บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SAV โชว์ผลงาน Q2/2568: สัญญาณบวกการเติบโต และเป้าหมายอนาคตที่น่าจับตา!
P/E 13.07 YIELD 7.43 ราคา 10.80 (0.00%)
SAV โชว์ผลงาน Q2/2568: สัญญาณบวกการเติบโต และเป้าหมายอนาคตที่น่าจับตา!
สวัสดีครับ ผมรัตนนันท์ วิไลลักษณ์ หรือโฟน นะครับ เป็น IR ของในเครือบริษัทสามารถนะครับ
ค่ะ สุชาลี อาสนสุวรรณค่ะ เป็น CFO ค่ะ
วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับธุรกิจของ SAV นะครับ บริษัท SAV นะครับ เป็นบริษัท Holding ที่ถือโดยบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น นะครับ ซึ่งสามารถเนี่ยถือผ่าน สามารถ ยู-เทรด นะครับ แล้วก็ สามารถ อินเตอร์ โฮลดิ้ง นะครับ รวมเป็นทั้งหมดเนี่ย 74.22% นะครับ ซึ่ง SAV เนี่ยถืออยู่ในตัว Cat นะครับ Cat เนี่ยย่อมาจาก Cambodia Air Traffic Service นะครับ ซึ่งเป็นบริษัทที่บริหารจัดการวิทยุการบินนะครับ แล้วก็มีสัมปทานที่ประเทศกัมพูชานะครับ ซึ่ง SAV เนี่ยถือในบริษัท Cat 100% นะครับ
บริษัท Cat เนี่ยทำอะไรบ้างนะครับ เราเป็น ANSP นะครับ หรือ So Navigate So Air Navigation Service นะครับ Provider ก็คือเป็นผู้ที่ให้บริการนะครับ Air Traffic Controller ให้กับสายการบินนะครับ แล้วก็สนามบินนะครับ ซึ่งเราดูแลนะครับ ให้ Area ทั้งหมดเลยของประเทศกัมพูชานะครับ แล้วก็เรามีสัญญาสัมปทานระยะยาวนะครับ จนถึงปี 2574 นะครับ โดยที่หลักๆ เนี่ยรายได้นะครับ จะมาจากการที่เราเก็บจากเครื่องบินนะครับ สายการบินเนี่ยเวลาที่เครื่องบิน บินขึ้นบินลงหรือบินผ่านนะครับ ซึ่งเราจะเก็บทั้งหมดเนี่ยเป็นเงินดอลลาร์นะครับ ซึ่งตรงนี้เองเนี่ยเราก็ เอ่อรายได้เนี่ย หลักๆ เนี่ยเราจะแบ่ง เอ่อเป็น 2 Range นะครับ ก็คือ Range ที่ 1 เนี่ยก็คือ Landing Take Off ก็คือเวลาเครื่องบินบินขึ้นบินลง ไม่ว่าจะเป็น Inter หรือ Domestic นะครับ อันนี้เราจะแบ่งให้กับรัฐบาลกัมพูชา 50% นะครับ ในส่วนที่เป็น Overflight นะครับ หรือบินผ่านนะครับ เราจะเก็บ 70% นะครับ รัฐบาลจะได้ 30% จนถึง 27 ล้านเหรียญแรกนะครับ หลังจากนั้นเนี่ยรัฐบาลจะได้ 40% เราจะเหลือ 60% นะครับ
อันนี้ก็เป็น History คร่าวๆ นะครับ ก็เราได้รับการต่อสัญญาสัมปทานเนี่ยเมื่อปี 2544 นะครับ แล้วก็ได้รับการต่อสัญญามาเรื่อยๆ นะครับ ซึ่งหนึ่งใน Clause ของการต่อสัญญาเนี่ยคือการลงทุนนะครับ ถ้ามีการลงทุนสนามบินใหม่หรือซื้ออุปกรณ์ใหม่เนี่ย เราก็มีสิทธิ์ที่จะขอต่อสัญญาได้นะครับ ซึ่งล่าสุดเนี่ยเราก็เพิ่งได้รับการต่อสัญญามาเมื่อปี 2565 นะครับ 10 ปีเนื่องจากการลงทุนในสนามบินเสียมราฐนะครับ แล้วก็ในส่วนของตัว เอ่อสนามบินเตโชนะครับ ที่แพลนว่าจะเปิดในปีนี้นะครับ และเราก็มีการ IPO ตัว SAV นะครับ เมื่อปี 2566 นะครับ ปลายปีที่แล้วเนี่ยมีการเปิดสนามบินชื่อดาราสาครนะครับ ก็จะเน้นในเชิงของ Domestic เป็นหลักนะครับ
อันนี้ก็จะเป็น Area ทั้งหมดนะครับ ก็จะมี 19 International นะครับ แล้วก็ 21 Domestic Route นะครับ ปีนี้นะครับ ก็จะมี 4 International Airport แล้วก็ 3 Domestic นะครับ วิธีการชาร์จนะครับ เราก็จะชาร์จเป็นดอลลาร์ทั้งหมดนะครับ โดยชาร์จ Based on Type ของเครื่องบินหรือน้ำหนักของเครื่องบินนะครับ ยิ่งเครื่องบินลำใหญ่เนี่ยก็จะชาร์จราคาแพงขึ้นนะครับ สำหรับ Landing Take Off เนี่ยก็จะ Start ที่ 850 เหรียญ นะครับ Overflight เนี่ยจะ Start ที่ 515 นะครับ แต่ว่า Overflight เนี่ยเราจะได้ 70% นะครับ แล้วก็ 60 นะครับ ส่วน 850 เนี่ยเราจะได้ 50% นะครับ Flight ที่บินผ่านนะครับ หรือบินเข้ากัมพูชาบ่อยๆ เนี่ยก็จะมีพวก A320 นะครับ ก็จะเป็น Type D Class D นะครับ แล้วเราก็จะมีพวก Search Charge นะครับ พวกวัน Holiday หรือ Overflight นะครับ เป็นต้น
ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ผลการดำเนินงานของ SAV ในไตรมาส 2 ปี 2568 มีทั้งด้านบวกและลบ:
จำนวนเที่ยวบินและรายได้: จำนวนเที่ยวบินอยู่ที่ 30,292 เที่ยวบิน ลดลงเล็กน้อย 1.7% จากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการลดลงของ Landing Take Off ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
Overflight ปรับตัวเพิ่มขึ้น: Overflight เพิ่มขึ้นจาก 21,417 เที่ยวบิน เป็น 22,000 เที่ยวบิน หรือ 3.2%
รายได้ลดลงเล็กน้อย: รายได้ลดลงจาก 499.2 ล้านบาท เป็น 476.2 ล้านบาท (4.6%) รายได้ในรูปสกุล USD ลดลงจาก 14.7 ล้านเหรียญ เป็น 14.4 ล้านเหรียญ (2%) ส่วนหนึ่งมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
การเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว: จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นจาก 24,678 เที่ยวบิน เป็น 30,292 เที่ยวบิน (22.7%) Overflight เพิ่มขึ้น 31% และ Landing Take Off ต่างประเทศเพิ่มขึ้น 11.5% รายได้เพิ่มขึ้นจาก 439.8 ล้านบาท เป็น 476.2 ล้านบาท รายได้ในรูปสกุล USD เพิ่มขึ้นจาก 12 ล้านเหรียญ เป็น 14.4 ล้านเหรียญ (20%)
รายได้แยกตามประเภทเที่ยวบิน: Overflight ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 43,599 เที่ยวบิน (60% ของทั้งปี) รายได้อยู่ที่ 657 ล้านบาท (57% ของปีที่แล้ว) Inter Landing Take Off มีรายได้ 309 ล้านบาท (54% ของปีที่แล้ว) Domestic Landing Take Off มีรายได้ 9 ล้านบาท (31% ของปีที่แล้ว) เนื่องจากให้บริการเครื่องบินขนาดเล็กมากกว่า
ภาพรวมรายไตรมาสในรูปสกุล USD: ไตรมาส 1 อยู่ที่ 14.7 ล้านเหรียญ (เพิ่มขึ้น 28% YoY) ไตรมาส 2 อยู่ที่ 14.4 ล้านเหรียญ (เพิ่มขึ้น 20% YoY) รายได้รวมครึ่งปีอยู่ที่ 29.1 ล้านเหรียญ (58% ของรายได้ USD ทั้งปีของปี 2567)
Total Revenue ของ SAV อยู่ที่ 977 ล้านบาท เกือบทั้งหมดมาจากรายได้จากการให้บริการ Gross Profit อยู่ที่ 498 ล้านบาท (Margin 51.1%) หากไม่รวมค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ Gross Profit Margin จะอยู่ที่ 52.5% Net Profit อยู่ที่ 272 ล้านบาท (Margin 27.8%) ROE อยู่ที่ 35.2% และ ROA อยู่ที่ 25.2% Debt to Equity อยู่ที่ 0.4 เท่า และไม่มีหนี้สินจากสถาบันการเงิน
Net Profit ในไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ 130 ล้านบาท หากไม่รวมค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินปันผลและค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ Net Profit จะอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาท
โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
บริษัทกำลังมองเห็นโอกาสทางธุรกิจหลายด้าน:
การเติบโตของ Overflight: การที่นักท่องเที่ยวจีนไปเที่ยวประเทศอื่นๆ มากขึ้น ทำให้ Overflight ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโต โดยเฉพาะเวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์
การเปิดสนามบินเตโช: สนามบินใหม่นี้จะรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น (13 ล้านคนในเฟสแรก) ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Traffic และรายได้ให้กับ SAV
Aviation Project: การเป็นตัวแทนของ Thales ในการซื้อขายอุปกรณ์วิทยุการบินในหลายประเทศ และโครงการ FOD (Foreign Object Debris) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีมูลค่ารวมกว่า 2,380 ล้านบาท
โครงการในลาว: แม้จะมีความล่าช้า แต่บริษัทยังคงรอการอัปเดตจาก Partner และคาดว่าจะมีความคืบหน้าภายในปลายไตรมาส 3 หากเป็นไปตามแผน โครงการนี้จะเริ่ม Operate ได้ภายใน 6 เดือนหลังเซ็น MOU
ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
บริษัทเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ:
สถานการณ์ในไทย-กัมพูชา: ความไม่แน่นอนทางการเมืองและการสู้รบในพื้นที่ชายแดน อาจส่งผลกระทบต่อ Overflight ในระยะสั้น
Seasonality: ธุรกิจการบินมีความผันผวนตามฤดูกาล ซึ่งอาจทำให้รายได้ในบางไตรมาสลดลง
การพึ่งพารายได้จาก Overflight: รายได้หลักของ SAV มาจาก Overflight ซึ่งอาจมีความเสี่ยงหากสถานการณ์การบินเปลี่ยนแปลง
วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
บริษัทมีแผนการรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ:
การ Diversify รายได้: การลงทุนในโครงการใหม่ๆ เช่น Aviation Project และโครงการในลาว จะช่วยลดการพึ่งพารายได้จาก Overflight
การปรับตัวตามสถานการณ์: การติดตามสถานการณ์ในไทย-กัมพูชาอย่างใกล้ชิด และปรับแผนการดำเนินงานให้เหมาะสม
การบริหารต้นทุน: การควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร
แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
แนวโน้มธุรกิจในอนาคต:
การเติบโตอย่างต่อเนื่อง: แม้จะมีความท้าทาย แต่ SAV ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะจากการขยายตัวของ Overflight และการเปิดสนามบินใหม่
การลงทุนในโครงการใหม่: การลงทุนใน Aviation Project และโครงการในลาว จะช่วยสร้างรายได้และผลกำไรในระยะยาว
การจ่ายปันผล: บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้น
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) : [00:47:07]
สรุปประเด็นคำถามและคำตอบ:
แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3 และปี 2568:
คาดว่าจะเติบโตกว่าปีที่แล้วเนื่องจากจำนวน Overflight และ Inter ดีขึ้น
ยังมองเป็นบวกว่าบริษัทจะมีแนวโน้มการเติบโตจากปีที่แล้ว กำไรคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% YoY
รายได้ Overflight หากเกินสัญญา:
ไม่มี Limit ว่า Limit ไว้ที่เท่าไหร่
27 ล้านเหรียญแรกจะรับ 70% พอเกิน 27 ล้านเหรียญไปปุ๊บ จุดหนึ่งเนี่ยจะต้องแบ่งรัฐบาลเพิ่มจาก 30% เป็น 40%
การเปิดสนามบินเตโช:
เท่าที่ทราบเบื้องต้นก็คือวันที่ 9 เดือน 9
การสลับปิดเปิดของสนามบินพนมเปญเตโชจะไม่มี overlap
Timeline การลงนามสัญญาของลาว:
แจ้งไปแล้ว อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดดีเทลเพิ่มเติม
ถ้าเปิดดู Tracking ไฟบินบนเว็บแพท Landing Take Off อยากรู้วิธีการดู ต้องแจ้งว่าจริงๆในเว็บ Cat เอาไว้ดูสำหรับ Internal
ตัวที่เป็น Inter หรือว่า Domestic อาจจะ Track ได้ไม่ 100% เพราะว่ามันจะมีไฟล์บินที่เป็นแบบ VIP หรือเป็นแบบพวก Cargo ที่อาจจะไม่ได้เสียเงินอะไรอย่างนี้ด้วย แต่ว่าตัว Overflight เนี่ยก็ค่อนข้างที่จะ Accurate
กรณีมีการยกเลิกสัมปทาน:
สามารถใช้การอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศได้ แต่ถามว่ามีโอกาสที่จะโดนยกเลิกสัมปทานไหม ผมคิดว่าก็ความเสี่ยงก็ค่อนข้างต่ำ
ทางฮุนเซนเองก็ออกมาพูดเหมือนกัน ว่าตรงนี้เนี่ยเราก็อยากที่จะเหมือนกับเก็บคนที่มาลงทุนเอาไว้
ระยะเวลาในการปรับราคาค่าบริการกับสายการบิน:
ตอนนี้พยายามที่จะโลว์คีย์มากๆ เพราะคือเราไม่อยากมีปัญหาอะไรใดๆ เราก็พยายามที่จะตอนนี้ยังไม่อยากที่จะสร้างปัญหาด้วยการไปพูดคุยเพื่อขอปรับขึ้นราคา กับสายการบินเท่าไหร่ เราอาจจะรอในช่วงเวลาที่เหมาะสมเดิมเนี่ยเราก็มีแพลนที่จะปรับขึ้นราคาประมาณ 5-7% แต่ว่าก็ยังไม่ได้ปรับถ้าสงครามจบลงแล้วก็ผมว่าดูตามความเหมาะสมอะครับดูสถานการณ์ดูรัฐบาลดูความเหมาะสมในการปรับ
เราก็อยากที่จะปรับขึ้นอยู่แล้วเพียงแต่ว่าเราก็ไม่อยากเสี่ยงว่าถ้าไปคุยแล้วมันจะมีปัญหาในอนาคตอะไรอย่างเงี้ยครับเป็นต้น
อนาคตการทำธุรกิจในกัมพูชายังเติบโตได้ในระยะยาวหรือไม่:
เรามีสัญญาระยะยาวถึงปี 2574 เหลืออีก 26 ปี
การที่กัมพูชาเองเปิดสนามบินเตโชซึ่งรองรับผู้โดยสารได้ 13 ล้านคนเป็นการพยายามที่จะเร่งในเรื่องของการท่องเที่ยวเพื่อให้รองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น
Overflight จะไม่ได้ขึ้นกับกัมพูชาแต่จะขึ้นกับประเทศอื่นๆที่อยู่ข้างๆ อย่างประเทศไทยเองเวียดนามเองหรือจีนเอง ซึ่งอย่างเวียดนามเองเนี่ยก็ปีหน้าก็มีแพลนที่จะเปิดตัวของสนามบินใหม่ที่โฮจิมินห์เหมือนกัน
แนวโน้มการเซ็น MOU มีโอกาสตอบรับมากแค่ไหน:
ตอนนี้ก็ยังรอ Feedback รอดูอัปเดตจากทางพาร์ทเนอร์ที่ประเทศลาว ก็ถ้ามีความคืบหน้ายังไงเดี๋ยวจะมารายงานผลให้ฟังอีกทีในช่วงไตรมาสที่ 3
สัญญาณระยะยาวที่บริษัทมีกับกัมพูชาจะการันตีได้หรือไม่ว่า จะไม่มีการยกเลิกสัญญา:
ธุรกิจของแคทเป็นอะไรที่แตกต่างจากธุรกิจที่เป็น Consumer Product ในในประเทศกัมพูชามันแตกต่างกัน เพราะว่าพอเป็น Consumer Product แล้วเนี่ยโอกาสที่คนจะแบนสินค้าเนี่ยมันมีสูง แต่ว่าบริษัทแคทเนี่ยด้วยด้วยพนักงานเองเนี่ยก็เป็นคนกัมพูชา 99% คนไทยเนี่ยมีอยู่ประมาณ 14 คนเท่านั้นเอง
การมองในเชิงของการโดนยกเลิกสัมปทานเนี่ยผมว่าก็ต้องมองกลับกันด้วยเหมือนกันว่าถ้ารัฐบาลเอาไปบริหารเองเนี่ยมันก็มีความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น
ภาพรวม SAV ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะจาก Overflight และโครงการใหม่ๆ บริษัทมีแผนการรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ และมุ่งเน้นการสร้างรายได้จากหลากหลายแหล่ง เพื่อให้ธุรกิจมีความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว