
- คำตอบ: ภาคสัตว์น้ำประเทศไทยวันนี้การเลี้ยงยังเลี้ยงได้ดี ตลาดในประเทศคึกคักมาก ทั้งตลาดที่คนไทยกินเองแล้วก็ทาง Tourist ที่เข้ามา ผลผลิตแล้วก็ทั้งลูกกุ้งลูกปลาเนี่ยยังเป็นที่ที่ยอมรับ ปีนี้ยังดี สดใส ราคาปลา ราคา กุ้ง Q1 ที่ผ่านมาเป็นราคาที่ดีที่สุดในรอบ 5 ปี สัตว์บกปีนี้ก็กลับมาดีมาก เปลี่ยนโมเดลไปทำให้ Margin เราก็สูงขึ้น จากนี้ไปก็จะอาจจะเพิ่มทำให้ยอดขายเติบโตขึ้น
- คำถาม: บริษัทมีแผนซื้อหุ้นคืนหรือไม่คะ?
- คำตอบ: explore อยู่นะคะ แต่ว่า ณ ตอนนี้ตัวสภาพคล่องของของหุ้นเราอะค่ะมัน เอ่อ ค่อนข้างต่ำเนาะ เราเกรงว่าถ้าเรายิ่งซื้อหุ้นคืนไปตัว Volume ในตลาดก็จะยิ่งน้อยลงไปอีกก็เลยคิดว่าอาจจะยังไม่ใช่จังหวะตอนนี้ แต่เราก็จะพยายามศึกษาไปเรื่อยๆ นะคะว่า เอ่อ ตัว Tools ไหนที่จะเหมาะสมกับหุ้นเรานะคะ อย่างล่าสุดเราก็มีการแตก แตกพาร์ไปนะคะจาก 2 บาท เป็น 1 บาทนะคะ อันนี้จริงๆ แล้วในเชิงทาง Mathematical ก็ไม่ได้ Effect อะไรเนาะ แต่ว่ามันจะเป็นทางเชิงจิตวิทยา นะคะว่า เอ่อ ซื้อง่ายขายคล่องแล้วก็อาจจะเพิ่มตัว Trading Volume ได้
- คำถาม: ถ้าจะไปถึงยอดขาย 10,000 ล้านบาท นะคะ บริษัทต้องทำ M&A หรือไม่ แล้วก็มีแผนอย่างไรบ้างคะ?
- คำตอบ: พร้อมที่จะ Explore Target ต่างๆ แล้วก็พยายามศึกษาตัวเองอยู่กับพร้อมกับทางทางกรุ๊ปเนี่ยก็จะมีการทำ เอ่อ Strategy 2030 นะคะ เพื่อเหมือนกับคล้ายๆ ว่า X-ray ตัวเราว่าเรามีจุดอ่อนจุดแข็ง อย่างไรนะคะ และการที่จะเติบโตไปได้อย่างก้าวกระโดดนั้น เราจำเป็นที่จะต้องมี Inorganic เอ่อ Transaction หรือเปล่านะคะ ซึ่งจริงๆ แล้วถ้ามามองที่ตัว Financial Ratio ของเรา ก็จะเห็นว่าตัว Debt to Equity ของเราเนี่ยต่ำมากนะคะ แล้วก็เรามี Free Cash Flow ในๆๆ ไม่ใช่ Quarter นี้แต่ว่าในภาพรวมของทั้งปีเนี่ย เราจะมีการ เอ่อ Free Cash Flow เนี่ยค่อนข้างที่จะเยอะนะคะ
- คำถาม: ความขัดแย้งระหว่างอินเดียและปากีสถานนะคะ ส่งผลต่อธุรกิจในปากีหรือไม และรวมถึงปัญหาเศรษฐกิจในประเทศอินโด จะส่งผลกระทบต่อยอดขายในอินโดหรือไม่?
- คำตอบ: อินโดมีปัญหาค่าเงิน แต่ไม่กระทบกับธุรกิจ Feed เพราะขายให้เกษตรกรในประเทศเป็นหลัก และเกษตรกรขายกุ้งส่งออก เมื่อค่าเงินอ่อนเป็นผลดีกับเกษตรกร ปากีสถานกับอินเดียที่ทะเลาะกันไม่ได้มี Impact โดยตรง แต่ปัญหาเศรษฐกิจของปากีสถานทำให้ IMF เข้ามาควบคุม เป็นการเพิ่มขึ้นของพวกค่าไฟ เพิ่มขึ้นของภาษี ซึ่งส่วนนั้นจะกระทบกับความสามารถในการจับจ่ายใช้สอย
- คำถาม: ในส่วนของตลาดอาหารสัตว์บกนะคะ ปีนี้มีแนวโน้มเป็นอย่างไรนะคะ ทั้งยอดขายแล้วก็อัตรากำไรค่ะ?
- คำตอบ: จะ Maintain สัดส่วนที่ประมาณ 7% ของ Total Portfolio ไว้ระดับระดับนี้ อาจจะไม่ได้มีการเติบโตอย่างหวือหวา เอ่อ เป็น เป็น เป็น 2 Digit เหมือนที่เราคาดหวังใน ใน ในอาหารกุ้งอาหารปลานะคะ เพียงแต่ว่าเราคิดว่าเราจะอยู่ในกับลูกค้าแล้วก็ SKU ที่สามารถทำกำไรได้ โดยที่อยากจะได้ เอ่อ ตัว GP healthy healthy แบบนี้นะคะ แล้วก็ยอดขาย Maintain อยู่ที่ประมาณสัก 7% ของพอร์ตนะคะ
โดยสรุปแล้ว TFM ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 แม้จะมีปัจจัยภายนอกเข้ามากระทบ โดยเฉพาะในส่วนของอาหารกุ้งที่ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเติบโต บริษัทมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ และมีแผนที่จะรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังคงมุ่งสู่เป้าหมายยอดขาย 10,000 ล้านบาทภายในปี 2573 โดยมี 4 กลยุทธ์หลัก