บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

Indorama Ventures (IVL) รายงานผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 2/68 ที่ 512 ล้านบาท แม้ว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า หากไม่รวมรายการพิเศษ ผลขาดทุนหลักจะอยู่ที่ 383 ล้านบาท ซึ่งพลิกกลับจากกำไรหลักในไตรมาส 2/67 แต่ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า

ผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

ผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดมีสาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และขาดทุนพิเศษที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ IVL ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับครึ่งแรกของปี 2568 ที่ 0.175 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 0.8% (ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 ส.ค. และจ่ายปันผลวันที่ 11 ก.ย.) ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานหลักอ่อนตัวลง YoY ได้แก่ กำไรจากธุรกิจ Combined PET, Intermediates Chemicals และ Integrated Downstream Surfactants ที่ลดลง ในขณะที่ปัจจัยที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น QoQ ได้แก่ กำไรจากธุรกิจ Combined PET, Intermediates Chemicals และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น โดยสรุปปริมาณขายของ IVL ในไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 3.33 ล้านตัน (ลดลง 8% YoY แต่เพิ่มขึ้น 3% QoQ) และ Core EBITDA/ตัน เฉลี่ยอยู่ที่ 98 เหรียญสหรัฐ (ลดลง 4% YoY แต่เพิ่มขึ้น 17% QoQ)

แนวโน้มและการเปลี่ยนแปลง

บล.บัวหลวง (BLS) คาดการณ์ว่ากำไรหลักจะฟื้นตัว QoQ ในไตรมาส 3/68 โดยได้แรงหนุนจากกำไรจากธุรกิจ Integrated Downstream Surfactants ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในแง่ของ YoY กำไรหลักมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากกำไรที่ลดลง YoY จากธุรกิจ Combined PET และ Intermediate Chemicals (Integrated Oxide) หลังจากนำผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2568 มาคำนวณในประมาณการแล้ว BLS ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลง 70% เหลือ 1,725 ล้านบาท (ฟื้นตัว YoY) ดังนั้นจึงปรับลดราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2568 ลงเล็กน้อยจาก 24 บาทมาอยู่ที่ 23.90 บาท อิงจาก PBV ที่ 1.0 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของ IVL ที่ 1.7 เท่าอยู่ 0.8 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)

คำแนะนำและข้อสังเกต

BLS มองว่าผลประกอบการไตรมาส 2/68 ที่น่าผิดหวังอาจกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น แต่จะเป็นโอกาสซื้อสะสมหุ้น IVL จากคาดการณ์การเติบโต QoQ ของกำไรหลักในไตรมาส 3/68 นอกจากนี้ ความขัดแย้งทางการค้าที่คลี่คลายลง น่าจะหนุนราคาหุ้นที่เชื่อมโยงกับสินค้าโภคภัณฑ์ให้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง มูลค่าปัจจุบันของ IVL อยู่ในระดับที่ไม่แพง โดยซื้อขายที่ PBV ปี 2568 ที่ 0.9 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) อย่างไรก็ตาม อาจมีดาวน์ไซด์ต่อประมาณการกำไรปี 2568 หากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง อุปสงค์ปิโตรเคมีปรับตัวลดลงส่งผลให้ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีลดลง ในทางตรงกันข้ามหากความขัดแย้งทางการค้าคลี่คลายลงในเร็วๆ นี้ อาจมีอัพไซด์ต่ออุปสงค์ปิโตรเคมีดังนั้นส่วนต่างราคาปิโตรเคมีมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ อาจเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการของ BLS