https://aio.panphol.com/assets/images/community/3411_8adbc9.png

สรุป Oppday PYLON ปี 2567: โอกาสและความท้าทายในตลาดเสาเข็มเจาะ

P/E 14.92 YIELD 1.53 ราคา 2.62 (0.00%)

สรุป Oppday Pylon ปี 2567: โอกาสและความท้าทายในตลาดเสาเข็มเจาะ

สวัสดีครับพี่ๆ นักลงทุน ท่านผู้ชม แล้วก็ท่านนักวิเคราะห์ที่อยู่ทางบ้านทุกท่าน วันนี้ผม ดร. ชเนศ แสงอรุณยคุณ จะเป็นตัวแทนของบริษัท Pylon มาบรรยายสรุปผลประกอบการของปีที่ผ่านมา ของประจำปี 2567 หรือ 2024

ก็ช่วงแรกผมขอ Intro บริษัทไปนิดเดียวนะครับ ก็บริษัทเราประกอบธุรกิจก่อสร้างงานฐานรากนะครับ งานเสาเข็มเจาะขนาดใหญ่ นะครับ ก็เราทำเสาเข็มเจาะ เป็นเสาเข็มเจาะหล่อในที่นะครับ มีไดมิเตอร์เส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 50 ซม. ไปจนถึงประมาณสัก 2 เมตร ปัจจุบันนี้สามารถทำเสาเข็มได้ความลึกประมาณสัก 100 เมตรอ่ะนะครับ แล้วก็อันที่สองของเราก็คือเราทำงาน กำแพงกันดิน นะครับ Diaphragm Wall นะครับ หรือว่างาน Barrett pile ด้วยนะครับ ถ้าเกิดว่าอันนี้เป็นรูปเครื่องมือที่ใช้ในการเจาะตัว Diaphragm Wall นะครับ ถ้าเราเจาะไป 1 แผง หรือ 1 ปากเนี่ย เราก็จะได้เสาเข็มเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้านะครับ หน้าตัดก็อาจจะกว้างสัก 80 ซม. 1 ม. นะครับ ความหนาสัก 80 ซม. หรือ 1 ม. นะครับ แล้วก็มีความกว้างประมาณสัก 3 เมตร เจาะ 1 แผงเราก็เรียกว่าเป็นเสาเข็มเหลี่ยมหรือ Barrett pile ถ้าเรานำเสาเข็มเหลี่ยมหลายๆ ต้นมาเรียงต่อกันนะครับ เราก็จะได้เป็นเสาเข็ม Diaphragm Wall อ้า เราจะได้เป็นกำแพงกันดินนะครับ หรือเราเรียกว่า Diaphragm Wall นะครับ เราทำงานตัวปรับปรุงคุณภาพดินนะครับ โดยการอัดฉีดซีเมนต์ด้วยแรงดันสูง หรือทำงานเรียกว่า Soil Mixing Column นะครับ โดยเทคนิค Jet Grouting ครับ

ผลงานที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่า Pylon เราเองก็เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดนะครับ ธุรกิจงานก่อสร้างงานฐานรากของประเทศไทยเลยนะครับ ผลงานเราก็มีผลงานใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกงาน Infrastructure นะครับ เป็นรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ นะครับ งานรถไฟใต้ดิน งาน Commercial Complex ต่างๆ นะครับ ยกตัวอย่างเช่นพวกงานอย่างเช่นศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นะครับ งานตัว Central North Pole ที่อยู่ตรง อ่า พหลโยธินนะครับ งานโรงแรม นารายณ์นะครับ ที่ทุบของเก่าแล้วก็ปรับปรุงใหม่นะครับ ใช้ Code name ชื่อว่า หทัยนะครับ ตอนนี้นะครับ ก็คือตัวโรงแรม นารายณ์ใหม่นะครับ โครงการ One เวลา โครงการ Cloud Eleven Icon Siam นะครับ สามย่าน Mid Town นะครับ แล้วก็รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ นี้ผมขอข้ามไปเร็วๆ เลยนะครับ ส่วนงานพวกงานที่อยู่อาศัย งานคอนโดมิเนียมนะครับ ก็ต้องบอกว่าเราก็เป็นหนึ่งใน Player หลักนะครับ ที่รับงานพวกนี้ค่อนข้างเยอะนะครับ กับกลุ่ม อ่า ผู้ประกอบการ ยกตัวอย่างเช่นนะครับ กลุ่ม AP LPN พฤกษา อนันดานะครับ นารายณ์ Property กลุ่ม Major Development นะครับ ก็อันนี้ก็เป็นกลุ่มลูกค้าของเรานะครับ โครงสร้างของบริษัทปัจจุบันนี้ บริษัทมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วอยู่ 375 ล้านบาทนะครับ ก็พูดถึงกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ยังคงเหมือนเดิมนะครับ เป็นกลุ่มตระกูลแสงอรุณยคุณนะครับ ถือหุ้นรวมประมาณ 55% ครับ เราเริ่มเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI นะครับ ตั้งแต่ปี 2548 นะครับ แล้วก็วันนี้น่าจะครบ 20 ปีละนะครับ แล้วก็เราย้ายมาจดทะเบียนใน อ่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ SET เนี่ยนะครับ ในปี 2015 นะครับ ก็ผู้บริหารของบริษัทก็ประกอบด้วยผมนะครับ ทำหน้าที่เป็น CEO ของบริษัทนะครับ แล้วก็มีคุณพิสันติ์ สิริสุขสกุลชัยนะครับ ทำหน้าที่นะครับ เป็น COO ดูแลงานเกี่ยวกับงานวิศวกรรม งาน Operation ทั้งหมดนะครับ มีคุณบดินทร์ แสงอรุณยคุณนะครับ เป็น CFO ดูแลเกี่ยวกับงานทางด้านบัญชี การเงิน การบริหารจัดการภายในองค์กรนะครับ มีคุณสมศักดิ์นะครับ เป็นรองกรรมการผู้จัดการ ดูแลงานเกี่ยวกับงานซ่อมบำรุงนะครับ งานเครื่องจักรทั้งหมดของบริษัท

อันนี้เป็น Performance Timeline นะครับ เราก่อตั้งบริษัทในปี 2002 นะครับ เราก็ค่อยๆ เจริญเติบโตมาเรื่อยๆ นะครับ ผ่านวิกฤตมาก็หลายครั้ง นะครับ ก็ยังโชคดียังไม่มีรายได้ก็เติบโตมาเรื่อยๆ ก็อาจจะมีแผ่วบ้างนะครับ ในๆ ในปีที่ ไม่ว่าจะเป็นช่วง Hamburger Crisis นะครับ หรือจะล่าสุดมาก็เป็นช่วงที่เป็นโควิดระบาดนะครับ ก็ทำให้อ่ายอดกำไรของบริษัทเนี่ยลดลงในช่วงที่ผ่านมานะครับ ก็จะมีขึ้นบ้างลงบ้างนะครับ ก็แต่ก็ยังโชคดีนะครับ ยังปี ยังไม่มีปีไหนที่มีผลประกอบการขาดทุนเลยนะครับ

มาดูผลประกอบการนะครับ เอา Q4 ก่อน ก่อนที่จะไปทั้งปีนะครับ Q4 เนี่ย ไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้วนะครับ ก็มีรายได้อยู่ทั้งหมดประมาณสัก 160 ล้านบาทนะครับ มี Gross Profit อยู่ประมาณสัก 3 ล้านบาท นะครับ มี Net Profit นะครับ ติดลบประมาณ 7 ล้านบาทนะครับ มี Gross Profit Margin อยู่ที่ประมาณสัก 2% Net Profit Margin ติดลบประมาณสัก 4.8% นะครับ สภาพคล่องเรายังค่อนข้างดีเรามีหนี้สินค่อนข้างน้อยนะครับ อยู่ D/E Ratio อยู่ประมาณ 0.16 เท่า นะครับ มีสภาพคล่อง Current Ratio อยู่ประมาณสัก 7 เท่า นะครับ แล้วก็มีเงินสดหรือว่ารายการที่เป็นเทียบเท่าเงินสดเนี่ย อยู่ประมาณสัก 432 ล้านบาทครับ มาดูรายได้ของปีที่แล้วนะครับ Q4 Q on Q เทียบกับ Q3 ปีที่ผ่านมานะครับ ก็รายได้ Q3 เนี่ยอยู่ที่ 290 ล้านบาทโดยประมาณ Q4 อยู่ที่ประมาณ 159 ล้านบาทนะครับ ก็ติดลบประมาณ 45% นะครับ รายได้ Q4 เทียบ Year on Year นะครับ เทียบกับ Q4 ปี 2023 เนี่ย Q4 2023 ทำได้ 341 ล้านบาทนะครับ Q4 ปีที่ผ่านมา 159 ล้านบาทก็ติดลบไป 53% ครับ ถ้าเอาทั้งปี ปี 2024 นะครับ เทียบกับปี 2023 ก็ปี 2023 เราทำรายได้ได้อยู่ที่ประมาณ 1,487 ล้านบาทนะครับ ปีที่ผ่านมาเนี่ยรายได้เราลดลงเหลืออยู่ประมาณสัก 820 ล้านบาท ครับ

อันนี้มาแสดงให้ดูถึงนะครับ ผลประกอบการย้อนหลังนะครับ รวมทั้งหมดประมาณสัก 5 ปี นะครับ ก็จะเห็นว่าตั้งแต่ อ่า ปี 2021 เป็นต้นมาหลังโควิดเนี่ยนะครับ ก็ปี 2021 เนี่ยยอดรายได้เราเนี่ยตกลงมานะครับ แล้วก็ค่อยๆ พยายามที่จะไต่กลับขึ้นไปนะครับ แล้วก็ปีที่แล้วเองเนี่ยก็อย่างที่เรารู้ทราบก็ปีที่ผ่านมาเนี่ย อุตสาหกรรมก่อสร้างค่อนข้างลำบากนะครับ ก็ภาวะของที่อยู่อาศัยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสูงนะครับ ก็ชะลอตัวนะครับ แล้วก็งานภาครัฐในปีที่ผ่านมาเนี่ยก็ออกมาน้อยนะครับ ภาครัฐภาคเอกชนก็ไม่ค่อยมีนะครับ ก็ปีที่แล้วอย่างที่ผมก็มาออก Oppday อยู่ในทุกไตรมาสก็ได้มีการแจ้งพี่ๆ นักลงทุนไปว่าก็ คงจะเป็นปีที่มีการประคองตัวไปนะครับ ปีที่แล้วเราก็จบรายได้ไปที่ 821 ล้านบาทนะครับ ทำมี Gross Profit นะครับ อยู่ที่ 7.8% นะครับ อยู่ที่ประมาณสัก 63 ล้านบาท ก็ต้องถือว่าเป็น Gross Profit ที่ต่ำที่สุดนะครับ ในรอบอาจจะเป็น 10 ปีเลยแหละนะครับ ก็ ก็เป็นไปตามสภาวะตลาดนะครับ เรามี Net Profit นะครับ ปีที่แล้วลดลงมานะครับ เหลืออยู่แค่ประมาณสัก 500,000 บาท Totaly แล้วของทั้งปีนะครับ ก็จะอยู่ที่ประมาณสัก 0.1% ของยอดขาย

เรามีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเนี่ยนะครับ อยู่ที่ 77 ล้านบาทนะครับ คิดเป็น 9.4% ที่เปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นก็เพราะว่ายอดขายเนี่ยลดลงนะครับ ฉะนั้นเปอร์เซ็นต์ค่าใช้จ่ายในการขายแล้วก็บริหารเนี่ยก็จะคิดเป็นสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นนะครับ แต่ถ้าคิดเป็นดูตัวเลขแล้วนะครับ ก็ยังค่อนข้างที่จะอ่าคงที่เทียบกับปี 2023 หรืออาจจะต่ำกว่านะครับ ตาม ตามจำนวนตาม Operation ที่มันลดลงนะครับ RoA RoE ก็ปีที่ผ่านมาก็ทำได้อยู่ในระดับต่ำนะครับ อยู่ที่ประมาณ 0.05% ครับ Balance Sheet ก็ยังปีที่ผ่านมาก็เนื่องจากว่า ก็ยังอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างแข็งแรงอยู่นะครับ ก็เรายังเป็น Cash Company อยู่นะครับ ก็ Asset มีอยู่ประมาณสัก 1,100 ล้านบาทเรามีหนี้สินอยู่ประมาณสัก 150 ล้านบาทนะครับ มี Equity อยู่ประมาณสัก 940 ล้านบาทนะครับ ก็เป็นสภาพคล่อง 7.23 เท่าอย่างที่เรียนแล้วนะครับ แล้วก็เป็น D/E Ratio อยู่ 0.16 เท่า นะครับ ปัจจุบันนี้ก็ยังคงสภาพสถานะเดิมโดยคือบริษัทเนี่ยมีหนี้สินค่อนข้างน้อยนะครับ หนี้สินส่วนใหญ่ยังเป็นหนี้สินที่เป็นหนี้การค้า นะครับ หนี้สินกับสถาบันการเงินเนี่ยแทบจะไม่มีเลยนะครับ เรามีเงินสดอยู่ตอนนี้เนี่ย ก็ประมาณ 432 ล้านบาทนะครับ ถ้าดูในงบการเงินเนี่ยก็จะเป็นเงินฝากธนาคารรวมกันประมาณสัก 200 กว่าล้านบาท นะครับ อีกประมาณสัก 200 กว่าล้านบาทเนี่ยก็จะเป็นเงินลงทุนในกองทุนนะครับ ซึ่งกองทุนเนี่ยทางบอร์ดเองกองทุนที่เป็น Money Market เนี่ย ทางบอร์ดเองก็จำกัดความเสี่ยงนะครับ ให้ลงทุนได้เฉพาะในอ่าพันธบัตร ตาของภาครัฐ ตราสารภาครัฐเท่านั้นนะครับ ซึ่งมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ

ถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมาเนี่ยนะครับ อ่า ทางบริษัทจะมีอาจจะมีผลประกอบการที่ลดลงนะครับ ก็มีกำไรอยู่ประมาณ 500,000 บาท แต่ว่าก็เรามองว่าภาวะนี้เป็นภาวะชั่วคราวนะครับ บริษัทยังมีสภาพคล่องอย่างที่เรียนเมื่อสักครู่นี้นะครับ เพียงพอ แล้วก็คิดว่าปัญหาภาวะซึมเซาของตลาดหรือของธุรกิจเนี่ยอาจจะเป็นภาวะชั่วคราวนะครับ เราก็คิดว่าเรามีความสามารถในการที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้นะครับ เราก็จึงตัดสินใจที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับท่านผู้ถือหุ้นเนี่ยนะครับ ในอัตราหุ้นละ 4 สตางค์นะครับ คิดเป็นเงินประมาณสัก 30 ล้านบาทนะครับ โดยที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD เนี่ยในวันที่ 18 มีนาคมนะครับ แล้วก็จะจ่ายเงินปันผลเนี่ยในวันที่ 23 พฤษภาคมนะครับ แต่ยังไรก็ตามเนี่ยนะครับ เดี๋ยวอ่ามติที่จะต้องจ่ายเงินปันผลเนี่ยจะต้องผ่านการอนุมัติขอจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อนนะครับ

คราวนี้มาดูตัวไฮไลท์ละนะครับ ก็ปีที่ผ่านมาก็คงยอมรับนะครับว่า อ่า ธุรกิจก่อสร้างเนี่ยนะครับ ก็ค่อนข้างจะซบเซานะครับ ก็พยายามปีที่แล้วก็พยายามมองหาแสงสว่างที่ปลายโมงนะครับ ปีนี้นะครับ ก็ต้องเรียนพี่ๆ ว่าผมยังไม่คิดว่า อ่า เศรษฐกิจเนี่ยมันดีขึ้นนะครับ แต่ว่ามีปัจจัยพิเศษหลายๆ ตัวที่ทำให้ผมคิดว่าธุรกิจ อ่าต้องใช้คำว่าอุตสาหกรรมงานเสาเข็มเนี่ย เสาเข็มเจาะขนาดใหญ่ด้วยนะครับ จะกลับมาดี ไม่รู้จะดีเป็นปกติหรือดีเหมือนเดิมหรือเปล่านะครับ แต่ว่าเรียกว่าแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่ปีที่แล้วพยายามมองหาเนี่ย ปีนี้เนี่ยเห็นค่อนข้างชัดเจนนะครับ ก็ต้องเรียนว่า Factor แรก เลยเนี่ย ต้องบอกว่ามีงานภาครัฐ นะครับ ที่ขึ้นมาเป็นโครงการใหญ่ๆ หนึ่งโครงการนะครับ ก็คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มนะครับ ก็ซึ่งในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเนี่ยจะใช้เครื่องมือเครื่องจักรเนี่ยเป็น เป็นงาน Diaphragm Wall เนี่ยเกือบทั้งหมดนะครับ ก็ทำให้ Demand จากสายสีส้มเนี่ยไปดูด Supply นะครับ ตัวเครื่องจักร ตัว Grab ที่ใช้ในการเจาะเสาเข็มหรือว่า Barrett Pile เจาะงาน Diaphragm Wall หรือว่า Barrett Pile เนี่ยออกไปจากตลาดค่อนข้างมากนะครับ ออกไปจากตลาดค่อนข้างมากนะครับ ประกอบกับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเนี่ยอุตสาหกรรมก่อสร้างเนี่ยเสาเข็มเนี่ยไม่ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ ทำให้ผู้ประกอบการแต่ละรายเนี่ยลด อ่าความสามารถ เค้าเรียกว่าลดลดกำลังคนละกันเครื่องจักรเนี่ยอาจจะยังมีเหมือนเดิม แต่ว่าลดกำลังคนลงนะครับ ทำให้ชุดการทำงานที่มีได้เนี่ยก็ลดลงตาม พอรถไฟฟ้าสายสีส้มขึ้นมาเนี่ยก็ทำให้ตัว Supply เนี่ยถูกดูดออกไปอย่างค่อนข้างรวดเร็วนะครับ ประกอบกับอ่ามีผู้รับเหมา รายนึงนะครับ ที่ประกอบธุรกิจเดียวกันเนี่ย ก็ต้องถือว่าเป็น Big4 นะครับ ก็ทางบริษัทแม่เค้าเนี่ยตัดสินใจที่จะปิดกิจการนะครับ ก็เนื่องจากว่าเค้าก็เป็น Big4 เป็นหนึ่งในคนที่มีกำลังการผลิตค่อนข้างเยอะนะครับ ก็เลยทำให้ตัว Supply ในตลาดเนี่ยมันลดลงไปนะครับ เดิมที่ Supply มันเยอะ Demand มันน้อย เมื่อ Supply มันลดลง Demand มันกลับเข้ามาเนี่ย มันก็เข้าสู่จุด Balance ในตัว อุตสาหกรรมที่มันเป็นงาน Diaphragm Wall ได้นะครับ

อีก Factor หนึ่งที่เข้ามาเนี่ยก็คือมีงานภาคเอกชนซึ่งเป็นพวก Commercial โครงการใหญ่ๆ ออกมาหลายโครงการนะครับ ก็พวกไม่ว่าจะเป็นอย่างงานที่เรา รับมาอย่างงานเวิ้งนครเกษมนะครับ หรืออาจจะมีโครงการที่เป็น Mixed Use Complex ใหญ่ๆ นะครับ ที่กำลังจะออกมาเนี่ยอีกหลายตัวนะครับ แล้วก็มีงานอย่างยกตัวอย่างช่วงนี้ แล้วก็งานที่ผ่านมาเนี่ยมี Data Center ตัวขนาดสักประมาณ 100 ล้านบาทเนี่ยออกมาหลายตัวเหมือนกัน ซึ่งเราเองก็ทำไปแล้วหลายตัว ตอนนี้ก็ประมูลอยู่อีกประมาณสัก 2 ตัวนะครับ ก็ทำให้ตลาดซึ่งเป็นตลาดบนที่ที่พูดเล่นหลักๆ หรือ Big4 เนี่ยผมคิดว่าก็น่าจะมีส่วนร่วมในโครงการเหล่านี้นะครับ เพิ่มขึ้นเยอะนะครับ ก็เป็นการดูดเป็นการเพิ่มตัว Demand เข้ามาในตลาดด้วยนะครับ ก็เลยทำให้นักล๊อกที่เอามาโชว์พี่ๆ ในวันเนี้ยนะครับ ก็อยู่ประมาณสัก 1,300 ล้านบาทนะครับ จริงๆ มี Potential ในช่วงเดือนเนี้ยน่าจะเพิ่มขึ้นได้อีกหลายร้อยเหมือนกันนะครับ ก็เอา เอาตัวเอาปัจจุบันนี้ก่อนนะครับ ก็เป็นงานภาครัฐเนี่ยนะครับ ก็อาจจะมีอยู่ 2 โครงการที่ตอนนี้เรารับนะครับ ส่วนนึงก็คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม ก็ต้องบอกว่าก็กลับคงเป็นครั้งแรกที่เราได้นะครับ เข้าไปมีส่วนร่วมนะครับ กับผู้รับเหมา ช.การช่าง นะครับ แล้วก็รับงานมาบางส่วนนะครับ มี โครงการทางด่วนจตุโชติ นะครับ บางตอนนะครับ ที่เราไปรับมานะครับ ก็เลยทำให้ตัวงานภาครัฐเนี่ยนะครับ ที่เป็นงาน Labour Only เนี่ยขึ้นมาอยู่ประมาณสัก 350 ล้านบาทใน Backlog นะครับ ส่วนงานภาคเอกชนก็จะเป็นที่เหลืออยู่ประมาณสัก 1,000 ล้านบาทนะครับ เป็นงานภาคเอกชนโดยส่วนใหญ่ก็จะรับรู้ในปีนี้ผมว่าประมาณสัก 80-90% จะรับรู้ในปีนี้ทั้งหมดนะครับ ก็เลยทำให้ปีนี้เนี่ยมีความมั่นใจว่ายอดรายได้เราเนี่ยน่าจะกลับไปเติบโตมากกว่า 1,000 ล้านบาทนะครับ ที่อาจจะมี Positive คนนั้นก็คือว่าด้วยปัจจัยที่กล่าวมาเมื่อสักครู่เนี่ยก็คงจะทำให้การแข่งขันในตลาดนะครับ ที่กดดัน Margin อยู่เนี่ยลดลงได้บางส่วนนะครับ แล้วก็อาจจะทำให้ Margin เนี่ยปรับตัวดีขึ้นนะครับ จากนี้ค่อยๆ ไปนะครับ แต่ว่าก็ต้องเรียนว่ายังมีปัจจัยที่ยังเป็นปัจจัยลบอยู่นะครับ ก็คือ Demand ในอดีตที่เคยเป็น Demand ขนาดใหญ่ นะครับ ได้แก่ ได้แก่กลุ่มที่พักอาศัย กลุ่มคอนโดมิเนียม กลุ่มอาคารสูงเนี่ยนะครับ ก็ยังไม่ได้ผมยังไม่คิดว่ายังไม่ได้ปรับตัวดีกว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัดนะครับ แต่ว่าก็ยังกลุ่มลูกค้าหลักๆ ของเราก็ยังจะเป็นลูกค้ารายเดิมๆ นะครับ ที่ขึ้นอาคารสูงอยู่นะครับ แต่ว่าเรายังไม่เห็นการกลับมานะครับ ของเซ็กเตอร์นี้นะครับ

อันนี้เป็นงานในมือนะครับ ปัจจุบันที่ดำเนินการอยู่นะครับ งานเวิ้งนครเกษมเนี่ยนะครับ ก็ถ้าใครผ่านไปแถวๆ เยาวราชนะครับ ก็เวิ้งนครเกษมเนี่ยก็จะกินพื้นที่ทั้งเกาะเลยนะครับ ติดกับ 4 ถนนเลย จักรวรรดิ เยาวราช อ่า บริพัตรมั้ง แล้วก็เจริญกรุง อ่าติด 4 ตุดนะ ผมจำผิดหรือเปล่าไม่รู้ น่าจะบริพัตรครับ นะครับ ก็ตอนนี้เริ่มดำเนินการมาได้ประมาณสักเดือนนึงละนะครับ Schedule โครงการนี้อยู่ประมาณสัก 10 เดือนนะครับ มีงานคาราบาว ออฟฟิศใหญ่ของคาราบาวเนี่ยก็เริ่มงานมา เพิ่งเริ่มงานได้ไม่กี่วันนี้ นะครับ เพิ่งเริ่มงานได้ไม่กี่วันนี้นะครับ ก็งานนี้ก็ประมาณสัก 3-4 เดือนก็น่าจะเรียบร้อย 4 น่าจะประมาณสัก 4 เดือนนะครับ มีงาน PM Tower มีงาน Resident ที่ PYT Resident ที่พัทยานะครับ มีงาน ตัวอันนี้เป็นตัวเพิ่มเติมของตัว Evolution Data Center นะครับ มีงานคอนโดของ AP ที่จะขึ้นอีก 1 แห่งนะครับ มีงานคอนโดมิเนียมนะครับ อยู่ซอยสุขุมวิท 16 นะครับ ซึ่งก็เป็นอ่ามีห้องใต้ดินลึกประมาณสัก 25 เมตรประมาณสัก 5 ชั้นมั้งนะครับ แล้วก็เป็นอาคารสูงนะครับ มีงาน ที่เมืองทองธานีนะครับ มีรถไฟฟ้าสายสีส้ม นะครับ มีโครงการทางด่วนจตุโชติ นะครับ มีงาน เดอะเบส วงสว่าง แล้วก็มี บางบางโปรเจค ซึ่งเป็นงาน เจ็ตเก๊าท์ติ้ง ซึ่งยังยังคงทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้วละนะครับ ก็อันนี้งานนี้ไม่ได้มีมูลค่าอะไรมากนะครับ ก็คงจะมีอยู่งานนึงก็คืองาน Project O เนี่ยก็ยังเราได้งานมาตั้งแต่ปีที่แล้วละนะครับ แต่ว่าทางเจ้าของโครงการเนี่ยยังชะลอการเริ่มงานอยู่นะครับ ก็เดี๋ยวรอดูความชัดเจนอีกทีว่าจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่นะครับ มีงานตัว สถานทูตอเมริกา ซึ่งก็ทำเป็นโปรเจกต์ก็ค่อนข้างหลายปีเหมือนกันแบ่งเป็นเฟสๆ ตอนนี้ก็เข้าไปทำอีกเฟสนึงนะครับ เสร็จแล้วเดี๋ยวคงออกมาแล้วก็คงจะมีขับเข้าไปทำอีกเฟสนึงเร็วๆ นี้นะครับ อันนี้ปี 2 น่าจะหมดปีนี้มั้ง 2025 นะครับ มีงาน นาว เมกะบางนา อันนี้ก็รอขึ้นอยู่นะครับ ก็อันนี้เป็น Backlog ในปัจจุบันนะครับ ส่วนโครงการใหญ่ๆ ในภาครัฐที่ต้องรอออกมาความชัดเจนก็คือตัว High Speed 3 สนามบินนะครับ อันนี้คงต้องรอนะครับ ก็เห็นข่าวมาเป็นช่วงๆ นะครับ ก็เดี๋ยวถ้ากลับมาแล้วเราก็คงจะต้องกลับเข้าไปคุยว่าใครเป็นยังไงนะครับ ผู้รับเหมายังเป็นเจ้าเดิมอยู่หรือเปล่านะครับ มีงานที่ทำกำลังศึกษาอยู่แต่ว่าน่าจะขึ้นเราก็กำลังคุยอยู่นะครับ เป็นงานที่ งาน Double Deck นะครับ ตัวจาก ตู่ แจ้งวัฒนะ พระราม9 เนี่ยนะครับ อันนี้ก็ค่อนข้างใหญ่ เป็นการทำทางด่วนชั้นที่ 2 นะครับ อันนี้คงต้องรอความชัดเจนอีกทีนึงนะครับ มีงาน มักสัน Complex Entertainment Complex เอย ต่างๆ นานานะครับ มีงาน อู่ตะเภา นะครับ ก็คงหมดนะครับ การสรุปบรรยายในวันนี้เดี๋ยวผมขอค้างเอาไว้ มาตอบคำถามนะครับ พี่ๆ ทางบ้านนะครับ

ขอคำถามแรกเลยนะครับ ประเมินภาพรวม เดี๋ยวแป๊บนะ ผมขอ Refesh ก่อน โอเค ประเมินภาพรวมการใช้กำลังการผลิตเครื่องจักรในงวด Q1 ไว้กี่ชุดเทียบกับงวด Q4 ก็ต้องบอกว่า Q4 เนี่ยใช้ไปค่อนข้างน้อยนะครับ ใช้ไปประมาณสักหย่อน 10 ชุดนะครับ ประมาณสักประมาณ 5-10 ชุดนะครับ เพราะว่ามีหลายงานที่ที่ไม่ได้เริ่มนะครับ มาใน Q1 เนี่ยในเดือนมกราคมก็ยังต่อเนื่องจาก Q4 อยู่คืออาจจะยังไม่ ยัง งานยังไม่ได้ขึ้นในเดือนมกราคมมากนักนะครับ แต่ว่าในเดือนกุมภาพันธ์มาเนี่ยนะครับ เครื่องจักรก็กลับเข้ามาทำงาน นะครับ กุมภาพันธ์มีนานะครับ เครื่องจักรก็กลับเข้ามาทำงานอยู่ในออเดอร์ประมาณสักกุมภาพันธ์ประมาณสัก 10 กว่าชุดนะครับ ก็กำลังจะไต่ขึ้นไปทำงานอยู่ในออเดอร์ประมาณสัก 15 ชุดในเดือนมีนาคม เมษายน พฤษภาคมนะครับ ยาวไปจนถึงสิ้นปีนะครับ แล้วก็มีแนวโน้มว่าหลังเดือนพฤษภาคมเนี่ยอาจจะกำลังการผลิตอาจจะขึ้นไป อาจจะใช้ขึ้นไปอยู่ใกล้ๆ 20 ชุดได้นะครับ ก็ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนี้นะครับ เราอาจจะรับงานเพิ่มได้อีกไม่มากละนะครับ ในกำลังคนที่ี ปัจจุบันนี้เรายังมีกำลังคนเนี่ยใช้ค่อนข้างเต็มละเรากำลังพยายามเพิ่มชุดทำงานอยู่นะครับ ก็คาดว่า อ่า ตอนนี้ใช้ประมาณอยู่ประมาณสัก 14-15 ชุดนะครับ ไปจนถึงอีก 2-3 เดือนเนี่ยผมน่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกประมาณสัก 4 ชุด 5 ชุดนะครับ คิดว่าปีเนี้ยเราจะอาจจะเห็นในช่วงสัก Q2 Q3 Q4 ไปเนี่ยกำลังการ เราอาจจะใช้เครื่องจักรอยู่ประมาณสัก 15-20 ชุดนะครับ ก็เป็นที่มาว่าก็คงจะสอดคล้องกับปริมาณ Backlog ที่จะต้องรับรู้ในปีนี้เนี่ยที่เพิ่มขึ้นนะครับ

มองเห็นโครงการใหญ่ๆ อะไรบ้างที่จะเข้ามาเติม Backlog ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 68 รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน อ่าต้องบอกงี้ครับ ช่วงนี้เนี่ย งานเสาเข็มที่กลับเข้ามายังไม่เยอะแต่ว่างานที่เป็นงาน Diaphragm Wall บวกงานเสาเข็มเนี่ย ที่เป็นโครงการที่มาพ่วงกันเนี่ย อ่ามีมาค่อนข้างมากจนเราไม่สามารถที่จะรับงานได้นะครับ ต้องบอกว่าอย่างวันนีวันพรุ่งนี้วันมะรืนเนี้ยมีก็มีต่อรองราคา 2-3 โครงการนะครับ ก็ต้องบอกว่าตอนเนี้ย อ่าทีมงานเราเนี่ยใช้กำลังการผลิตจากชุดคนงานที่มีเนี่ยค่อนข้างเต็มละนะครับ ตอนนี้งานที่รับเนี่ยเราก็พยายามที่จะรับงานในช่วงของเดือนสักมิถุนายนนะครับ พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคมไปละนะครับ ก็ตอนนี้กำลังพยายามที่จะเพิ่มชุดคนงานอยู่ เครื่องจักรเนี่ยต้องเรียนพี่ๆ ว่ายังมีเพียงพอนะครับ อ่อ แล้วก็มีเพิ่มเติมอีกนิดนึงด้วยก็เดือนที่ผ่านมาเนี่ยผมมีไปซื้อเครื่องจักรนะครับ อ่ามาเพิ่มอีกประมาณชุดงาน Diaphragm Wall เนี่ยประมาณ 2 ชุด นะครับ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตมารองรับกับ Demand ของตัวงาน Diaphragm Wall ที่เพิ่มขึ้นนะครับ

คำถามข้อนี้ก็คงจะตอบว่าคิดว่าเดือนนี้เดือนหน้าคงจะมีงานเพิ่มเข้ามาอีกหลายร้อยล้านเหมือนกันนะครับ คิดว่านะครับ แต่ว่าเราคงจะดูงานที่ เริ่มงาน ระยะเวลาเริ่มงานสอดรับกับการเพิ่มกำลังคนของเราได้ทันพอดีนะครับ เพราะว่างานใหญ่ๆ ทุกงานตอนนี้เนี่ยเริ่มเดือนเมษายนหมดเลยนะครับ ก็เลยทำให้เราอาจจะรับงานบางงานเนี่ยไม่ได้ครับ แต่นี้ยังเป็นเฉพาะงานตัวงาน Diaphragm Wall นะครับ งานเสาเข็มเองเนี่ยก็ตัวยังไม่ค่อยมี Demand กลับเข้ามาเท่าไหร่นะครับ ก็เดี๋ยวปีนี้คงค่อยๆ เป็นค่อยๆ กลับขึ้นไปก่อนครับ เพิ่มจำนวนชุดคนงานกลับขึ้นไปก่อนนะครับ โครงการใหญ่ๆ ใน Backlog อาทิ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ทางด่วนจตุโชติ เวิ้งนครเกษม แต่ละโครงการมูลค่าประมาณเท่า ไหร่ ใช่หัวเจาะประมาณเท่า ไหร่ Margin ประมาณเท่า ไหร่ อันนี้ขออนุญาตนะครับ ยังคงจะเปิดเผยไม่ได้นะครับ แต่ก็ต้องบอกว่าแต่ละโครงการเนี่ยใช้กำลังการผลิตค่อนข้างเยอะเหมือนกันนะครับ แล้วก็ Margin ค่อนข้างโอเคเลยครับ Margin เนี่ยปรับตัวดีขึ้นนะครับ ก็ก็ต้องบอกอย่างงี้ครับ อ่า งานเรากลับขึ้นมาเริ่มดีขึ้นเนี่ยมันไม่ได้หมายความว่า Margin เราจะกลับขึ้นไปดีเหมือนเมื่อช่วง 4-5 ปีที่แล้วทันทีนะครับ อ่าก็คงจะเป็นธรรมชาติของตลาดนะครับ งานเราพยายามเหมือนเดิมนะครับ ในช่วงที่แข่งขันมามากๆ เราพยายามจะไม่ได้รับงานแบบล้นนะครับ ใน Margin เดิมๆ เราก็พยายามจะรับงานที่มีระยะเวลาไม่ยาวนักอย่างสายสีส้มเราก็ไม่ได้เข้าไปหลายสถานีนะครับ เราก็เข้าไปแค่บางส่วน เราก็คิดว่าโครงการภาคเอกชนก็ยังเป็นโครงการที่มีการปรับตัวได้ดีนะครับ ยิ่งมีโครงการใหญ่ๆ ออกมาในช่วงนี้งาน 3-4 เดือน 7-8 เดือนนะครับ ก็พอจดงานเราก็เสนองานใหม่เราก็สามารถถ้าตลาดมันยังอำนวยนะครับ มี Demand ที่ต่อเนื่องเราก็ยังสามารถค่อยๆ ปรับ Margin กลับขึ้นไปได้นะครับ คงไม่ได้หวือหวาหรือว่ากลับขึ้นไปแบบทันทีทันใดนะครับ ภาวะการแข่งขันด้านราคาในปัจจุบันเป็นอย่างไรในแง่ Demand Supply ของงานเสาเข็มเริ่มเข้าสู่จุดสมดุลหรือยังคาดว่าตลาดจะกลับมาเปงของผู้รับเหมาเสาเข็มอีกครั้งในช่วงปีไหน อ่าผมคิดว่ายังคงไม่ใช่ปีนี้นะครับ ก็อย่างที่บอกว่าถ้าเราแบ่งอ่า ตัวตลาดเสาเข็มออกเป็นงานเสาเข็มที่มีงาน Diaphragm Wall ด้วยกับงานเสาเข็มอย่างเดียว งานเสาเข็มอย่างเดียวเนี่ยส่วนใหญ่มันจะไปผูกกับอาคารที่เป็นอาคารที่พักอาศัย พวกคอนโดต่างๆ พวกนี้จะไม่มีห้องใต้ดินนะครับ ก็จะเป็นงานเสาเข็มอย่างเดียวก็ตลาดตัวเนี้ยคงจะต้องรอนะครับ ผมคิดว่าต้องกลับมา แต่ว่าจะคงต้องค่อยๆ กลับมานะครับ ส่วนไอ้งานที่กลับมาแล้วตอนนี้ก็คือพวกงานที่เป็นพวกงาน Commercial งานที่มีห้องใต้ดิน งานที่เป็นงาน Infrastructure พวกรถไฟฟ้าต่างๆ เนี่ยพวกเนี้ยมี Demand ของงานเสาเข็มบวกงาน Diaphragm Wall เข้ามาตอนนี้ก็คือเราใช้กำลังใช้กำลังการผลิตที่เป็นทั้งเครื่องจักรก็เต็มคนก็เต็มละนะครับ ข้อต่อไปงานที่ยัง Active ในตลาดส่วนมากตอนนี้เป็นงานจากลูกค้ากลุ่มใดอัตรา อันนี้ อันนี้ตอบไปแล้วนะครับ มุมมองผู้บริหารเกี่ยวกับงานเสาเข็มคอนโดเป็นอย่างไรบ้าง อ่า อันนี้ก็ต้องตอบอีกทีนะครับว่ามัน ผมคิดว่าคงไม่ได้ต่างจากปีที่ผ่านมานะครับ ก็อย่างกลุ่มลูกค้าหลักเราก็ยังขึ้นปริมาณคอนโดต่อปีที่ตามแผนเนี่ยก็ยังใกล้เคียงกับปีที่แล้วนะครับ ก็จะมีที่เห็นอยู่ก็คือรายเล็กๆ อาจจะหายไปค่อนข้างมาก นะครับ ก็ ก็ผมคิดว่าคงยังต้องให้เวลาอีกระยะนึงนะครับ ปีนี้ไพล่อนจะมีการลงทุนเพิ่มเติมอะไรบ้าง ค่าใช้จ่าย คาดว่าใช้เม็ดเงินลงทุนเท่า ไหร่ ขอดูเป็นสเต็ปเป็นสเต็ปก่อนครับ คงจะเนื่องจากเราไม่ได้ลงทุนมาหลายปีแล้ว 4-5 ปีที่ผ่านมาแทบจะไม่ได้ใช้เงินลงทุนเลยนะครับ ก็ปีนี้เริ่มต้นเนี่ยผมก็ซื้อเครื่องจักรไปส่วนนึงละนะครับ ก็มี มีแผนตั้งใจจะซื้อเพิ่มนะครับ แต่ว่าขอดูตลาดนิดนึงก่อน ถ้าตลาดยังส่งต่อเนื่องนะครับ แล้วถ้าตลาดเทมาฝั่งงาน Grab งาน Diaphragm Wall เพิ่มขึ้นเราก็คงจะขยายตลาดในฝั่งที่ Demand มันกลับมาก่อนนะครับ ก็เดี๋ยวคงดูตามภาวะตลาดนะครับ แล้วก็พยายามที่จะให้การลงทุนที่เกิดขึ้นเนี่ยมันคุ้มทุนเร็วที่สุดนะครับ เพราะว่าต้องบอกว่า อ่า สภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยเราเองเนี่ย ผมยังมองว่ายังไม่แน่นอนนะครับ เรายังคงคิดว่าปัญหาเศรษฐกิจที่เรามีเนี่ยยังเป็นของจริงแล้วก็ยังคงจะต้องเจออยู่นะครับ ปีนี้ไพล่อนจะมีการลงทุนเพิ่มเติมบ้างคิดว่าใช้เงินลงทุนเท่า ไหร่ ก็เราก็ขอเงินลงทุนเอาไว้ประมาณสัก 100 ล้านบาทน่ะครับ ทุกปีนะครับ ปีนี้ก็คงใช้ไปประมาณสัก 30-40% ละนะครับ อาจจะมีการใช้เพิ่มขึ้นนะครับ เดี๋ยวต้องรอดูอีกทีนึง ภาพรวมผลประกอบการ Q1 จะเป็นอย่างไร ทั้งในเชิงรายได้และ Margin คิดว่าดีขึ้นนะครับ นะครับ คิดว่าดีขึ้นอย่างที่เรียนไป เรื่องกำลังใช้การผลิต แต่ว่าเดี๋ยวจะเป็นยังไงคงต้องรอดูอีกทีนึงนะครับ รอดูอีกทีนึงนะครับ ก็มีแนวโน้มครับ Q1 อาจจะเป็น Q ที่แย่ที่สุดของปีนะครับ แต่ว่าก็คงจะดีกว่าปีที่แล้วนะครับ ก็คงจะบอกได้ประมาณนี้นะครับ จากที่ผมคิดว่าเป็นภาวะของ ของงานที่เข้ามาด้วยนะครับ ราคาปูนที่ปรับขึ้นส่งผลกระทบอย่างไรเราจัดการอย่างไร ก็ล่าสุดยังไม่ได้มาปรับขึ้นผมนะครับ ก็งานที่เรามีในมือทั้งหมดเราล็อกราคาปูนไว้หมดแล้วนะครับ แล้วก็เหล็กที่มีที่โครงการทั้งหมดเหล็กเราก็ล็อกราคาไว้หมดแล้วนะครับ ไม่ อย่าเรียกว่าล็อกเลยผมซื้อหมดแล้วนะครับ แล้วก็แต่คิดว่าได้ข่าวมาเหมือนกันครับว่าเค้าจะปรับขึ้นนะครับ เดี๋ยวก็โครงการเนื่องจากอย่างที่เรียนเราโครงการเสาเข็มไม่ได้เป็นระยะยาว โครงการใหม่ๆ ที่ประมูลตอนนี้ก็รับรู้ครับว่าจะมีการปรับตัวขึ้นนะครับ เห็นว่าอาจจะคิว ละประมาณสัก 100 บาทมั้งนะครับ ก็เดี๋ยวดูว่าเราก็คงจะอาจจะไม่รีบเกินไป เพราะยังเค้ายังไม่ได้มาขอผมขึ้นเลยนะครับ ถ้ามาขอขึ้นแล้วเราก็คงจะต้องงานประมูลที่จะถึงเนี่ยที่จะต้องใช้ก็อาจจะต้องปรับขึ้นตามนะครับ ทิศทาง Margin ช่วงหลังเริ่มดีขึ้นยังครับ แล้วมองดีขึ้นครับนะครับ ก็อย่างที่ผมเรียนไปแล้วนะครับ ตอนนี้ก็ในเมื่อ อ่า Big4 หายไป 1 นะครับ แล้วก็กำลังการผลิตของทั้ง 3 เจ้าที่เหลืออยู่รายใหญ่เนี่ยใช้กันเรียกว่าเต็มแล้วตอนนี้นะครับ ฉะนั้นการแข่งขันที่เกิดขึ้นนะครับ ในงานผมคิดว่าจะลดลงนะครับ แล้วก็คงจะทำให้ Margin ของทุกๆ บริษัทในอุตสาหกรรมนี้ดีขึ้น คงไม่ใช่ไพล่อนคนเดียวครับนะครับ ผมคิดว่าก็คงจะเป็นทั้งอุตสาหกรรมนะครับ แต่ถ้ายังอ่าบริษัทไหนอาจจะยังไม่ได้มีอาจจะมีเสาเข็มอย่างเดียวอาจจะต้องรอนิดนึงนะครับ ผมคิดว่าเดี๋ยวก็ต้องกลับมานะครับ ปี 2025 ตั้งเป้า Backlog ใหม่เท่า ไหร่ ก็วันนีเดือนกุมภาพันธ์มีนาคมเรามี Backlog อยู่ประมาณสัก 1,300 นะครับ ผมคิดว่าปีเนี้ยหาได้คงไม่ต่ำกว่าอีกสัก 4-500 อ่ะ เป็นอย่างน้อยนะครับ ก็คงเป็นไปได้นะครับ เดี๋ยวคงต้องรอดูนะครับ ผมคิดว่าปีนี้ยอด Backlog น่าจะค่อนข้างดีนะครับ ราคาเหล็กลงจะทำให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้นไหมครับ ไม่หรอกครับ ก็ดีกับลูกค้าเรา เพราะว่าเหล็กลง เราก็โขลดราคาให้ลูกค้าตามราคาเหล็กปัจจุบันทุกครั้งครับ อันนี้สัตย์จริงสาบานต่อเทพพยาดาฟ้าดิน นะครับ ก็คือเราก็แข่งขันกับคนอื่น ฉะนั้นเหล็กเนี่ยเป็น Commodity เราเอากำไรบนนี้ไม่ได้เราได้อย่างมากก็ OS Profit สัก 4-5% บนนี้แค่นั้นเอง ส่วนราคาเหล็กเนี่ยอ่าก็คือเราประมูลงานเช่นพรุ่งนี้จะไฟนอลราคางานเราก็เอาเหล็กที่เราคาดว่าจะซื้อได้ปัจจุบันเนี้ยใส่ให้เค้านะครับ เมื่อประมูลงานเรียบร้อยผมก็ซื้อเหล็กเลยนะครับ Pylon ก็จะซื้อเหล็กเลย อันนี้ทำเป็นนิสัยมาเป็น 10 ปีละนะครับ ฉะนั้นเราคงจะไม่ไปเก็งกำไรราคาเหล็กอ่ะครับ ไม่ว่ามันจะขึ้นหรือมันจะลงนะครับ งานที่ Margin น้อยในปี 2024 ก่อสร้างเสร็จหมดหรือยังครับ น่าจะใกล้หมดแล้วครับ นะครับ น่าจะใกล้หมดแล้วครับ อาจจะเหลืออยู่แค่โครงการเดียวนะครับ คำตอบสุดท้ายนี้ขอไม่ตอบนะครับ ที่ถามเกี่ยวกับอ่าผู้รับเหมา รายที่ได้มีการหยุดดำเนินกิจการไปนะครับ อันนี้ขออนุญาตนะครับ คิดว่าคำคำถามได้ตอบไปหมดแล้วนะครับ ตอบไปหมดแล้ว แล้วก็ไม่ได้มีคำถามมาเพิ่มเติมนะครับ ก็คงจะเรียนพี่ๆ ว่า ปีนี้เนี่ย ผมคิดว่าดีกว่าปีที่แล้วนะครับ ทำงานน่าจะกลับมาทำงานได้สนุกขึ้น คือมีงานให้ผมทำนะครับ แล้วก็หวังว่านะครับ อ่า ภาวะของงานนะครับ แล้วก็โครงการต่างๆ ที่ภาครัฐจะออกมาเนี่ยนะครับ คงจะต่อเนื่องนะครับ ก็แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่นะครับ ก็คงต้องดูไปผมคิดว่า แต่ว่าล็อก ด้วยล็อก ที่มีแล้วก็ปริมาณงานที่น่าจะประมูลได้ใน Q1 Q2 เนี่ย ผมคิดว่าอาจจะ เซ เคียว น่าจะ เซ เคียว ปีนี้ได้ทั้งปีละนะครับ คราวนี้ส่วนปี 2026 นะครับ ก็คงไกลเกินไปที่จะทำนาย เพราะว่าภาวะเศรษฐกิจเนี่ยก็จริงๆ ก็ดูไม่ค่อยดีนักนะครับ ก็เดี๋ยวคงต้องมาดูกันอีกทีครับนะครับ ก็ถ้าวันนี้ทางพี่ๆ ทางบ้านไม่มีคำถามอะไรเพิ่มเติมแล้วนะครับ ผมในฐานะตัวแทนนะครับ ของ บบจ. ไพล่อนนะครับ ก็ขอขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านนะครับ เราเหมือนเดิมเราสัญญากับพี่ๆ ว่าเราจะขยันทำงาน ขยันซื่อสัตย์ประหยัดอดทน ขอบคุณมากครับ

สรุป: โดยรวมแล้ว Pylon คาดหวังผลประกอบการที่ดีขึ้นในปี 2568 จากโครงการภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มขึ้น แม้จะยังมีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): เริ่มต้นที่นาที 41.28

  1. กำลังการผลิตเครื่องจักร Q1/68 เทียบกับ Q4/67
    • Q4/67 ใช้เครื่องจักรน้อย (5-10 ชุด) เพราะงานไม่เริ่ม
    • Q1/68 (มกราคม) ต่อเนื่องจาก Q4/67 (งานยังไม่ขึ้น)
    • Q1/68 (กุมภาพันธ์) เครื่องจักรกลับมาทำงาน (10 กว่าชุด)
    • Q1/68 (มีนาคม) ไต่ขึ้นไป 15 ชุด, พฤษภาคมอาจถึง 20 ชุด
    • กำลังคนเต็มที่, พยายามเพิ่มชุดทำงาน
  2. โครงการใหญ่ที่จะเติม Backlog ครึ่งปีแรก 2568
    • งานเสาเข็ม + Diaphragm Wall มาค่อนข้างมากจนรับไม่ทัน
    • ทีมงานใช้กำลังการผลิต + ชุดคนงานเต็มที่
    • เน้นรับงานเริ่ม มิ.ย., พ.ค.-มิ.ย.-ก.ค.
    • เครื่องจักรเพียงพอ, เดือนที่ผ่านมาซื้อเครื่องจักร Diaphragm Wall เพิ่ม 2 ชุด
    • คาดว่าเดือนหน้าจะมีงานเพิ่มหลายร้อยล้าน, เน้นงานที่เริ่มงานสอดรับกับกำลังคน
  3. โครงการใน Backlog มูลค่าเท่าไหร่, ใช้หัวเจาะเท่าไหร่, Margin เท่าไหร่
    • ขออนุญาตไม่เปิดเผย, แต่ละโครงการใช้กำลังการผลิตเยอะ
    • Margin ค่อนข้าง OK, ปรับตัวดีขึ้น
    • งานเริ่มดีขึ้นไม่ได้แปลว่า Margin จะกลับไปดีเหมือน 4-5 ปีก่อนทันที
    • พยายามไม่รับงานล้นใน Margin เดิม, รับงานระยะเวลาไม่ยาว (เช่น สายสีส้มไม่เข้าหลายสถานี)
    • โครงการภาคเอกชนปรับตัวได้ดี, มีโครงการ 3-4, 7-8 เดือนจบงาน-เสนองานใหม่
    • ถ้าตลาดอำนวยมี Demand ต่อเนื่องก็ค่อยๆ ปรับ Margin กลับขึ้นไป
  4. ภาวะการแข่งขันด้านราคาในปัจจุบัน
    • ยังไม่เข้าสู่จุดสมดุล
    • แบ่งตลาดเส

โพสต์ล่าสุด