https://aio.panphol.com/assets/images/community/10810_2DB4E2.png

KTB กำไร Q3/2568 พุ่ง 50% จากเงินลงทุน THAI หนุน, KSS คงคำแนะนำ "ซื้อ"

P/E 8.39 YIELD 5.37 ราคา 28.75 (0.00%)

Krungsri Securities (KSS) คาดการณ์กำไรสุทธิของ KTB ใน Q3/2568 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 50% YoY และ QoQ จากการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุน (FVTPL) จากหุ้น THAI พร้อมคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมาย 28 บาท

ไฮไลท์สำคัญ

  • กำไรสุทธิ Q3/2568 คาดอยู่ที่ 1.67 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% YoY และ QoQ
  • Non-NII เพิ่มขึ้น 142% YoY และ 94% QoQ จากเงินลงทุน (FVTPL) ในหุ้น THAI
  • NIM ลดลงเหลือ 2.75% จาก 3.36% ใน Q3/2567 และ 2.90% ใน Q2/2568
  • สินเชื่อรวม ลดลง 1.7% QoQ คิดเป็น -2.6% YTD จากสินเชื่อภาครัฐ
  • NPL Ratio ลดลงเหลือ 2.85% จาก 2.94% ใน Q2/2568 จากการปรับชั้นลูกหนี้ THAI เป็น performing loan

รายละเอียดการวิเคราะห์

KSS คาดการณ์ว่า KTB จะรายงานกำไรสุทธิ Q3/2568 ที่ 1.67 หมื่นล้านบาท เติบโต 50% YoY และ QoQ โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ถึง 142% YoY และ 94% QoQ ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุน (FVTPL) จากหุ้น THAI อย่างไรก็ตาม NIM คาดว่าจะลดลงจาก 3.36% ใน Q3/2567 และ 2.90% ใน Q2/2568 มาอยู่ที่ 2.75% เนื่องจาก yield on loan ที่ลดลงตามทิศทางดอกเบี้ยนโยบายและการเปลี่ยนแปลงของ portfolio mixed นอกจากนี้ สินเชื่อรวมยังคงลดลง 1.7% QoQ จากสินเชื่อภาครัฐ

ข้อสังเกต

แม้ว่า KSS จะคาดการณ์กำไรสุทธิ Q4/2568 จะลดลง YoY และ QoQ จาก NIM ที่ลดลงและการลดลงของเงินลงทุน (FVTPL) แต่คาดว่าสินเชื่อรวมจะเติบโต QoQ จากสินเชื่อภาครัฐ และค่าใช้จ่าย (credit cost) จะลดลงจากการกลับสำรอง (reverse provision) บางส่วนของ THAI

สรุปและคำแนะนำ

KSS คงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับ KTB โดยให้ราคาเป้าหมาย 28 บาท เนื่องจากคาดว่าธนาคารจะสามารถรักษาระดับเงินปันผล dividend yield ที่ 7% ได้ และมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำ เนื่องจากลูกหนี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ นอกจากนี้ KTB ยังได้รับผลบวกจากการที่ THAI กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งในด้านคุณภาพสินทรัพย์และความสามารถในการทำกำไร

โพสต์ล่าสุด