PRM ปี 2568 เรือใหม่หนุนการเติบโต โบรกเกอร์ฟันธง "ซื้อ" ชี้เป้า 10 บาท

P/E 6.23 YIELD 8.12 ราคา 6.20 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: โบรกเกอร์มอง PRM ปี 2568 โตต่อเนื่อง

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้น PRM โดยคาดการณ์ว่ากำไรปกติในไตรมาส 4 ปี 2567 จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากมีการนำเรือเข้าซ่อมบำรุงเร็วกว่าแผน แต่ยังคงเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมองว่าปี 2568 จะได้รับปัจจัยบวกจากการรับเรือใหม่เข้ามาเสริมทัพ รวมถึงสัญญาเช่าระยะยาวกับลูกค้าที่สร้างรายได้ประจำอย่างสม่ำเสมอ ทำให้คงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 10 บาท

รายละเอียดการวิเคราะห์และปัจจัยหนุน

บล.ฟิลลิป ระบุว่า แม้ในไตรมาส 4 ปี 2567 PRM จะมีกำไรปกติลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากมีเรือขนาดใหญ่เข้าอู่ซ่อมบำรุงนอกแผน แต่บริษัทก็ยังมีปัจจัยบวกจากเรือใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพ โดยเฉพาะเรือ Crew Boat 2 ลำที่เริ่มทำงานเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2567, เรือ FSO (Floating Storage and Offloading Unit) ที่เริ่มงาน 25 ธันวาคม 2567 และการรวมงบของ วี.ซี.ชิปปิ้งฯ ที่เริ่มเข้าถือหุ้นในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับผลดีจากช่วง High Season ของธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมีภัณฑ์ และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 สำหรับปี 2568 บล.ฟิลลิป คาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีเรือบางส่วนเข้าอู่ซ่อมบำรุง แต่ก็มีเรือใหม่เข้ามาทดแทน และมีอัตราการใช้งาน (Utilization Rate) ที่สูงขึ้น อีกทั้งยังมีการทำสัญญาเช่าระยะยาวกับลูกค้าถึง 70% ของรายได้ ซึ่งเป็นรายได้ประจำ (Recurring Income) ที่มั่นคง

นอกจากนี้ PRM ยังมีแผนการขยายธุรกิจในอนาคต เช่น การต่อเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมีภัณฑ์ใหม่อีก 6 ลำ เพื่อทดแทนเรือเก่าที่เตรียมปลดระวาง และมีโอกาสในการได้โครงการใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น โครงการ Aframax ที่ปรับปรุงเป็นเรือ FSO, โครงการสำรวจและผลิต (E&P) ในอ่าวไทย, และโครงการกับ ADNOC ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของอาบูดาบี รวมถึงธุรกิจ Offshore Wind Farms ที่กำลังเติบโต

สรุปและคำแนะนำ

บล.ฟิลลิป ประเมินมูลค่าหุ้น PRM โดยอิงจาก P/E ปี 2568 ที่ 10 เท่า ได้ราคาพื้นฐานที่ 10 บาท และยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากมองว่าบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากเรือใหม่และโครงการต่าง ๆ ที่จะเข้ามา อีกทั้งยังมีรายได้ประจำที่มั่นคง และมีนโยบายการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2567 ที่ 2,147 ล้านบาท และปี 2568 ที่ 2,338 ล้านบาท พร้อมทั้งมีนโยบายจ่ายเงินปันผลที่ 0.43 บาทต่อหุ้น

นักวิเคราะห์: สยาม ติยานนท์ (เลขทะเบียน #17970)

โพสต์ล่าสุด