บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

MPJ Logistics เปิดกลยุทธ์ปี 2568: ขยายฐานธุรกิจ, ลงทุนต่อเนื่อง, มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

MPJ Logistics เปิดกลยุทธ์ปี 2568: ขยายฐานธุรกิจ, ลงทุนต่อเนื่อง, มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ MPJ Logistics ในไตรมาสแรกของปี 2568 พบว่าบริษัทสามารถสร้างรายได้รวม 269 ล้านบาท เติบโตขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีกำไรก่อนภาษีและดอกเบี้ย 45 ล้านบาท ซึ่งเติบโตถึง 63.9% และมีกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท เติบโตขึ้น 125.3% ค่า DE ratio อยู่ที่ 0.02 เท่า

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ:
• การเติบโตของรายได้มาจากทุกกลุ่มธุรกิจ (Business Unit: BU)
• ธุรกิจขนส่งทางบกโตขึ้น 10.3% (รายได้ 127 ล้านบาท)
• ลานตู้คอนเทนเนอร์โตขึ้น 14.7% (รายได้ 88 ล้านบาท)
• Freight Forwarder โตขึ้น 60.8% (รายได้ 47 ล้านบาท)
• คลังสินค้าให้เช่าโตขึ้น 313.5% (รายได้ 8 ล้านบาท)

MPJ Logistics มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจจากการที่ BOI มีการอนุมัติการลงทุนสูงถึง 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจนำเข้าส่งออกของบริษัท โอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่

1. การขยายลานตู้คอนเทนเนอร์ที่แหลมฉบังเพิ่มอีก 1 แห่ง พื้นที่ 30,000 ตารางเมตร คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ใน Q3
2. การร่วมทุนกับ OOCL ในการทำลานตู้คอนเทนเนอร์ที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายใน Q4
3. การขยายคลังสินค้าให้เช่าที่ระยองเพิ่มอีก 1 หลัง พื้นที่ 18,000 ตารางเมตร

ความเสี่ยงที่ MPJ Logistics กำลังเผชิญอยู่ ได้แก่

1. ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ Freight Forwarder
2. การแข่งขันที่สูงในตลาด Freight Forwarder
3. ผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าส่งออกของสหรัฐฯ (Trump)

MPJ Logistics มีแผนการรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ดังนี้

1. การใช้บัญชี FCD เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
2. การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และรับมือกับสถานการณ์การแข่งขันในตลาด Freight Forwarder
3. การขยายธุรกิจไปยัง BU อื่นๆ ที่มีผลกระทบน้อยกว่าจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ เช่น Domestic Delivery และ Service Warehouse

แนวโน้มของ MPJ Logistics ในอนาคตยังคงเติบโต โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ 22% ในปี 2568 บริษัทมีแผนการลงทุน 554 ล้านบาท โดยจะใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะควบคุมให้ DE ratio ต่ำกว่า 0.6 เท่า แผนการลงทุนประกอบด้วย

• การลงทุนในรถชุดใหม่ 40 ล้านบาท
• การลงทุนในลานตู้คอนเทนเนอร์ 194 ล้านบาท
• การลงทุนในคลังสินค้า 320 ล้านบาท

MPJ Logistics ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนอย่างต่อเนื่องและควบคุมวินัยทางการเงิน เพื่อให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืน

• **ทิศทางและแผนการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 2 และครึ่งปีหลัง**

  มีการขยายฐานลูกค้าใหม่ และ สนับสนุนวอลุ่มงานของลูกค้าเดิม ซึ่งเทรนด์ในเดือนเมษายนและพฤษภาคมยังเติบโตขึ้นต่อเนื่อง และ ยังมีแผนการขยายลานตู้คอนเทนเนอร์ที่แหลมฉบังและลาดกระบัง รวมถึงขยายคลังสินค้าด้วย

• **ผลกระทบเกี่ยวกับภาษีของทรัมป์**

  ผลกระทบมีไม่มาก เพราะ ลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 90% อยู่ในเอเชีย ถึงอย่างไรก็ตาม มีการมอนิเตอร์เรื่องนี้ และ มีกลยุทธ์รองรับแล้ว

• **ปัจจัยความเสี่ยงที่อาจกระทบกับสถานะการเงินของบริษัท**

  ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งมีการเปิดบัญชี FCD เพื่อรองรับเรื่องนี้แล้ว

• **คดีความทุนฟ้อง**

  เป็นการเรียกค่าเสียหายตามฐานที่ทางผู้เสียหายได้มีการเรียกค่าเสียหายมา ซึ่งอยู่ในส่วนของการพิจารณาคดี

• **ความคืบหน้าของการขยายธุรกิจที่เคยกล่าวถึงตอนเข้าตลาด**

  ยังเป็นไปตามแผนที่ได้แจ้งไว้กับตลาดหลักทรัพย์

• **หุ้น MPJ น่าซื้อไหม**

  ถ้าเทียบปันผลของราคาวันนี้ก่อนขึ้น XD มองว่าน่าจะ 9-10% ซึ่งตัว PE ปัจจุบันอยู่ที่ 5 เท่า และ แผนการลงทุนที่วางไว้ถึงปี 2570 จะทำให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

• **แผนการตลาดหรือกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโต เช่น E-commerce หรือกลุ่มธุรกิจสีเขียว**

  มีการขยาย Green Logistics โดยขยาย Freet ที่ใช้รถ EV เพิ่ม และทำเรื่องคาร์บอนเครดิต , ขยายคลังสินค้า fulfillment ให้กลุ่ม e-commerce และ มีการขยาย ฐานลูกค้าทั้ง freight forwarder และ cross border

• **รายละเอียดคดีทำไมทุนฟ้องถึงสูงผิดปกติ**

  เป็นการเรียกร้องตามความต้องการของผู้เสียหายที่ต้องการให้ชดเชยความเสียหาย และคดีความอยู่ในขั้นตอนพิจารณาในส่วนของคดีอาญา

• **ปัจจุบันราคารถมือสองตกต่ำ รถเก่าที่บริษัทปลดระวางเวลาขายซากรถเก่ามีผลขาดทุนหรือไม่ อย่างไร**

  มีการกำหนดนโยบายของมูลค่าซากที่อิงกับราคาตลาด ทำให้การจำหน่ายรถชุดเก่า ไม่ขาดทุน

• **รถ EV มีความแตกต่างเรื่องของการประหยัดกว่ารถน้ำมันมากน้อยเพียงใด และมีปัญหาเรื่องของการเสียเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่หรือไม่**

  อัตราการกินไฟถูกกว่า แต่ต้นทุนรถสูงกว่า และมีแผนทำสถานีชาร์จเพื่อขายไฟคืน

  การชาร์จ 45 นาที ถึง 1.30 ชม. วิ่งได้ 200 กิโลเมตร และ ได้ทำแผนเผื่อเวลาในการชาร์จแล้ว

• **ภาษีของทรัมป์ จะมีผลต่อการขยายธุรกิจหรือไม่**

  จะนำจุดแข็งของบริษัทในการหาลูกค้าใหม่ๆ และ operation ใหม่ๆ มาทดแทน

โดยรวมแล้ว MPJ Logistics มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและมีแผนการเติบโตที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงต่างๆ ที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่ด้วย