บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

FSSIA มองข้ามจุดต่ำสุดใน Q2/2568 อัพเกรด HANA เป็น "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 26.50 บาท คาดโครงการ AI ดันรายได้โตแรงในปี 2569

ไฮไลท์สำคัญ: AI project is coming

FSS International Investment Advisory Securities (FSSIA) ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับหุ้น HANA จาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" พร้อมทั้งเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2569 ขึ้นเป็น 26.50 บาท จากเดิม 22.00 บาท มองว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/2568 ไปแล้ว และคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งหลังของปี

คาดการณ์รายได้ฟื้นตัว: Order expected to gradually recover in 2H25

FSSIA คาดการณ์ว่ารายได้ของ HANA จะค่อยๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของคำสั่งซื้อจากโรงงานในสหรัฐฯ กัมพูชา และอยุธยา ในขณะที่คำสั่งซื้อจากจีนยังคงซบเซาเนื่องจากผลกระทบจากภาษีของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม HANA ได้ปรับลดจำนวนพนักงานในโรงงานที่จีนแล้ว และเริ่มเห็นการฟื้นตัวของคำสั่งซื้อในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ยกเว้นกลุ่มยานยนต์

โครงการ AI หนุนการเติบโต: AI project revenue should start in 4Q25

จุดเด่นสำคัญคือการที่ HANA ได้รับคำสั่งซื้อโครงการ AI จากลูกค้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับงานประกอบชิ้นส่วนในอุปกรณ์ระบายความร้อนแบบ Solid-State โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/2568 และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2569 แม้ว่าบริษัทจะยังไม่ได้เปิดเผยเป้าหมายรายได้ แต่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะใกล้เคียงหรือดีกว่าธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับ AI นอกจากนี้ FSSIA ยังมองว่าแนวโน้มการเติบโตของ AI จะเป็นปัจจัยหนุนรายได้ในปี 2569 ให้เติบโตเกินความคาดหมาย

ผลกระทบจากภาษีจำกัด: Limited impacts from 100% semiconductor tariff

แม้ว่า HANA จะมีรายได้ 26% จากสหรัฐฯ แต่มีเพียง 4.5% ที่มาจากการส่งออก OSAT และ 13% หากรวม EMS ดังนั้นผลกระทบโดยตรงจากมาตรการภาษีเซมิคอนดักเตอร์ 100% ของสหรัฐฯ จึงค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตาม FSSIA ยังคงติดตามสถานการณ์การบริโภคในสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

สรุป: Upgraded to BUY with 2026 TP at THB26.5

FSSIA คาดว่ากำไรในไตรมาส 3-4/2568 จะฟื้นตัวจากไตรมาส 2/2568 เนื่องจากคำสั่งซื้อที่ฟื้นตัว และไม่มีการตั้งสำรองสินค้าคงเหลือ PMS ที่มีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ราคาสินค้า SiC ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และกำลังขยายตัวไปนอกเหนือจาก EV FSSIA ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลง 28% เหลือ 949 ล้านบาท แต่คาดว่ากำไรปี 2569 จะเติบโต 37% YoY เป็น 1.29 พันล้านบาท โดยได้ปรับราคาเป้าหมายไปเป็นปี 2569 ที่ 26.50 บาท (ปรับ PE ขึ้นจาก 15x เป็น 18x เพื่อสะท้อนว่ากำไรได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว) และปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ"