บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
EPG กำไรแผ่ว! FSSIA หั่นเป้าเหลือ 5.30 บาท มอง ECL และ SG&A ยังฉุดรั้ง
P/E 10.62 YIELD 8.27 ราคา 2.66 (4.72%)
ประเด็นสำคัญ: FSSIA ปรับลดประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย EPG
FSSIA (Finansia Syrus Securities) ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี FY25 และ FY26 ของ EPG (Eastern Polymer Group) ลง 24% และ 5% ตามลำดับ เนื่องจากผลกระทบต่อเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่สูงของ TJM (ธุรกิจยานยนต์ในแอฟริกาใต้) แม้ธุรกิจ Aeroflex จะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก แต่ FSSIA ได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 5.30 บาท แต่ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากราคาปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับช่วง Covid-19
รายละเอียดการวิเคราะห์และเหตุผล
FSSIA คาดการณ์ว่า EPG จะรายงานกำไรสุทธิ 234.2 ล้านบาทใน 3QFY25 (ตุลาคม-ธันวาคม 2024) ฟื้นตัว 79.8% q-q จากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งได้รับผลกระทบจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและ ECL อย่างไรก็ตาม ระดับกำไรสุทธิเพียง 200 ล้านบาทต่อไตรมาสยังไม่ถือว่าแข็งแกร่งนัก โดยในไตรมาสนี้ บริษัทยังคงได้รับผลกระทบจาก ECL ประมาณ 50 ล้านบาท นอกจากนี้ TJM ยังคงมีภาระค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงซึ่งยังไม่สามารถลดลงได้
ธุรกิจ Aeroflex ยังคงทำผลงานได้ดีและเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของ EPG โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งในตลาดสหรัฐฯและญี่ปุ่น รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ สำหรับธุรกิจ Aeroklas คาดว่ารายได้และอัตรากำไรขั้นต้นจะยังคงทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า ขอบคุณการเข้าซื้อร้านค้าปลีก TJM ตั้งแต่ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายที่สูงของ TJM ยังคงกดดันความสามารถในการทำกำไร สำหรับธุรกิจ EPP ยังคงเป็นส่วนที่ท้าทายที่สุดเนื่องจากการแข่งขันที่ดำเนินอยู่
FSSIA ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี FY25 ลง 22.2% y-y ก่อนที่จะฟื้นตัว 61.8% y-y ในปี FY26 สำหรับกำไรหลัก FSSIA คาดว่าจะลดลง 8.4% y-y ในปี FY25 ตามด้วยการเติบโต 13.4% y-y ในปี FY26
คำแนะนำและราคาเป้าหมาย
FSSIA ปรับลดราคาเป้าหมาย EPG ลงเป็น 5.30 บาท อิงจาก 9.5x FY25E EV/EBITDA (-0.5SD ของค่าเฉลี่ยห้าปี) ลดลงจาก 10x FY25E EV/EBITDA อย่างไรก็ตาม ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจาก EV/EBITDA ปัจจุบันอยู่ที่ -2SD ของค่าเฉลี่ยห้าปี เทียบได้กับระดับที่เห็นในช่วง Covid-19 แม้ว่ากำไรหลักที่คาดการณ์ไว้จะสูงกว่าประมาณ 30%
ปัจจัยเสี่ยง: ความต้องการรถกระบะและบรรจุภัณฑ์พลาสติกลดลง, ต้นทุนวัตถุดิบที่เชื่อมโยงกับน้ำมันเพิ่มขึ้น, ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน