สรุป Oppday หุ้น IIG: วิเคราะห์ผลประกอบการปี 2568 ครึ่งปีแรก พร้อมแนวโน้มอนาคต

P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 1.36 (0.00%)

สรุป Oppday หุ้น IIG: วิเคราะห์ผลประกอบการปี 2568 ครึ่งปีแรก พร้อมแนวโน้มอนาคต

สวัสดีค่ะ นักลงทุนทุกท่าน วันนี้เราจะมาสรุป opportunity Day ของบริษัท IIG Group จํากัด มหาชน ประจําไตรมาส 1 ปี 2568 โดยได้รับเกียรติจากคุณ บุษบง พันสวัสดิ์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสายงานบัญชีและการเงิน

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

รายได้รวมครึ่งปีแรกปี 2568 อยู่ที่ 392 ล้านบาท โดย 74% เป็น Recurring Income เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกปี 2567 ที่มีรายได้ 527 ล้านบาท และมีสัดส่วน Recurring Income อยู่ที่ 73% พบว่ารายได้ลดลง 26% แต่หากถอดรายได้จากบริษัท Lancing ออกไป จะพบว่ารายได้รวมทั้งกลุ่มอยู่ที่ 330 ล้านบาท ลดลงเพียง 10% เมื่อเทียบกับ 377 ล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี 2567 รายได้ใน Q2 ปี 2568 อยู่ที่ 162 ล้านบาท โดยมีสัดส่วน Recurring Income 69% กำไรขั้นต้นครึ่งปีแรกปี 2568 อยู่ที่ 48 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 12% ลดลงจาก 52 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 10%) ในครึ่งปีแรกของปี 2567 ประมาณ 5 ล้านบาท หรือ 9% หากถอดตัวเลขจาก Lancing ออกไป อัตรากำไรขั้นต้นในครึ่งปีแรกปี 2568 จะอยู่ที่ 45 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 13.6% เพิ่มขึ้นจาก 28 ล้านบาท (อัตรากำไรขั้นต้น 7.5%) ในครึ่งปีแรกของปี 2567 กำไรขั้นต้นเฉพาะไตรมาสที่ 2 ปี 2568 อยู่ที่ 12 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 7.4% ขาดทุนสุทธิ (ไม่รวมรายการ One-Time) ในช่วงครึ่งปีแรกปี 2568 อยู่ที่ 69 ล้านบาท คิดเป็น Net Profit Margin -10% ลดลงจากขาดทุน 48 ล้านบาท (Net Profit Margin -9.2%) ในปี 2567 ถึงแม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิอาจจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วง Q1 แต่ใน Q2 ได้มีการปรับปรุงเรื่องของต้นทุนการทํางานโครงการต่างๆ ทำให้ภาพรวมทั้งครึ่งปี improve ขึ้น โดยเฉพาะตัว GP ที่ติดลบในปี 2567 กลายเป็นบวกในปี 2568

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

บริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตของรายได้จากธุรกิจ CRM และ ERP ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นรายได้หลักของกลุ่ม IIG โดยยังคง Backlog และ Maintain การเติบโตของรายได้ ถึงแม้ว่าใน 6 เดือนแรกรายได้จากธุรกิจ CRM และ ERP อาจจะ Drop ลงไปกว่าปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 20 กว่า% แต่คาดว่าจะสามารถ Recover รายได้กลับมาได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

ความเสี่ยงที่อาจมีรายได้เข้ามาไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในส่วนของ Non-Recurring Income ซึ่งบริษัทกำลังรอในส่วนของครึ่งปีหลังที่จะมีการเติบโตของรายได้ในส่วนนี้มากขึ้น

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

บริษัทได้มีการปรับปรุงเรื่องของต้นทุนการทํางานโครงการต่างๆ และพยายามขยายฐานลูกค้าไปสู่ภาคราชการมากขึ้น นอกจากนี้ยังคงให้ความสําคัญกับการบริหารงานที่ทําให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการหา รายได้เพิ่มในขณะที่ควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้ดีที่สุด

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

เป้าหมายหลักคือการ Turnaround ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ การขยายธุรกิจในแง่ของการ M&A ยังคงอยู่ใน Pipeline ที่ผู้บริหารพิจารณาอยู่ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังและดูเรื่องความเสี่ยงให้มากขึ้น ยังคงให้ความสําคัญกับการ Expand ตัว Revenue ไปสู่เทคโนโลยีใหม่ๆ และไม่พึ่งพิงแต่ระบบที่ทําให้ลูกค้าอยู่ อย่างเดียว อย่างเช่น AI หรือ IV ที่เป็นบริษัท Joint Venture GP ดีขึ้นในเรื่องของการบริหารงานที่ทําให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมาจากทั้งสองส่วนคือ หา รายได้เพิ่มในขณะที่ควบคุมต้นทุน

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่ม นาทีที่ 20:08**
  1. **แนวทางการฟื้นฟูรายได้ที่ลดลง:**
    • บริษัทมีการจัดอบรมสัมมนาเพื่อเป็นช่องทางในการเปิดโอกาสให้บริษัทได้เจอกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ๆ
    • ยังคงโฟกัสอยู่ในเทรนด์ธุรกิจที่คิดว่าสุดท้ายจะสามารถทํารายได้ได้ในอนาคต เช่น ESG โดยมีการส่งผู้บริหารไปร่วมสัมมนา
  2. **แนวทางการเปิดตลาดใหม่และ Solution ใหม่ๆ:**
    • ขยายกลุ่มลูกค้าไปสู่ภาครัฐบาล โดยปัจจุบันบริษัทลูกในเครือก็เริ่มมีการรับงานที่เป็นหน่วยงานราชการ
    • ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ลูกค้า เช่น หากลูกค้ามีการชะลอตัวในการลงทุน ก็จะมีการปรับเปลี่ยนแพ็กเกจเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ง่ายขึ้น
    • สื่อสารกับทางลูกค้าเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเพิ่มโอกาสในการได้ลูกค้าใหม่ๆ
  3. **แผนการควบคุมต้นทุนและลดค่าใช้จ่าย:**
    • ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการจ้างที่ปรึกษาในการหาแหล่งเงินทุนภายนอก
    • พยายามพิจารณาการใช้จ่ายมากขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 2
    • ค่าใช้จ่ายพนักงานที่ออกไปพบลูกค้าและพัฒนา Service ต่างๆ ก่อนหน้านี้อาจจะมีการกลับมาเรียนรู้เรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งตรงนี้จะถูกบันทึกอยู่ในต้นทุน
  4. **สถานะหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น (DE Ratio):**
    • โดยปกติสินเชื่อที่มาจากสถาบันการเงินจะเป็นตัวสัญญาใช้เงิน ซึ่งมีการทำสัญญากับธนาคารในประเทศหลายแห่ง
    • ในระหว่างไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ก็จะเข้าอยู่ในรอบการพิจารณาสินเชื่อประจำปี ซึ่งแต่ละธนาคารก็จะมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาการต่ออายุสินเชื่อ
    • สถาบันการเงินแห่งหนึ่งตัดสินใจที่จะไม่ต่ออายุตัวสัญญาใช้เงินให้ และมีการเรียกคืนตัวสัญญาที่กำลังจะหมดอายุ
    • ผู้บริหารได้นำส่งเอกสารทั้งหมดให้ทางธนาคารแล้ว และทางแบงค์ก็อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการชําระเงินก้อนนี้ได้ถึง 31 ตุลาคม
    • ตัวสัญญาใช้เงินทั้งหมดที่บริษัทมีเฉพาะ IIG คือ 180 ล้านบาท ตัววงเงินที่มีประเด็นจะต้องขยายระยะเวลา มีจํานวนเงินเพียง 25 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 10% ของทั้งหมด
    • ธนาคารพาณิชย์แห่งอื่นยังคงให้สามารถ Roll ตัวสัญญาใช้เงินได้ตามปกติ และคาดการณ์ว่าจะสามารถชําระหนี้ได้ภายใน 31 ตุลาคมที่จะถึงนี้
  5. **ผลกระทบจากการลดสัดส่วน Lancing:**
    • ในแง่ของตัวเลข Consolidated มากกว่า โดยรายได้ในปี 2568 จะมีส่วนตัวเลขของ Lancing เข้ามารวมถึงแค่ช่วง 2 เดือนแรกก่อนที่จะมีการอนุมัติลดสัดส่วน
    • ตัวเลขทุกบรรทัดในงบกําไรขาดทุนไม่ได้รวม Lancing แล้ว
    • อัตรากําไรขั้นต้นและ Net Profit Margin อาจจะไม่ได้มีเปอร์เซ็นต์สูงเท่ากับธุรกิจที่เป็นการ Implementation งาน Service CRM หรือ ERP อยู่แล้ว
  6. **แนวโน้มงบ Q3 ปี 2568:**
    • ไม่สามารถชี้แจงได้ แต่บริษัทอยากจะกลับมา Turnaround ให้ได้ภายในเร็วที่สุด
    • นักลงทุนสามารถติดตามข่าวสารได้จากช่องทางของบริษัท เช่น เว็บไซต์หรือ Facebook

โดยสรุปแล้ว บริษัท IIG Group กําลังเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นฟูรายได้และควบคุมค่าใช้จ่าย แต่ยังคงมีโอกาสในการเติบโตจากธุรกิจ CRM และ ERP รวมถึงการขยายฐานลูกค้าไปสู่ภาครัฐบาล บริษัทกําลังพยายามปรับตัวและบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ เพื่อให้สามารถกลับมา Turnaround ได้ในอนาคตอันใกล้

โพสต์ล่าสุด