STANLY กำไร Q3/68 ร่วง 30% YoY โบรกฯ INVX มอง UNDERPERFORM

P/E 8.19 YIELD 6.45 ราคา 186.00 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: กำไรสุทธิ STANLY อ่อนแอกว่าที่คาด

บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) รายงานกำไรสุทธิ Q3/68 (ต.ค.-ธ.ค. 2567) ที่ 310 ล้านบาท ลดลง 30% YoY และ 5% QoQ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยถูกฉุดรั้งจากยอดขายที่ชะลอตัวและ EBIT margin ที่ลดลง InnovestX (INVX) ยังคงมีมุมมองระมัดระวังต่อกลุ่มยานยนต์ และแนะนำ "UNDERPERFORM" สำหรับ STANLY ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 190 บาท/หุ้น

รายละเอียดผลประกอบการและปัจจัยกระทบ

ยอดขายใน Q3/68 อยู่ที่ 2.9 พันล้านบาท ลดลง 18% YoY และ 9% QoQ จากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่อ่อนแอ โดยยอดผลิตรถยนต์ในประเทศไทยลดลง 25% YoY ในเดือน ต.ค. และ 17% YoY ในเดือน พ.ย. STANLY อยู่ในช่วงควบรวมกิจการโรงงานเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น แต่อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายก็จะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน EBIT margin อยู่ที่ 13% ใน Q3/68 ลดลงจาก 15.1% ใน Q3/67 เนื่องจากยอดขายอ่อนแอ แต่เพิ่มขึ้นจาก 11.5% ใน Q2/68 ซึ่งเกิดจากการขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

INVX ยังคงมุมมองระมัดระวังต่อกลุ่มยานยนต์ เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนในระยะเวลาอันใกล้ จึงแนะนำ "UNDERPERFORM" สำหรับ STANLY ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 190 บาท/หุ้น (ลดลงเล็กน้อยจาก 192 บาท/หุ้น) โดยอิงกับ P/E ที่ 9.2 เท่า (ลดลงจาก 9.5 เท่า) หรือ -0.5SD ของ PE เฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2563 ปัจจัยกระตุ้นของกลุ่มยานยนต์ คือ ภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการซื้อรถยนต์ในประเทศและเพิ่มคุณภาพสินเชื่อของผู้ซื้อรถยนต์

ความเสี่ยง: ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์ และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น INVX มองว่าความเสี่ยง ESG ที่สำคัญ คือ ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม (E) และ STANLY มุ่งมั่นที่จะลดความเสี่ยงนี้ลง

โพสต์ล่าสุด