RCL มองอนาคตเศรษฐกิจโลกผันผวน ชูจุดแข็ง ปรับตัวเร็ว พร้อมรับมือทุกสถานการณ์

P/E 2.29 YIELD 9.35 ราคา 26.75 (0.00%)

RCL มองอนาคตเศรษฐกิจโลกผันผวน ชูจุดแข็ง ปรับตัวเร็ว พร้อมรับมือทุกสถานการณ์

สวัสดีครับ ผมทวินโชค กันทวนิช เป็นผู้จัดการ และสวัสดีค่ะ นัทฤดี รุ่งเรืองผล เป็น CFO ค่ะ สวัสดีค่ะ สุพร อำนวยพันธุ์ นักลงทุนสัมพันธ์ค่ะ รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสได้มาแชร์ แล้วก็แลกเปลี่ยนข้อมูลให้กับนักลงทุนทุกท่านที่มาชมในวันนี้ ก็จะทำให้ตัวสไลด์กระชับ จะได้มีเวลาตอบคำถามที่ผู้ที่สนใจ นักลงทุนทุกคนมี ให้ได้มากที่สุด

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

ครั้งนี้จะพูดถึงสิ่งที่เราได้ทำมาเมื่อ ไตรมาสที่ผ่านมา สไลด์นี้จะพูดถึงเรื่อง เปลี่ยนตามธุรกิจ มีไฮไลท์อะไรบ้าง ก็ผลประกอบการหน้าตาประมาณไหน คิดว่าหลายท่านคงได้เห็นแล้ว แล้วก็มองเรามองตลาดข้างหน้าเป็นยังไงนะครับ แล้วเราจะมีแผนกันในการทำยังไงบ้าง แล้วก็จบด้วยพูดถึงเรื่อง sustainability เล็กๆน้อยๆ

  • ตอนน้ีมีเรือที่วิ่งอยู่ภายในการบริหาร 53 ลำ เรือตัวเองและเช่าอิน รวมๆกันแล้ว
  • มี service ที่วิ่งอยู่ประมาณ 59 รูท
  • เริ่ม service ที่วิ่งจากเมืองจีนไปที่เม็กซิโก เตรียมพร้อมที่เราจะขยาย Network ไปในทางเขตโซนละตินอเมริกา ในโซนอเมริกามากขึ้น
  • ไม่มีแผนที่จะไปอเมริกาในตอนนี้

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

  • ปรับเปลี่ยน service ของเราจากอินเดียไปเวียดนาม
  • เปลี่ยน rotation เพิ่มขนาด
  • จากที่เมื่อก่อนเป็นแค่แถวสิงคโปร์ มาเลย์ ไปกัลกัตตาแล้วก็มีวิ่งถึงเล็กเวียดนามโดยตรง
  • เพิ่มจำนวนเฟรดของตู้เย็น 36% (เริ่มจากพื้นฐานที่ต่ำ ตอนนี้มี 3,000 ตู้)
  • แสดงให้เห็นว่าเราได้มีการพัฒนาการให้บริการที่หลากหลายต่อเนื่อง
  • เพิ่มจำนวนตู้สินค้าพิเศษ 10 ยูนิต ตอนนี้มี 300 กว่ายูนิตแล้ว

ขยายการทำธุรกิจทางด้านตู้เย็น และตู้สินค้าพิเศษมากขึ้น และก็ทำตามที่เราพูดอย่างสม่ำเสมอ พยายามเติบโตเท่าที่ความสามารถจะทำได้ ก็จะมีการขยายตรงนี้ไปเป็นลำดับ

  • Q1 ปี 2568 เพิ่มจำนวนตู้ประมาณ 4%
  • Q2 ก็ยังเพิ่มจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ของเรามากขึ้นอีก 1%
  • สีแดงที่เป็นตู้เย็น ก็อ้วนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นไปตามทิศทางของเราที่ตั้งเอาไว้
  • ตะวันออกกลาง และอินเดียของเราสัดส่วนนี้ก็มีมากขึ้น

เป็นเพราะเราได้รับเรือใหม่ เรือ 7,000 และเรือ 12,000 ที่เป็นเรือไซส์ใหญ่แล้วก็ไปวิ่งที่นู่น ก็เลยทำให้ไอตัว พื้นที่ ที่เรามีก็ให้ถึงมากขึ้น

  • ละตินอเมริกา-South อเมริกา (เส้นทางใหม่)
  • Financial Status รายได้ของเราลดลง 7% เนื่องจากค่าเฟรดที่มันลดลง

เมื่อเทียบกับ 3 เดือนแรก ปีที่แล้วกับ 3 เดือนนี้ ก็เห็นได้ว่ามันเกิด ขึ้น ทุกอย่างก็เป็นไปตามที่เราได้แชร์ให้ กับ ในๆ public information หมดแล้ว ตัวกำไรของเราก็เมื่อเทียบกับ Q4 ก็ลดลง แต่เมื่อเทียบ Q1 ปีที่แล้วก็ ได้เพิ่มขึ้น ตามสัดส่วน

  • Asset เราได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • Liability ของเราก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเท่ากับตัว Asset ที่เติบโต

ก็คือเหมือนว่าสร้าง value รายได้ให้กับผู้ถือหุ้นด้วย ในช่วงเราก็ยังเข้มแข็งอยู่ ก็เป็นหนึ่งใน ในๆๆ แทคติก ที่เรา ใช้ ทำยังไงให้เราเนี่ยเข้มแข็ง เพราะว่า การทำธุรกิจเรือเนี่ย มัน มันต้องมีความพร้อม พร้อมที่จะ เดินทางยาวๆ Financial Health ของเราเนี่ย ก็จำเป็นต้องอยู่ในสถานะที่ยังอยู่ในโซนที่เข้มแข็ง แล้วก็พยายามจะให้เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

  • จีนกับอเมริกา เขาการขัดแย้งกันเกี่ยวกับเรื่อง ภาษี ซึ่งล่าสุดก็มีการหยุด หยุดขัดแย้ง 90 วัน
  • สินค้าขายไป โดยเฉพาะจากจีนไปอเมริกานี่หายไป ช่วงที่ขึ้นเป็น 100%

เป็นรูปแบบใหม่ของการระหว่างประเทศที่เขาเล่นกัน ค่อนข้างที่จะ พึงพริกถึงขิงกันมาก

  • สงครามรัสเซียยูเครน

สถานการณ์เหมือนจะคลี่คลาย แต่จริงๆแล้วถ้าเราดู ทางตะวันออกกลางก็ยัง ระเบิดเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ แต่ข่าวที่ได้ยินตอนนี้มันเหมือนบาง พอเราไปๆดู พยายามเสาะหา มัน มันก็ยังไม่ มันยังไม่เรียบร้อย ก็เลยทำให้เป็นจุดตรงที่ว่า เอ้ย เรา เราจะคาดหวังว่ามันจะ peaceful อาจจะต้อง ใช้ เวลา ส่วนรัสเซีย ยูเครน ก็ดูเหมือนจะมี prog แต่ในเวลาเดียวกัน ก็ยังไม่เห็นจุดยืนที่เขาจะเจอกันได้ง่ายๆ ก็ทั้งหลายทั้งปวง ทุกอย่างก็คงขึ้นอยู่กับ ผลประโยชน์ของประเทศต่างๆนะครับ ที่อยู่ข้างหลังบ้าน ก็คงต้องดูว่าเจอผลประโยชน์ตรงไหน ก็ ก็จะจบลง ณ ตอนนั้น แต่ถ้าเกิดถามณตอนนี้เนี่ย มันยังกรุ่นๆกันอยู่เลย จะถามว่า เขาจะหยุดทะเลาะกันที่ทะเลแดงไหม ก็ ลำบาก

ยอมรับว่าตอนนี้ก็ไม่ไม่ง่ายแล้ว ต้องมองต่อไป ตอนนี้ก็รู้ว่าอเมริกา กองทัพเรือ ก็ไม่ค่อยจะชอบกันเท่าไหร่ ซึ่งก็กังวลอยู่เหมือนกันว่าถ้าเกิดทางสหรัฐอเมริกาไปจุดชนวน พยายามจะทำให้ข่าว 2 ทาง เทรดวอร์มันดูเหมือนจะดีขึ้น ทำให้ข่าวทางด้าน ตะวันออกกลางที่กับอิสราเอลเนี่ยดูเหมือนจะดีขึ้น แล้วก็ทำให้ข่าวรัสเซียยูเครนมันดีขึ้น กลายเป็นว่าเป็นการไปจุดประกายให้เขาสามารถไปเขี่ยปุ่มอื่น

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

  • เหตุการณ์ที่อินเดียกับปากีสถานไม่พอใจ ถึงขั้นยิงระเบิดใส่กัน
  • หากไม่มีอเมริกา เขาไปเป็นตัวกลางเนี่ย ก็คงยังยิงกัน

ตอนนี้มันมีจุดที่ ร้อน เมื่อก่อนมัน มันมีไม่กี่ที่มันก็เหมือนค่อยๆผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกคนคงต้องระวัง ความอ่อนไหวตรงนี้ แล้วมันก็มีหลายจุดในโลกนี้ที่มันมีจุดอ่อนไหวอยู่ แล้วคงต้องมองต่อไป แล้วจะถามว่าทุกอย่างมันจะ peaceful ไหมจากนี้ไป กังวลว่ามันอาจจะมีเรื่องเพิ่มเติม ทุกคนต้องเตรียมพร้อมกับ สิ่งที่มันเป็นไปได้ ซึ่งทางบริษัทก็ต้องเตรียมพร้อม กับ สิ่งที่มันอาจจะเป็น

challenging global landscape Topic ตัวนี้ ซึ่งก็อยากจะบอกว่า ทางบริษัทมองว่าจากนี้ไปเนี่ย เรื่องที่เมื่อก่อนประเทศมันรวมกันเป็นหนึ่ง มีๆ ลีดเดอร์คนหนึ่งก็คือสหรัฐอเมริกา สามารถรวมทำให้โลกเนี่ยกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทีนี้พอเวลาผ่านไปมันก็เริ่มมี ผู้มีอำนาจเพิ่มเติม ก็เป็นผู้มีอำนาจสีแดงขึ้นมา ก็คือจีน ก็พาร์ทเนอร์ของเขา รัสเซีย อิหร่าน ก็จะเป็นอีกกลุ่ม

เชื่อว่าจากนี้ไปเนี่ยจากเมื่อก่อนทุกอย่างมันรวมอันหนึ่งอันเดียว พอ มันมี แรงที่จะดึงให้ความอันหนึ่งอันเดียวกันมันหลุดออกมา มันก็จะค่อยๆแยกกันมาทีละนิด ตราบใดที่ conflict ที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ มัน มันยังไปในทิศทางนี้ ก็คือมันก็มีแรงในการแยกออกมาเรื่อยๆ มันก็คือ จากนี้ไปเนี่ย การ การค้า ระหว่างประเทศเมื่อก่อนมันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเนี่ย มันจะมีจุด เขาเรียกว่าจุด optimize ของมันเนี่ย พอเริ่มแยกออกมาเนี่ย อีกจุด optimize ของมันจะเปลี่ยนไป

  • มี 2 ขั้วอำนาจ
  • มีกลุ่มที่เป็น Neutral
  • อินเดีย บราซิล อาเซียน เอมิเรต พยายามอยู่ในจุดที่ยังไม่ต้องทะเลาะกับใคร

จาก 1 กลายเป็น 2 สิ่งที่เรามองว่า มันจะเป็นอย่างนี้ไป สัก 4-5 ปี ก็ น่าจะเห็นประมาณนี้

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

  • จำนวนเรือที่ติดอยู่ที่พอร์ตเนี่ย มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
  • เมืองจีนและยุโรป มีปัญหาเรื่องการ port congestion มากมาย
  • จำนวนเรือ Capacity ที่ติดเนี่ย มันใกล้ๆ กับที่เคยติดอยู่ที่ช่วงเวลา Covid
  • เรือที่กำลังออกมาเนี่ยเป็นเรือไซส์ใหญ่
  • เมื่อก่อนท่าเรือรับได้ 100 ลำ ตอนนี้รับได้แค่ 80 ลำ
  • service ต่างๆ ที่ถูกดีไซน์เอาไว้เนี่ย มันไม่สามารถวิ่งมาได้เป็นปกติ
  • เกิด domino effect
  • การ Immigration ก็คือแรงงาน มีปัญหา

Flow ของ Supply Chain ตอนนี้เนี่ยมันติดขัดไปหมด ก็เลยทำให้กราฟเป็นอย่างที่เห็นกันอยู่ จึงทำให้เกิดคำถามว่าทำไม Freight ไม่ค่อยลงเยอะ เนื่องจากมีเรื่อง operational in efficiency

  • React to the change
  • เตรียมตัวไปทำให้เรายืดหยุ่นมากที่สุด
  • ดูทรงแล้วสถานการณ์จะเป็นยังไงต่อ ก็พยายามคิดขึ้นมา ปรับตัวของเราให้ได้มากที่สุด

Long term สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ก็คือเรื่องที่เขาจะต้องมีการ แยก แยกขั้วกันมากขึ้น แม้ว่าเราจะปรับเปลี่ยนตัวเราอะไรยังไง ก็ต้องมองตัว long term ตัวนี้ เป็น เป็น ๆๆ เป็นไกด์ใหญ่ ในฐานะที่เรา RCL เนี่ย เราอยู่ใน ในกลุ่มประเทศที่มีการเจริญเติบโตสูง ซึ่งก็อยู่ในกลุ่มสีเหลืองที่ได้แชร์ไปแล้ว เราก็คงจะต้อง คงอยู่ตรงนี้ให้ได้มาก ให้ได้นาน ให้ได้มากที่สุด ในการเติบโตในตรงนี้ และเราก็รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ มันจะเกิดขึ้นเร็ว ในเชิงของการพัฒนา infrastructure อะไรต่างๆ ของประเทศที่กำลังพัฒนา รวดเร็ว เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว

เราจึงได้ต้อง ลง ทุนเงินค่อนข้างเยอะ ในการที่จะต้องหาเรือใหม่ๆ เข้ามาเติม เพราะรู้ว่า ในวันที่ มีการ ต่อสู้ค่อนข้างสูง การที่คุณมี เรือที่เหมาะสมที่จะ ไป ไปเขาเรียกว่าไปแข่งขัน มันจะมีโอกาสทำให้เราเนี่ยมี อัตราความอยู่รอดที่สุด แล้ว แทนที่เราเนี่ยจะเอาเรือไซส์เดิมๆ เราก็เลือก เรือไซส์ที่สเต็ป ขึ้น เพราะเราก็รู้ว่า Market ของเราที่เรา วิ่ง active อยู่เป็นประจำตรงเนี้ย มันจะเป็นตลาดที่ มันจะพัฒนาไปเรื่อยๆ แล้ว Volume ก็จะโตขึ้น เร็วขึ้น แล้วก็พวก ท่าเรืออุปกรณ์อะไรพวกนี้เนี่ย เขาก็พร้อมที่จะอัปเกรดตัวเขาค่อนข้างเร็ว

เรือลำนึงอยู่กับเราประมาณ 15-20 ปี มันจะต้องอยู่ในตลาดเนี้ย ในที่ที่เขาเติบโตขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งแล้ว เราก็เลย เลือกที่จะ ต่อเรือที่ ไซส์ใหญ่กว่าเดิม ใน เป็นขั้นๆไปเลย

Environment

  • สีทาเรือที่ใช้ในการทาเรือ
  • เรื่องอากาศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง suffer เรื่อง ไนโตรเจน แล้วก็ apply ตามกฎกติกาของ IMO อย่างเคร่งครัด
  • การต่อเรือใหม่ เพื่อลดการปล่อยมลภาวะ (efficiency ดีขึ้น 30%)
  • ปรับปรุงเรือเก่า เช่น อุปกรณ์, หางเสือ ประหยัดน้ำมัน, ใบพัดสะอาด, ท้องเรือสะอาด

แล้วเราก็มีการทำความสะอาดใบพัดของเรา แล้วก็ ใต้ท้องเรือของเรา บ่อยขึ้น เพราะว่ามันจะทำให้ ลดการใช้พลังงาน ซึ่งนอกจากจะประหยัดต้นทุนแล้ว มันก็ยังทำให้เราเนี่ยลดการปล่อยไอตัว แก๊สเรือนกระจกด้วย เหมือนกับยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว

ก็เป็นเรื่องที่เราได้มีโอกาสที่จะแบ่งปัน ให้กับ ในสังคมของเรา ก็มีภาพมาให้ดู ให้เรา ชื่นใจก็ คิดว่าในตัว วันดีของของเราก็ได้มีแชร์แล้ว ถ้าเกิดใครอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างลองเข้าไปดู เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้มาชื่นใจร่วมกัน

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่ม นาทีที่ 47:47

  • Q: เข้าใจว่า Q2 เป็น Low Season พอจะบอกคร่าวๆได้ไหมว่า Lifting Volume ใน Q2 ปี 2568 จะออกมาต่ำกว่า Q1 ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์
    • A: ตอน Q2 จะเจอเอฟเฟกต์เรื่องที่อเมริกากับจีนมีข้อขัดแย้งกันเรื่องภาษีนำเข้า ช่วงเวลานั้นสินค้าไปอเมริกานี่หายไป 50% จากจีน และประเทศอื่นๆก็หายไปตาม 10% 20%
    • Lifting Overall ของทั้ง Network ไม่ใช่แค่ของอาเซียทั้งโลกมันหายไป เอฟเฟกต์หมด
    • Q2 จะดีกว่า Quater ไหมก็ดูท่าทางจะลำบาก
    • แต่เนื่องจากตอนนี้เขาได้มีการหยุด โอเค พักรบ มานั่งคุยเจรจาเพิ่มเติม หยุด 90 วัน
    • พอหยุดปุ๊บ สินค้ากระโดดขึ้นมาเลย ภายในเวลาแค่อาทิตย์เดียว
    • เลยบอกไม่ได้ว่าจะลดลงกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะมันขึ้นอยู่กับแรงกระโดดตรงนี้ ที่ว่าตอนนี้เขารีบแห่กัน ขนของออกจากเมืองจีนไปอเมริกา เนี่ยมันจะ offset ที่มันหายไปประมาณเดือนนึงฤดู เพราะฉะนั้นคงต้องมาร่วมกัน
  • Q: ช่วง Q2 ของปี 2568 ถึง Q4 ของปี 2568 บริษัทมี commitment ที่จะจ่ายค่า installment ค่าเรือที่สั่งทั้งหมดเท่าไหร่
    • A: ประมาณ 100 ล้านเหรียญ และยอดที่ commit ไว้จากการสั่งเรือทั้งหมด เป็นยอดเท่าไหร่
      • ยอดที่ต้องจ่ายทั้งหมด รวมทั้ง 100 ล้านเหรียญ รวมแล้วทั้งหมดต้องจ่ายอีกประมาณ 300 ล้านเหรียญ
  • Q: แล้วปีนี้ทั้งปีมี schedule รับเรือหรือไม่
    • A: ไม่มี ถ้าเกิดมีเราจะดีใจมาก เพราะณตอนนี้ตัวบริษัทเรามีเรือไม่พอที่จะวิ่ง เพราะเรายังเห็นโอกาสในตลาดอยู่ แต่เนื่องจากเราไม่ ไม่ควรที่จะ เอาตัวเราไปอยู่ใน เรียกว่าไป over leverage ก็เลยทำให้ว่า เออเรา เรา ไม่ได้ คอมมิท ตัวเรือมาก ถ้าเกิดมีคำถามว่าถ้าเกิดตอนนี้มีเรือมา เนี่ยเรา เราจะดีไหม ก็คือเราค่อนข้างมั่นใจว่าเราจะมีสินค้าให้คนค
  • Q: ใน Q1 ปี 2568 นี้มี chartering income รวมอยู่ใน Freight income ประมาณเท่าไหร่ แล้วคาดว่าปีนี้ทั้งปีจะมี charter income ประมาณเท่าไหร่
    • A: Q1 อยู่ที่ประมาณ 30 ล้านเหรียญ ส่วนทั้งปีก็ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 130-140 ล้านเหรียญ
  • Q: เม็กซิโกมีแผนขยายเส้นทางเรือไปที่ไหนอีกหรือไม่ ในระยะเวลา 5 ปีนี้
    • A: ผมมองเรื่อง เค้าเรียกว่ากลุ่ม กลุ่มของกลุ่มอำนาจ ใน ในภูมิรัฐศาสตร์ มันก็แบ่งเป็นขั้วใหญ่ก็คือขั้วแดงกับขั้วน้ำเงิน แล้วก็ กลุ่ม ไอ้กลุ่มแดงกับเหลืองเนี่ยเค้ามีการจับมือกันเรียกว่า brick
    • มองเห็นด้วยว่ากลุ่มนี้ จะเป็นกลุ่มที่จะมีอิทธิพลค่อนข้างเยอะในอนาคต เราก็เลยกำลังจะมองหาโอกาสที่ว่า กลุ่ม brick เนี่ยเราสามารถจะเข้าไปอยู่ใน ecosystem ของเขาได้มากน้อยแค่ไหน เพราะนั้นเราก็ดูตรงนี้เป็น เป็นตัว guideline
    • เมื่อเราเห็นโอกาสที่เราจะไปเม็กซิโกได้เราก็ไป เม็กซิโกมันเหมือนกับเป็นก้าวแรกในการที่เราไป ทาง โซนอเมริกา
    • ไม่ได้มีแผนที่จะไปทางทิศเหนือ ก็คืออเมริกา แล้วก็ แคนาดา คิดว่าจะโอกาสที่จะลงไปทางใต้มากขึ้น ก็คือไปทาง South อเมริกา ดูไว้แต่ยังไม่ชัดเจน
    • รู้ว่าการที่จะเสิร์ฟไปที่ตลาดเม็กซิโกอย่างเดียว ในๆๆ Mid-term long term เนี่ยมันแค่เม็กซิโกประเทศเดียวไม่ได้ จะต้องมีประเทศอื่นด้วย
  • Q: (ถามโดย คุณทวิน) เมื่อสักครู่นี้ charter income Q1 ประมาณ 11% ของรายได้ทั้งหมดใช่ไหม
    • A: (คุณนัทฤดี) ถูกต้องครับ ประมาณ 11% ของรายได้ทั้งหมด

จากงาน Oppday ของ RCL พบว่าบริษัทกำลังเผชิญกับความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน แต่ก็มีโอกาสในการเติบโตจากการขยายตลาดและพัฒนาบริการใหม่ๆ บริษัทให้ความสำคัญกับการปรับตัวอย่างรวดเร็วและการลงทุนในระยะยาว เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับธุรกิจ

โพสต์ล่าสุด