บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
KLINIQ: อุปสงค์ความงามชะลอตัว กดดันกำไรปี 68
P/E 13.77 YIELD 6.36 ราคา 22.00 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ
KSecurities ปรับลดประมาณการกำไรของ บมจ. เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม (KLINIQ) เนื่องจากอุปสงค์ด้านความงามเริ่มมีสัญญาณชะลอตัว และการควบคุมต้นทุนสำหรับบริการที่มีอัตรากำไรต่ำยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
อุปสงค์ชะลอตัว ฉุดกำไร
KLINIQ รายงานกำไรต่ำกว่าประมาณการ 15% เนื่องจากอัตรากำไรที่ต่ำกว่าคาด โดยกำไร Q3/68 คิดเป็น 69% ของประมาณการทั้งปี KSecurities คาดการณ์ว่าการเติบโตของรายได้เงินสดจะอยู่ที่ 2-3% ต่อปี หลังปี 2568 จากการเปิดสาขาใหม่ 10 สาขาในปี 2569 แต่บริการที่มีอัตรากำไรต่ำยังคงเป็นแรงกดดัน
ผู้บริหาร KLINIQ ยังคงเป้ายอดขายเงินสดปี 2568 ไว้ที่ 3.5 พันล้านบาท แต่ปรับลดเป้าอัตรากำไรสุทธิลงเหลือ 11% (จากเดิม 12%) สำหรับปี 2569 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากการเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 10 สาขา
ยอดขายเงินสดเดือนตุลาคมทำสถิติสูงสุด แม้ว่าปกติแล้วเดือนพฤษภาคมจะเป็นจุดสูงสุดของไตรมาส นอกจากนี้ KLINIQ ยังได้เปิดสาขาใหม่ 3 สาขา รวมถึง 1 สาขาที่เป็นการรีแบรนด์
ข้อสังเกตและกลยุทธ์บริษัท
KSecurities ระบุว่า KLINIQ มีการปรับค่าคอมมิชชั่นตามประเภทของบริการ โดยลดค่าคอมมิชชั่นสำหรับบริการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และปรับเพื่อส่งเสริมการขายสำหรับบางบริการในแต่ละช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม การนำแนวทางดังกล่าวไปปฏิบัติยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ KLINIQ จะเริ่มเข้มงวดมากขึ้นใน Q4/68 โดยพนักงานที่ไม่ปฏิบัติตามกลยุทธ์บริษัทจะได้รับค่าคอมมิชชั่นต่ำลง เพื่อให้บริษัทลดค่าคอมมิชชั่นในบริการที่มีอัตรากำไรต่ำ
ผู้บริหาร KLINIQ เห็นการมาใช้บริการของลูกค้าเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล แต่บริการบางส่วนของ Q4/68 จะมาจากบริการที่มีอัตรากำไรต่ำ นอกจากนี้ ลูกค้ามีการเปลี่ยนไปซื้อแพ็กเกจราคาต่ำใน Q3/68 เนื่องจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
KLINIQ ได้ออกแพ็กเกจแบบรวมหลายบริการในราคาคุ้มค่าเพื่อกระตุ้นอุปสงค์
คำแนะนำและราคาเป้าหมาย
KSecurities แนะนำ "ถือ" KLINIQ โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 19.30 บาท แม้ราคาหุ้นจะปรับลง 18% มาซื้อขาย PER ปี 2569 ที่ 12 เท่า แต่ปัจจัยหนุนยังจำกัด การปรับลดประมาณการกำไรส่งผลให้ราคาเป้าหมายลดลง