บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

FSSIA ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น KTB โดยให้ราคาเป้าหมาย 29 บาท มองว่า KTB ยังคงเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคารไทย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการบริหารจัดการเงินทุนที่แข็งแกร่ง และคาดการณ์การเติบโตของสินเชื่อใน Q4/2568

ผลการดำเนินงานและแนวโน้ม

FSSIA คาดการณ์ว่า KTB จะสามารถรักษา NIM (Net Interest Margin) ได้ที่ระดับ 2.85% แม้จะมีความกดดันเล็กน้อยจากการปรับราคาเงินฝากประจำ นอกจากนี้ คุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง และคาดว่า Credit Cost จะลดลง ใน Q4/2568 จาก 109 bps ใน Q3/2568
KTB ตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อ SME และสินเชื่อรายย่อยเพื่อสนับสนุนโอกาสในการขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง แม้ว่าสภาวะในระยะใกล้อาจยังมีความท้าทายอยู่บ้าง รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่แข็งแกร่งใน Q3/2568 ส่วนใหญ่มาจากหน่วยงาน Global Markets ของ KTB ซึ่งมีกำไรจากตราสารหนี้, FX, Interest Rate Swaps และ Cross-Currency Swaps ซึ่งอาจลดลงใน Q4/2568 แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ดี

ข้อสังเกต

แม้ว่าค่าธรรมเนียมจากแพลตฟอร์มเป๋าตังยังคงต่ำกว่า 5% ของรายได้ค่าธรรมเนียมทั้งหมด แต่ KTB ยังคงมองว่าการสร้างรายได้จากข้อมูลและการพัฒนา Digital Ecosystem เป็นโอกาสในการเติบโตในระยะยาว
KTB มี CET1 Ratio ที่แข็งแกร่งที่ 19% ซึ่งแสดงถึงแนวทางการบริหารจัดการเงินทุนที่ระมัดระวัง แม้ว่า CFO จะปฏิเสธความเป็นไปได้ในการจ่ายเงินปันผลพิเศษ (Special DPS) แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ในการเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Payout Ratio) จาก 50% และการทำโครงการซื้อหุ้นคืน (Share Buyback Program)

สรุป

FSSIA ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ KTB โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการบริหารจัดการเงินทุนที่แข็งแกร่ง คุณภาพสินทรัพย์ที่ดี และโอกาสในการเติบโตในระยะยาวจากการพัฒนา Digital Ecosystem จึงยังคงแนะนำ "ซื้อ" โดยมีราคาเป้าหมายที่ 29 บาท