บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ: กำไรสุทธิปี 2567 เป็นไปตามคาด

KSS (Krungsri Securities) ประเมินว่า กำไรสุทธิของ GULF ในปี 2567 เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยอยู่ที่ 1.82 หมื่นล้านบาท เติบโต 22% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY) ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และรายได้จากพลังงานหมุนเวียนที่สูงขึ้น KSS ยังคงคำแนะนำ "Neutral" สำหรับหุ้น GULF โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 60.25 บาท

ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโต: การลงทุนและกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น

KSS ระบุว่า รายได้ของ GULF เติบโต 6% YoY โดยหลักมาจาก GPD Unit 3 & 4 และปริมาณการขายไฟที่เพิ่มขึ้นจาก GSRC นอกจากนี้ รายได้จากพลังงานหมุนเวียนยังเพิ่มขึ้นถึง 29% YoY อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่ KSS คาดการณ์ไว้เล็กน้อย แต่สัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้เป็นไปตามที่คาดไว้ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากการลงทุนหลัก ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้นตามการขยายกำลังการผลิต

KSS คาดการณ์ว่าผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2568 (1Q25F) จะเติบโตต่อเนื่อง QoQ จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นและส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก HKP Unit 2 และเงินลงทุนหลัก

วิธีประเมินมูลค่า: SOTP (Sum of the Parts)

KSS ใช้วิธี SOTP ในการประเมินราคาเป้าหมายของ GULF ที่ 60.25 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้:

• ธุรกิจพลังงาน: 30 บาทต่อหุ้น (ประเมินด้วยวิธี DCF โดยใช้ Beta 1.2, Rf 2.5%, และ market risk premium 8%)
• ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน: 3.5 บาทต่อหุ้น
• ธุรกิจ ICT (ถือหุ้น 40.44% ใน ADVANC และ 41.14% ใน THCOM): 25 บาทต่อหุ้น
• ส่วนอื่น ๆ: 1.5 บาทต่อหุ้น

ข้อสังเกต: อัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าคาด

แม้ว่าผลประกอบการโดยรวมจะเป็นไปตามคาด แต่ KSS ตั้งข้อสังเกตว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ GULF อยู่ที่ 19.6% ซึ่งต่ำกว่าที่ KSS คาดการณ์ไว้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม สัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้เป็นไปตามที่คาดไว้ที่ 3%

สรุป: คงคำแนะนำ "Neutral"

KSS ยังคงคำแนะนำ "Neutral" สำหรับ GULF โดยมีราคาเป้าหมายอยู่ที่ 60.25 บาท แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากการเติบโตของรายได้และกำไร แต่ KSS ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาด