บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

บมจ. เอส แอนด์ พี ซินดิเคท (SNP) เผชิญความท้าทายในไตรมาส 3 ปี 2568 กำไรสุทธิลดลง 33% เนื่องจากรายได้จากร้านอาหารในประเทศและต่างประเทศลดลง แม้ธุรกิจค้าปลีกและรับจ้างผลิตจะเติบโตได้ดีจากการขายขนมไหว้พระจันทร์และผลิตภัณฑ์ OEM

ผลประกอบการที่น่ากังวล

ในไตรมาส 3 ปี 2568 SNP มีรายได้รวม 1,422 ล้านบาท ลดลง 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรสุทธิอยู่ที่ 80 ล้านบาท ลดลง 33% สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 รายได้รวมอยู่ที่ 4,123 ล้านบาท ลดลง 9% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 164 ล้านบาท ลดลง 46% ปัจจัยหลักมาจากรายได้ร้านอาหารที่ลดลงในทุกช่องทาง โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ต

ข้อสังเกตและปัจจัยบวก

แม้ผลประกอบการโดยรวมจะลดลง แต่ SNP ยังมีปัจจัยบวกที่น่าสนใจ ได้แก่:

• อัตรากำไรขั้นต้น: ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1% เป็น 56.2% จากการขายขนมไหว้พระจันทร์
• ผลิตภัณฑ์ใหม่: การเปิดตัว "ชิโอะปัง" ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมียอดขายมากกว่า 2,000,000 ชิ้น
• การขยายสาขา: ธุรกิจ Fresh Bake ขยายจุดขายเพิ่มขึ้นเป็น 111 จุด

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 2.8% ในไตรมาส 3 และ 2.7% ในงวด 9 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเช่าที่สูงขึ้นและค่าเสื่อมราคาจากการเปิดสาขาใหม่

สรุปและแนวโน้ม

SNP กำลังเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจที่ซบเซา กำลังซื้อที่ลดลง และการแข่งขันที่รุนแรง บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนารูปแบบร้านใหม่, สินค้าที่ทันกระแส, การขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไปยังลาว, และการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ (QSR) เพื่อรับมือกับความท้าทายและสร้างการเติบโตในอนาคต บริษัทคาดการณ์ว่าในปี 2569 จะเผชิญกับความท้าทายจากการชะลอตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีโอกาสในการปรับรูปแบบธุรกิจและขยายธุรกิจใหม่