บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

text-primary ไฮไลท์สำคัญ

SYNEX รายงานกำไรปกติ Q3/25 ที่ 179 ล้านบาท (+8% QoQ, +26% YoY) ดีกว่าที่หยวนต้าคาดการณ์ไว้ 5% หนุนโดยรายได้ที่เติบโตจากกลุ่ม Apple, มือถือและอุปกรณ์, Enterprise และ Gaming & Gadget

text-primary ผลประกอบการที่น่าจับตา

SYNEX ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในไตรมาส 3 ปี 2568 โดยมีกำไรสุทธิ 198 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 179 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 5% และเป็นกำไรรายไตรมาสที่สูงที่สุดตั้งแต่ Q1/23 รายได้รวมอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 4.0% QoQ และ 12.6% YoY โดยเฉพาะกลุ่ม Apple ที่เติบโตถึง 14% YoY จากการเปิดตัว iPhone17 และการขยายตลาดสู่ต่างจังหวัด นอกจากนี้ กลุ่มมือถือและอุปกรณ์เติบโต 67% YoY, กลุ่ม Enterprise เติบโต 12% YoY และกลุ่ม Gaming & Gadget เติบโตอย่างโดดเด่นถึง 95% YoY จาก Nintendo Switch2 อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Commercial ลดลง 3% YoY และกลุ่ม Consumer ลดลง 6% YoY ตามกำลังซื้อของผู้บริโภค

อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 3.9% (+4bps QoQ, -8bps YoY) เป็นไปตามมาตรฐาน แม้ว่ายอดขาย iPhone จะสูงขึ้น สะท้อนถึงการบริหารจัดการภายในที่ดี SG&A อยู่ที่ 263 ล้านบาท (-2.6% QoQ, +14.6% YoY) เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในระบบคลังสินค้าอัจฉริยะและระบบ AI ภายในองค์กร ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมอยู่ที่ 37 ล้านบาท (-1.6% QoQ, +159% YoY) ตามผลประกอบการของ NCAP ที่เติบโต ดอกเบี้ยจ่ายอยู่ที่ 41 ล้านบาท (+2.6% QoQ, -17.2% YoY) ลดลงตามทิศทางดอกเบี้ยขาลง

text-primary ข้อสังเกตและประมาณการ

กำไรปกติ 9 เดือนแรกของปี 2568 คิดเป็น 72% ของประมาณการทั้งปีที่หยวนต้าคาดไว้ที่ 685 ล้านบาท (+23% YoY) โดยมองว่า Q4/25 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี

text-primary คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

หยวนต้าคงคำแนะนำ "ซื้อ" SYNEX โดยมีราคาเป้าหมายสิ้นปี 2569 ที่ 13.70 บาท อิง PER 14.5x ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER25 ที่ 12.5x และ PER26 ที่ 10.6x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่ 15-20x อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ คาดการณ์ผลตอบแทนเงินปันผลที่ระดับ 5% ในปี 2568-2569

เชิงกลยุทธ์ แม้ตลาดจะมองข้ามหุ้นขนาดกลางขนาดเล็ก แต่ราคาหุ้นในระดับนี้ถูกกว่าปกติ และยังให้ปันผลที่สูงบนผลประกอบการที่เป็นขาขึ้น จึงเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นที่ดีสำหรับนักลงทุนที่เน้นมูลค่า

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) การลดระดับสินค้าคงคลังของลูกค้ายาวนานกว่าคาด 2) เศรษฐกิจโลกชะลอตัวแรง และ 3) ค่าเงินบาท/USD เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ