บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
AMARC กำไร Q1 ทะลุเป้า! โบรกฯ กรุงศรีฯ ชี้โอกาสลงทุน ราคาเป้าหมาย 2 บาท
P/E 7.37 YIELD 2.24 ราคา 2.68 (0.00%)
AMARC โชว์ผลงาน Q1/25 กำไรสุทธิ All Time High โตกระโดด 281% YoY หนุนโดยรายได้บริการที่เติบโตและ Gross Margin ที่แข็งแกร่ง โบรกเกอร์กรุงศรีฯ มองแนวโน้ม Q2/25 เติบโตต่อเนื่อง คงคำแนะนำ "Buy" ราคาเป้าหมาย 2 บาท ชี้ราคาหุ้นยังต่ำกว่า Forward PE -2.0SD เป็นโอกาสลงทุน
ไฮไลท์สำคัญ
- กำไรสุทธิ Q1/25 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 23 ล้านบาท โต text-primary 281% YoY และ text-primary 138% QoQ
- รายได้บริการรวม เติบโต text-primary 35% YoY และ text-primary 17% QoQ จากบริการตรวจวิเคราะห์ (Testing) เป็นหลัก
- Gross Margin พุ่งสูงขึ้นเป็น 47.6% จาก Economies of scale และสัดส่วนรายได้จากบริการ Testing ที่เพิ่มขึ้น
- แนวโน้ม Q2/25 คาดกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง YoY และ QoQ จากปริมาณงานบริการ Testing ที่เพิ่มขึ้น
ผลการดำเนินงาน Q1/25
AMARC รายงานกำไรสุทธิ Q1/25 ที่ 23 ล้านบาท เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ text-primary (+281% YoY, +138% QoQ) และสูงกว่าที่ Krungsri Securities (KSS) คาดการณ์ไว้ถึง 32% ปัจจัยหลักมาจาก 1) รายได้ให้บริการรวมที่เติบโต 35% YoY และ 17% QoQ โดยเฉพาะบริการตรวจวิเคราะห์ (Testing) ที่มีปริมาณงานเพิ่มขึ้นจากการขยายขอบข่ายบริการและเพิ่มสาขาให้บริการ และ 2) Gross Margin ที่ปรับตัวดีขึ้นเป็น 47.6% จากบริการ Testing ที่มีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นและ Economies of scale ที่ดีขึ้น
ข้อสังเกตและแนวโน้ม
KSS ประเมินว่ากำไรสุทธิ Q1/25 คิดเป็น 55% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2568 KSS คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิใน Q2/25 จะยังคงเติบโต YoY (Q2/24 กำไรสุทธิ 8 ล้านบาท) และ QoQ เนื่องจากคาดว่ารายได้ให้บริการรวมจะเติบโตจากบริการ Testing ที่มีปริมาณงานเพิ่มขึ้น รวมถึงบริการตรวจสาร BY2 ในทุเรียนส่งออกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ KSS ยังมองว่าประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 42 ล้านบาท (+6% YoY) มีโอกาสที่จะปรับขึ้น (upside) ได้อีก จากแนวโน้มรายได้ให้บริการรวมและ Gross Margin ที่ดีกว่าคาด
คำแนะนำและราคาเป้าหมาย
Krungsri Securities ยังคงคำแนะนำ "Buy" สำหรับ AMARC โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 2.00 บาท (ประเมินด้วยวิธี DCF, WACC 8.1%, L-T growth 3%) เนื่องจาก 1) คาดว่ากำไรสุทธิ Q2/25 จะทำ All Time High ได้ต่อเนื่อง ทำให้กำไรสุทธิปี 2568 มีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้อีก 2) มีโอกาสเติบโตตามการบริโภคและการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารแปรรูป และ 3) ตลาดหลักอยู่ในประเทศ ทำให้คาดว่าจะมีผลกระทบจำกัดจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ นอกจากนี้ KSS ยังมองว่าเป็นโอกาสในการลงทุน เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 2568 ต่ำกว่า Forward PE -2.0SD