บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ITC Oppday: เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568 พร้อมวิเคราะห์โอกาสและความท้าทายในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง

ITC Oppday: เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568 พร้อมวิเคราะห์โอกาสและความท้าทายในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง

สรุปผลการประชุม Oppday ของ บมจ. ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) ซึ่งนำเสนอผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 และแนวโน้มธุรกิจในอนาคต โดยมีผู้บริหารระดับสูงร่วมให้ข้อมูล ได้แก่ คุณพิชิตชัย วงศ์ปิยะ (CEO), คุณพรชัย ตติยทวีสุข (COO), คุณวีรวิทย์ กีรติบุญเสฐ (Assistant CFO) และคุณพิมพัทธ์ อินวสา (Head of Investor Relations)

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

   ITC รายงานยอดขายในไตรมาส 1/2568 เติบโต 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยได้แรงหนุนจากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐอเมริกา (+38.7%) อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นลดลง 1.2% มาอยู่ที่ 1,022 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 24.1% (ลดลงจาก 25.7% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน)

   ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อกำไรขั้นต้น ได้แก่:

   • สัดส่วนสินค้าพรีเมียมมิกซ์ที่ลดลง (Premium Mix) มาอยู่ที่ 48.7% ของยอดขายรวม เทียบกับ 54.8% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
   • ค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับตัวสูงขึ้น
   • ค่าเสื่อมราคาจากโรงงานใหม่ที่สงขลา
   • ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ติดลบ 3.8%

   กำไรสุทธิอยู่ที่ 677 ล้านบาท ลดลง 17.6% YoY และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 15.9% (ลดลงจาก 20.4% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยมีปัจจัยกดดันจากค่าใช้จ่ายในโครงการเทวิน (Telwin Project) และค่าที่ปรึกษาต่างๆ

   ถึงแม้ว่ายอดขายจะเติบโตเพียง 5.5% แต่ปริมาณการขาย (Sale Volume) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.2% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในแง่ของปริมาณการขาย ITC ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

   ITC มองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกที่ยังคงเติบโตอย่างมั่นคง โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารแมวและสุนัข (Cat & Dog Food) และอาหารเปียก (Wet Food)

   บริษัทมีโครงการใหม่ที่คาดว่าจะสร้างรายได้ในปี 2568 รวม 37 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งเป็น:

   • โครงการที่เริ่มดำเนินการแล้วในไตรมาส 1 กับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาในส่วนของอาหารแมวและขนมขบเคี้ยว (Treat) คาดว่าจะสร้างรายได้ 23.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
   • การเปิดตัวสินค้าใหม่ (7 SKUs) ในส่วนของอาหารแมวกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะสร้างรายได้ 13.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
   • การส่งออกสินค้าไปยังผู้นำเข้ารายใหญ่ (Importer Brand) ในอังกฤษและยุโรป (เริ่มส่งออกในเดือนเมษายน 2568)

   ITC ยังมีแผนเปิดตัวสินค้าพรีเมียมสำหรับสุนัข (Premium Dry Dog Food) ในประเทศไทยช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2568 โดยจะวางจำหน่ายทั้งในร้าน Pet Shop ทั่วไป, 7-Eleven, และช่องทางออนไลน์

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

   ITC ยอมรับว่าความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันคือผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า (Tariff) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการขายและกำไร

   นอกจากนี้ บริษัทยังเผชิญกับความเสี่ยงจาก:

   • ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
   • สถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน
   • การแข่งขันที่รุนแรงในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง
   • ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
   • ต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น (เช่น ทูน่า, ไก่, อลูมิเนียม)
4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

   ITC มีแผนรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ดังนี้:

   • การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ (Cost Management) ผ่านโครงการเทวิน (Telwin Project)
   • การปรับ Product Mix ให้เหมาะสมกับสถานการณ์
   • การขยายตลาดไปยังภูมิภาคอื่นๆ นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา (เช่น ยุโรป, เอเชีย)
   • การทำสัญญาซื้อขายระยะยาว (Long-Term Contract) เพื่อลดความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
   • การทำ Hedging เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

   ITC คาดการณ์ว่าตลาดยังคงเติบโตได้ แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะรักษาการเติบโตของยอดขายและกำไรอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

   วิสัยทัศน์ของบริษัทคือการเป็นผู้นำในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง, การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง, และการขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดใหม่ๆ

   ITC ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 55:30]**
   • **แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2568:**
     • **คำถาม:** แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2 ปีนี้เป็นอย่างไร คาดว่าจะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือไม่ เพราะอะไร?
     • **คำตอบ:** ในไตรมาส 2 เรามียอดขายเข้ามาแล้ว 90 กว่าเปอร์เซ็นต์เทียบกับเป้าหมาย เราเชื่อว่าจะได้ PO จากลูกค้าเข้ามาทั้งหมด 100% ตามเป้าที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม PO ที่ได้รับเข้ามากับการส่งออกไปยังมีความแตกต่างกันอยู่ เนื่องมาจากความไม่พร้อมหลายด้านซึ่งส่วนใหญ่มาจากทางฝั่งลูกค้าเอง อย่างน้อยอยากให้วางใจว่า Against กับ Target เราขายได้ตามเป้า
   • **ประมาณการรายได้ปี 2568 และการลงทุน:**
     • **คำถาม:** รายได้ในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตที่เท่าไร และมีงบลงทุนปีนี้ที่แจ้งไว้ 1,500 ล้านบาท จะใช้ทำอะไรบ้าง?
     • **คำตอบ:** การเติบโตของรายได้จะเป็นไปตาม Guidance ที่ได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้า ส่วนงบลงทุน 1,500 ล้านบาท หลักๆ ยังคงเป็นส่วนของ AS/RS Warehouse ที่มาเพิ่มในเรื่องของ Effectiveness หรือ Efficiency และ Productivity ของ Auto อันนี้ก็มาช่วยเพิ่ม Productivity และลดในเรื่องของ Cost Saving ได้ในบางส่วน อันนี้จะเป็นประมาณครึ่งนึงเลยของ 1.5 Billion ที่จะเกิดขึ้น ที่เหลือจะเป็นในเรื่องของ Compliance และ ESG หรือแม้แต่การปรับปรุงเปลี่ยนแทนเครื่องจักรเก่าๆ อันนี้จะเป็นส่วนเล็กส่วนน้อยที่เกิดขึ้นในงบลงทุนที่เราใช้ในปีนี้

โดยสรุป ITC ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่างๆ บริษัทมีแผนการที่ชัดเจนในการรับมือกับความเสี่ยงและคว้าโอกาสทางธุรกิจ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว