บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
KTB กำไรพุ่ง 25.1% ในไตรมาส 3 ปี 2568! NPL ลดฮวบ Coverage Ratio สุดแกร่ง
P/E 8.31 YIELD 5.42 ราคา 28.50 (0.00%)
ธนาคารกรุงไทยโชว์ผลงานไตรมาส 3 สุดปัง กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารโตกระโดดถึง 25.1% แม้ดอกเบี้ยจะผันผวน แต่ธุรกิจตลาดเงินตลาดทุนและ Wealth Management ช่วยดัน! แถมยังคุมเข้มคุณภาพสินทรัพย์ NPL ลดฮวบ Coverage Ratio สูงปรี๊ด
ไฮไลท์สำคัญ: กำไรโตกระโดด สินทรัพย์แกร่ง
ธนาคารกรุงไทย (KTB) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารอยู่ที่ 14,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 25.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะลดลง แต่ได้รับการชดเชยจากการเติบโตของธุรกิจตลาดเงินตลาดทุนและรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจ Wealth Management ที่สำคัญ คุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง โดย NPL Ratio ลดลงอยู่ที่ 2.88% และ Coverage Ratio อยู่ในระดับสูงถึง 206.6%
ภาพรวมเศรษฐกิจ: ความท้าทายและโอกาส
เศรษฐกิจไทยปี 2568 ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก เช่น นโยบายการค้าของสหรัฐฯ และปัจจัยภายในประเทศ เช่น หนี้ครัวเรือนสูง อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐภายใต้นโยบาย "Quick Big Win" คาดว่าจะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจได้ ธนาคารกรุงไทยได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR, MOR และ MRR ลง 0.25% เพื่อตอบสนองต่อการปรับลดดอกเบี้ยของ กนง. ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 15 สิงหาคม 2568
การเปลี่ยนแปลงของกำไร: ปัจจัยขับเคลื่อน
การเติบโตของกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2568 ได้รับแรงหนุนหลักจากการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงาน 3.4% โดยเฉพาะธุรกิจตลาดเงินตลาดทุนและรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจ Wealth Management ที่เติบโตอย่างโดดเด่น แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะลดลงตามภาวะดอกเบี้ยและการปรับลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้า
สินเชื่อและสัดส่วน: บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
สินเชื่อโดยรวมลดลง 3.9% จากสิ้นปี 2567 เนื่องจากการชำระคืนของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อภาครัฐ อย่างไรก็ตาม สินเชื่อรายย่อยยังคงเติบโตได้ดี โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่สำคัญ NPL Ratio ลดลงจาก 2.99% เหลือ 2.88% และ Coverage Ratio ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 206.6% แสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ NIM ในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 2.74%
ปัจจัยเสี่ยงและโอกาส: มองไปข้างหน้า
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและในประเทศ ปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย และความผันผวนของตลาดการเงิน อย่างไรก็ตาม โอกาสในการลงทุนยังคงมีอยู่ เช่น การเติบโตของธุรกิจ Wealth Management การขยายสินเชื่อรายย่อย และการลงทุนในเทคโนโลยีและดิจิทัล
สรุป: KTB ปรับตัวรับความท้าทาย สร้างโอกาสเติบโต
โดยสรุป ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อรายได้และกำไรของ KTB ในไตรมาส 3 ปี 2568 ได้แก่ การเติบโตของธุรกิจตลาดเงินตลาดทุนและรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจ Wealth Management ซึ่งชดเชยผลกระทบจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ การบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี ส่งผลให้ NPL Ratio ลดลงและ Coverage Ratio อยู่ในระดับสูง ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและเทคโนโลยี