บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
CKP กำไร Q1/68 พลิกเป็นบวก! โบรกฯ ชี้ ไซยะบุรีหนุน แถมได้แรงบวกดอกเบี้ยลด
P/E 7.44 YIELD 3.73 ราคา 2.28 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ:
บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คาดการณ์ผลประกอบการ CKP ในไตรมาส 1/2568 จะพลิกเป็นกำไร 7 ล้านบาท จากที่ขาดทุน 242 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหนุนหลักมาจากปริมาณผลิตไฟฟ้าพลังน้ำที่เพิ่มขึ้น 27% YoY จากโรงไฟฟ้าไซยะบุรี และค่าใช้จ่ายที่ลดลง โบรกเกอร์คงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมราคาเป้าหมาย 4.40 บาท
รายละเอียดผลประกอบการและปัจจัยหนุน:
ปริมาณผลิตไฟฟ้าพลังน้ำรวมในไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 1,805 GWh ลดลง 37% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 27% YoY โดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้างึม 2 ผลิตไฟฟ้า 399 GWh เพิ่มขึ้น 7% YoY และโรงไฟฟ้า ไซยะบุรี ผลิตไฟฟ้า 1,406 GWh เพิ่มขึ้น 34% YoY การเพิ่มขึ้น YoY มาจากปริมาณน้ำไหลผ่านไซยะบุรีที่เพิ่มขึ้นมาก คาดการณ์กำไรปกติในไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 8 ล้านบาท ลดลง QoQ ตามฤดูกาล แต่ดีขึ้นมาก YoY จากปริมาณผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของไซยะบุรี รายได้จากการขายไฟฟ้าคาดว่าจะอยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท ลดลง YoY จากค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ลดลงตามค่า Ft และราคาก๊าซที่ลดลง
นอกจากนี้ CKP ยังได้รับแรงหนุนจากส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมที่ลดลงเป็น -27 ล้านบาท (จาก -569 ล้านบาทในไตรมาส 1/67) เนื่องจากปริมาณผลิตไฟฟ้าของไซยะบุรีที่เพิ่มขึ้น และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง OPEX ก็ลดลงทั้ง QoQ และ YoY รวมถึงค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง 7%QoQ ตามอัตราดอกเบี้ยตลาดที่ลดลงและการคืนเงินหุ้นกู้ของน้างึม 2
แผนการออกหุ้นกู้และผลประโยชน์:
CKP เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไม่เกิน 5 พันล้านบาท เพื่อชำระคืนหนี้และลงทุนใหม่ โดยเฉพาะโครงการหลวงพระบาง ทริสเรทติ้งได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ CKP จาก "BBB+" เป็น "A-" ซึ่งจะช่วยลดสเปรดการออกหุ้นกู้ลง 60-70 bps และ Gov’t Bond Yield ที่ลดลง 40 bps YTD คาดว่าจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของ CKP ลดลงมากเมื่อเทียบกับหุ้นกู้ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ไซยะบุรีก็มีแผนออกหุ้นกู้ชุดใหม่ 4 พันล้านบาท เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนกรกฎาคม 2568
คำแนะนำและปัจจัยเสี่ยง:
บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยให้ราคาเป้าหมาย 4.40 บาท อิงจากวิธี DCF (Discounted Cash Flow) เนื่องจากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะเร่งตัวขึ้นทุกไตรมาสตั้งแต่ 1-3Q68F ตามฤดูกาลและเพิ่มขึ้นมาก YoY ทำให้คาดว่ากำไรปกติปีนี้จะกลับมาเติบโตตามปริมาณผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของไซยะบุรี และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยเสี่ยง เช่น ความล่าช้าของโครงการลงทุน และความผันผวนของปริมาณน้ำ ซึ่งมีผลต่อรายได้และกำไรของบริษัท
ทั้งนี้ ราคาเป้าหมาย 4.40 บาท มี upside +62% จากราคาปิดล่าสุดที่ 2.72 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 22 เมษายน 2568)