บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ: กำไรโตกระโดด

บมจ. ซีเค พาวเวอร์ (CKP) โชว์ผลงานไตรมาส 2 ปี 2568 สุดปัง! กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (Core Net Profit) พุ่งขึ้นถึง 137.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็น 353.0 ล้านบาท ปัจจัยหนุนหลักมาจากรายได้ขายไฟฟ้าของ BIC ที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจาก XPCL และ LPCL ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

รายได้และกำไร: อะไรเพิ่ม อะไรลด?

ในไตรมาส 2 ปี 2568 CKP มีรายได้รวม 2,663.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยรายได้จากการขายไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มขึ้น 2.2% อย่างไรก็ตาม ในงวด 6 เดือนแรกของปี รายได้จากการขายไฟฟ้าและไอน้ำลดลง 0.4% เนื่องจากผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและราคาพลังงานที่ผันผวน

NN2: รายได้ลดลงจากค่าเงินบาทแข็งค่า แม้ปริมาณขายไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น BIC: รายได้เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 จากปริมาณขายไฟฟ้าที่มากขึ้น แต่รายได้รวม 6 เดือนลดลงจากราคาก๊าซฯ และค่า Ft ที่ลดลง BKC: รายได้ลดลงเพราะค่า Ft ขายส่งเฉลี่ยต่ำกว่าปีก่อน

ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม (XPCL และ LPCL) เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดย XPCL ได้อานิสงส์จากปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้ามากขึ้น และต้นทุนทางการเงินลดลง ขณะที่ LPCL กำไรเพิ่มขึ้นจากหนี้สินสกุลดอลลาร์สหรัฐที่ลดลงเมื่อแปลงเป็นเงินบาท

การลงทุนและหนี้สิน: ขยายตัวอย่างไร?

CKP ยังคงเดินหน้าลงทุนในโครงการขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยโครงการหลวงพระบางคืบหน้าไปแล้ว 53% และคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงต้นปี 2573

เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทได้ออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Debentures) มูลค่า 5,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ส่งผลให้หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 9.5% จากสิ้นปี 2567 แต่อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ที่ 0.87 เท่า

สรุป: อนาคต CKP เป็นอย่างไร?

โดยรวมแล้ว CKP มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยได้แรงหนุนจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการเติบโตของบริษัทร่วม อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากความผันผวนของราคาพลังงานและอัตราแลกเปลี่ยน การลงทุนในโครงการใหม่ๆ และการออกหุ้นกู้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวของ CKP ต่อไป