บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TISCO กำไรปี 67 ลดลง 5.5% แม้คุม NPL ได้ แต่ยังเจอความท้าทาย
P/E 12.69 YIELD 7.28 ราคา 106.50 (0.00%)
รายละเอียดผลประกอบการและตัวเลขสำคัญ
ในไตรมาส 4 ปี 2567 TISCO มีกำไรสุทธิ 1,701.81 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2567 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจากธุรกิจตลาดทุนที่อ่อนตัวลง สำหรับภาพรวมปี 2567 กำไรสุทธิลดลง 5.5% มาอยู่ที่ 6,901.28 ล้านบาท จากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ารายได้รวมจะเติบโต 2.3% NPL ในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 2.35% ของสินเชื่อรวม ลดลง 2.7% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 4.6% จากปี 2566 โดย NPL ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อจำนำทะเบียน Coverage Ratio ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 155.3% NIM ลดลงจาก 4.95% ในปี 2566 มาอยู่ที่ 4.85% ในปี 2567 จากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น สินเชื่อรวมอยู่ที่ 232,200.01 ล้านบาท ลดลง 1.1% จากสิ้นปี 2566 โดยสินเชื่อเช่าซื้อลดลง แต่สินเชื่อจำนำทะเบียนและสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ เติบโต เงินฝากและเงินกู้ยืมรวมลดลง 5.0% จากปี 2566
โอกาสและความเสี่ยงในการลงทุน
TISCO มีโอกาสจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะช่วยลดต้นทุนทางการเงิน การฟื้นตัวของธุรกิจนายหน้าประกันภัย และการเติบโตของสินเชื่อจำนำทะเบียนจากการขยายสาขา "สมหวัง เงินสั่งได้" รวมถึงธุรกิจจัดการกองทุนที่ยังเติบโตได้ดี อย่างไรก็ตาม TISCO ยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง, หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง, การแข่งขันที่สูงในตลาดสินเชื่อ, และความผันผวนของตลาดทุน
TISCO ยังคงรักษาฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมี BIS Ratio ที่ 18.6% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะยาวและรับเงินปันผล โดยสรุป TISCO ยังคงเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งในระยะยาว แต่ต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจและตลาดทุนอย่างใกล้ชิด