บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

CPF โชว์ผลงานไตรมาส 1/25 กำไรสุทธิ 8.55 พันล้านบาท (+105% q-q, +642% y-y) ทะลุเป้าที่ FSSIA คาดการณ์ไว้ถึง 31% ทำสถิติกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ผลประกอบการที่โดดเด่น

อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) สูงสุดในรอบ 16 ไตรมาส แตะระดับ 18.5% (FSSIA คาดการณ์ไว้ที่ 15.9%) เพิ่มขึ้นจาก 15.7% ในไตรมาส 4/24 และ 12% ในไตรมาส 1/24 ปัจจัยหลักมาจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง และผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจปศุสัตว์ โดยเฉพาะสุกรในประเทศไทย เวียดนาม และกัมพูชา ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก

รายได้รวมต่ำกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย เติบโต 3% y-y (FSSIA คาดการณ์ 7% y-y) เนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน แต่หากไม่รวมผลกระทบจาก FX รายได้จะเติบโต 8% y-y โดยได้แรงหนุนจากราคาเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายรวมยังคงควบคุมได้ดี โดย SG&A ต่อรายได้ปรับตัวดีขึ้นเป็น 8.5% จาก 8.7% ในไตรมาส 4/24 และ 1/24 ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมยังคงแข็งแกร่ง (+92% y-y) โดยมี CPALL, Hylife (ธุรกิจสุกรในแคนาดา) และ CTI (ธุรกิจสุกรในจีน) เป็นปัจจัยขับเคลื่อน

แนวโน้มในอนาคต

กำไรสุทธิในไตรมาส 1/25 คิดเป็น 39% ของประมาณการทั้งปีของ FSSIA แนวโน้มกำไรในไตรมาส 2/25 ยังคงเป็นบวก โดยได้รับการสนับสนุนจากราคาสุกรที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาสุกรในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น 6-8% q-q ราคาสุกรในเวียดนาม และราคาไก่ในประเทศไทยยังคงแข็งแกร่งในระดับที่ทำกำไรได้

FSSIA มองว่าราคาเนื้อสัตว์ยังคงอยู่ในระดับสูงในหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากการระบาดของไข้หวัดนกและ ASF ซึ่งสูงกว่าต้นทุนการผลิตและสูงกว่าที่ CPF คาดการณ์ไว้ ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่ปริมาณการผลิตจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นและกลับเข้าสู่ตลาด ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของราคาเนื้อสัตว์จากระดับปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม FSSIA เชื่อว่าราคาเนื้อสัตว์เฉลี่ยในปี 2568 จะยังคงสูงกว่าปี 2567 ประกอบกับการลดลงของต้นทุนวัตถุดิบ คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังคงแข็งแกร่ง บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน ค่าใช้จ่าย และภาระหนี้สิน ซึ่ง FSSIA ยังคงคาดหวังผลกำไรที่แข็งแกร่งในครึ่งปีหลังของปี 2568

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

FSSIA แนะนำ "ซื้อ" CPF โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 30.00 บาท อิงตามแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตในอนาคต ราคาเป้าหมายนี้สูงกว่าราคาปิดล่าสุด 26.50 บาท ถึง 13.2% และสูงกว่าค่าเฉลี่ย (consensus) ถึง 1.6%