บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงแนะนำ "ซื้อ" หุ้น KJL โดยให้ราคาเป้าหมาย 9.85 บาท มองว่าผลประกอบการจะกลับมาเติบโตโดดเด่นอีกครั้งใน Q4/25 และต่อเนื่องถึงปี 2526 จากการขยายกำลังการผลิตและการลงทุนใน Data Center

แนวโน้มผลประกอบการ

หยวนต้าคาดการณ์กำไรสุทธิ Q3/25 ของ KJL อยู่ที่ 44 ล้านบาท ลดลง 9.8% QoQ เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยต่อชิ้นลดลง อย่างไรก็ตาม GPM ยังคงสูงจากการลดลงของต้นทุนวัตถุดิบ สำหรับ Q4/25 คาดว่ากำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ จากปัจจัยฤดูกาลของธุรกิจก่อสร้างและการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐฯ

ทั้งนี้ หยวนต้าได้ปรับประมาณการกำไรปี 2525-2526 ลงเล็กน้อย 5% และ 10% ตามลำดับ เนื่องจากผลกระทบจากกำไร Q3/25 ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรปี 2526 จะกลับมาเติบโต 15.2% YoY จากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นเต็มปีและการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐฯ และ Data Center

ปัจจัยหนุนการเติบโต

หยวนต้ามองว่า KJL จะได้รับประโยชน์จาก 4 นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ได้แก่ 1) โครงการสนับสนุนพลังงานทางเลือก 2) โครงการ Data Center 3) การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐฯ และ 4) นโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ การขยายกำลังการผลิตและการลงทุนใน KJL Innovation Campus จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตในระยะยาว

ข้อสังเกตและประมาณการ

แม้ว่าราคาหุ้น KJL จะยังไม่แพง โดยมี PER25 ที่ 8.2 เท่า แต่หยวนต้ายังคงใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2525 โดยอิง PER ที่ 12.6 เท่า (+0.5SD) ได้ราคาเป้าหมายที่ 9.85 บาท นอกจากนี้ คาดการณ์เงินปันผลเฉพาะ 2H25 อีก 0.33 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 5.1%

ความเสี่ยงที่สำคัญที่ต้องติดตามคือ ความผันผวนของราคาเหล็กและโลหะ และการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ อย่างไรก็ตาม KJL มีจุดแข็งด้านส่วนแบ่งการตลาดและกำลังการผลิตที่สูง เครือข่ายลูกค้าที่แข็งแกร่ง และความยืดหยุ่นในการผลิตสินค้าที่หลากหลาย

สรุป

หยวนต้ายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ KJL โดยคาดว่าผลประกอบการจะกลับมาเติบโตโดดเด่นตั้งแต่ Q4/25 เป็นต้นไป จากการขยายกำลังการผลิตและการลงทุนใน Data Center ราคาหุ้นปัจจุบันยังซื้อขายที่ PER25 ต่ำเพียง 8.2 เท่า และให้ผลตอบแทนรอบ 2H25 สูงถึง 5.1% จึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"