บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

SMT โชว์กำไรสุทธิ 43.68 ล้านบาทในไตรมาส 1/68 เพิ่มขึ้นถึง 53.80% แม้รายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากการจำหน่ายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (โรงงาน 1) สร้างกำไรพิเศษถึง 94.22 ล้านบาท

สถานการณ์และผลกระทบ:

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยังคงเผชิญความท้าทายจากอุปสงค์ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจโลกและสงคราม ส่งผลให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ อย่างไรก็ตาม SMT ยังคงมุ่งเน้นลูกค้าคุณภาพ, กระจายรายได้, กระจายฐานลูกค้าทั่วโลก, และพัฒนาสินค้าให้ทันสมัย

รายได้จากการขายและบริการลดลง 6.14% จากการลดลงของรายได้จากการประกอบและทดสอบแผงวงจรไฟฟ้า และการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แต่รายได้จากอุปกรณ์สื่อสารผ่านเส้นใยแก้วนําแสง (Optics) เพิ่มขึ้น 19.75% ต้นทุนขายและบริการเพิ่มขึ้น 3.94% ทำให้กำไรขั้นต้นลดลง 96.37% เหลือเพียง 1.73 ล้านบาท

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 4.12% และมีกำไรจากการจำหน่ายที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 94.22 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 10.06% เหลือ 0.39% แต่อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 6.00% เป็น 9.83%

ทรัพย์สินและหนี้สิน:

สินทรัพย์รวมลดลง 3.40% แต่หนี้สินรวมลดลง 19.77% ส่วนใหญ่จากเงินรับมัดจำล่วงหน้าค่าที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และอุปกรณ์ ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 2.05% อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ลดลงจาก 0.33 เท่า เหลือ 0.26 เท่า แสดงถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างเงินทุน เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น 42.83%

บริษัทฯ มีลูกหนี้การค้าที่มีอายุเกิน 12 เดือนจำนวน 229.99 ล้านบาท และได้ตั้งสำรองค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิต สินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.85% กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานลดลง แต่มีกระแสเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมการลงทุนเพิ่มขึ้น

อัตราส่วนสภาพคล่องอยู่ที่ 2.96 เท่า วงจรเงินสดลดลงจาก 128.98 วัน เหลือ 100.45 วัน อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) เพิ่มขึ้นจาก 9.17% เป็น 9.52%

สรุป:

ผลประกอบการของ SMT ในไตรมาส 1/68 แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น แม้รายได้จะลดลงเล็กน้อย การขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หลักช่วยเพิ่มกำไรสุทธิอย่างมีนัยสำคัญ และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและการควบคุมหนี้สินยังคงเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ