บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
สรุป Oppday Megachem (MGT): วิเคราะห์ผลประกอบการปี 2024 และทิศทางอนาคตปี 2025
P/E 6.86 YIELD 6.21 ราคา 1.61 (0.00%)
สรุป Oppday Megachem (MGT): วิเคราะห์ผลประกอบการปี 2024 และทิศทางอนาคตปี 2025
สวัสดีครับท่านผู้ฟังท่านผู้ชมที่อยู่ทางบ้านทุกๆท่านครับ วันนี้นะครับ Megachem Thailand Public Company Limited เป็นวัน Opportunity Day วันที่ 4 เดือน 3 ปี 2015 นะครับ ผม ดร. วิทยา อินดารา CEO ของบริษัท Megachem ประเทศไทยจำกัดมหาชนครับ ด้านซ้ายมือของผมนะครับก็คือคุณ วริษฐ์ อินดารา เป็น CFO ของบริษัทนะครับ
เริ่มเลยนะครับ บริษัท Megachem ประเทศไทยจำกัดมหาชนเนี่ยนะครับ ธุรกิจก็คือเราทำเป็น chemical distributor และ chemical solution provider นะฮะ ทุนจดทะเบียนก็คือ 200 ล้านบาท นะฮะ IPO วันแรกก็คือวันที่ 23 เดือน 2 ปี 2017 นะ ตัวย่อก็คือตัว MGT สีเขียวนะครับ นะครับ ตัว par value ก็คือ 0.5 บาทเปอร์แชร์นะครับ Office ก็อยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
Vision and mission ของบริษัทก็คือ vision ก็คือ to be the best solution provider of chemicals mission นะฮะ ก็คือว่า to provide the superior value of chemical services and solution to our partner ตัว core core value ของบริษัทก็คือมี 4 ตัวนะครับ ก็คือ C collaboration A accountability R respect E ก็คือ entrepreneurial mindset ก็คือตัว care นะครับ
มาดูบริษัท Megachem Thailand Public Company Limited ตัวย่อ MGT เนี่ยเราเริ่มตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทครั้งแรกนะครับ สำหรับผู้ที่เข้ามาฟังใหม่ นะครับผู้เข้ามาชมใหม่เนี่ยก็คือวันที่ 5 เดือน 10 ปี 1992 นะครับ ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ทางกลุ่มของคนไทยนะฮะ ถือหุ้น 51% นะครับ แล้วก็ Megachem สิงคโปร์ถือ 49% หลังจากนั้นผมก็มาซื้อหุ้นของคนไทยนะ ก็เป็นผมถืออยู่ 51% ทางสิงคโปร์ถือ 49% นะครับ ในปี 2016 นะครับ เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1 ล้านบาทมาเป็น 150 ล้านบาทนะครับ โดยเปลี่ยนอ่าจากหุ้นละ 100 บาทนะฮะ มาเป็นหุ้นละ 0.5 บาทนะครับ ในปี 2017 ก็คือวันที่ 23 เดือน 2 2017 นะ คือจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ MAI ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ในปี 2018 เดือน 2 เหมือนกันนะครับ ไปร่วมทุนกับทางพม่า ใช้ชื่อว่า Megachem Myanmar Limited นะครับ เราถือหุ้น 51% อันนี้เป็น เป็นบริษัทต่างชาตินะครับ เพราะฉะนั้นเขาจะให้บริษัทต่างชาติเนี่ยนะฮะ สัญชาติต่างชาติเนี่ยถือหุ้นนะ เกิน 50% ขึ้นไปเนี่ยจะให้ทำอะไรบ้าง ของเราก็คือได้เรื่องของตัวเกี่ยวกับ construction เรื่องของ medical equipment แล้วก็เรื่องของตัวเกษตรนะ เคมีเกี่ยวกับเกษตรนะครับ 2018 เดือน 6 นะครับ ก็จดนะ อ่า ไปตัว acquire นะครับ Megachem Plus นะครับ Megachem Plus โดย MGT เนี่ยถือหุ้น 80% นะฮะ โดยตัวนี้ธุรกิจก็คือเรื่องของการนำเข้านะ External แปลงสภาพที่นำเข้ามาจาก South Africa ที่ทำมาจากห่านหินนะครับ เพราะฉะนั้นตัวนี้ของเราเนี่ย External ที่แปลงสภาพที่นำเข้ามาจาก South Africa เนี่ย The Sasol Chemical เนี่ยนะครับ จะเป็นคุณภาพที่ดีที่สุดนะครับ ก็คือไม่มีกลิ่น นะฮะ ไม่มีกลิ่น เพราะว่าปกติแล้วเนี่ย External เนี่ยจะมาจากการ fermentation การหมักนะครับ ไม่ว่าจะเป็นวันสำปะหลัง นะฮะ ข้าว อ่า สาลี ข้าวอะไรต่างๆ เหล่านี้ขึ้นมาเนี่ย มันจะมีกลิ่นเปรี้ยวๆ นิดนึง เพราะว่าเกิดจากการหมัก นะ การ fermentation แต่ตรงนี้เนี่ย เป็นการสังเคราะห์ขึ้นมาจากนะฮะ ถ่านหินนะครับ ในปี 2021 นะฮะ ในเดือน 1 เนี่ยนะฮะ ก็ร่วมทุนกับทางญี่ปุ่นนะฮะ Fujiwara ไฟ Work นะ กับ Megachem นะฮะ Megachem Thailand ถือหุ้น 49% นะ ผลิต อ่า Graphite expendable Graphite นะครับ ก็ใช้ชื่อว่า Mega Fujiwara Graphite ในปี 2021 เหมือนกันนะฮะ ในเดือน อ่า 9 ในเดือน 9 นะครับ เราไปร่วมทุนกับ Green Leaf เราไปถือหุ้น 55% นะครับ Green Leaf Chemical ก็คือทำธุรกิจกับเรื่องของ Personal Care นะฮะ เรื่องของ Cosmetic เรื่องของ Food Ingredients แล้วก็ Skin Testing นะครับ
มาดูโครงสร้าง ก็ลักษณะที่ผมกล่าวไปแล้วนะครับ โอเคครับผ่านไปครับ ธุรกิจของ MGT และบริษัทในกลุ่มของเราเนี่ยนะครับ ก็จะมีอยู่ 5 นะ segment 5 Business BU นะครับ ก็คือ 1 Performance Coating ก็คือทางด้านพวกสี พวกหมึกพิมพ์นะ พวก construction นะ polymer polymer and advanced polymer composite ก็คือทำพวก อ่า polymer ไม่ว่าจะเป็นตัว เอ่อ อ่า binder สำหรับพวกสี นะ ไม่ว่าจะเป็น alkyd resin acrylic resin นะ พวกพลาสติกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น PVC นะ อ่า HPLC เอ้อ โทษนะครับ อ่า PE PP นะ ฮะ ตัวอื่นๆ นะ ก็ตัว Master batch ที่ทำสิ อ่า พลาสติกที่ทำใส่สี ใส่ additive เข้าไปนะครับ แล้วก็ Oil and Gas ก็คือขายเคมีเกี่ยวกับทั้ง อ่า Oil และก็ Gas ไม่ว่าจะเป็น offshore onshore นะฮะ แล้วก็ขายพวกน้ำมันหล่อลื่น ขายเกี่ยวกับน้ำมันเครื่องอะไรต่างๆ ตรงนี้นะ อันต่อไปก็คือ Lifestyle Biotech ก็คือ ทำด้านเกี่ยวกับพวกความสวยความงามที่เราไปซื้อ Green Leaf นะ แล้วก็ Megachem Plus ที่เป็นนะ Deature External และก็ที่ Megachem ขายเป็น เป็น เอ่อทางด้านพวกอุตสาหกรรม cleaning นะฮะ แล้วอันต่อไปก็คือ Surface Technology ก็คือทำเรื่องของตัวความสะอาดพื้นผิวโลหะ ที่เป็น part ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น part อิเล็กทรอนิกส์ นะ ไม่ว่าจะเป็น part automotive หรืออื่นๆ นะครับ อันนี้ก็คือ Business ที่เราทำกันอยู่นะครับ
อันนี้ก็คือเรื่องของตัว Green Leaf เนี่ยที่ผมเล่าไปแล้วนะครับ ต่อเลยครับ อ่ะ ทีนี้เรื่องของ Financial Performance นะครับ ผมจะให้ทางคุณ วริษฐ์ อินดารา ที่เป็น CFO เนี่ยนะ ท่านมาอธิบายให้ฟังครับ เชิญครับคุณวริษฐ์ฮะ ครับ ขอบคุณครับ ก็ในช่วงอันนี้เป็น Financial Performance ของ Q4 ของปี 2024 นะครับ เอ่อ จากทางซ้ายเราจะเห็นเรื่องของรายได้จากทางขาย นะครับ ในปี 2024 รายได้การขายของ MGT ทั้งกลุ่มอยู่ที่ 264 ล้านบาทครับ โตขึ้นมาจากปี 2023 year on year อยู่ประมาณ 14.78% ส่วน GP ที่อยู่ตรงกลางนะครับ ก็อ่า อยู่ที่ 84 ล้านบาทครับ โตขึ้นมาจาก 74 ล้านบาท จ เอ่อ อัตรา margin ของเรายังคงที่เดิมครับ ที่ 3.2% โตขึ้นจากปีที่แล้วอยู่ประมาณ 13% นะครับ ส่วน Expense SG Expense ของเราเพิ่มขึ้นเหมือนกันครับ จากปี 2023 ที่ 244 ล้านบาท เป็น 49 ล้านบาท ในปี 2024 เพิ่มขึ้นมาเป็นเทียบเท่า 11.36% ครับ เคเกอร์ 3 ปีของเรา ก็คืออยู่ที่ 0.51% นะครับ ในส่วนของยอดขาย เอ่อ เรามาดูในช่วง Eda กับ Net Profit ของเรา Eda อยู่ฝั่งซ้ายและ Net Profit อยู่ฝั่งขวานะครับ Eda ของเราเพิ่มขึ้นมาประมาณ 6 ล้านบาท หรือเทียบเท่าเป็น 13.51% จาก 36 ล้านบาท ในปี 2023 ถึง อ่า เป็น 42 ล้านบาท ในปี 2024 ส่วนอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาจาก 23 ล้านบาท ในปี 23 เป็น 28 ล้านบาท ในปี 2024 นะครับ หรือเทียบเท่าเป็น 21.74% มาดูใน ขอโทษทีครับ เอ่อมาดูในส่วนของงบ คอนโซลนะครับ หรือ Financial Performance ที่คอนโซล ทุกกลุ่มบริษัท เอ่อ 3 ปีเคเกอร์เรา ในส่วนของยอดขายจะอยู่ที่ 9.84% นะครับ ทางด้านซ้ายก็จะเห็นรายได้การขายของเราเพิ่มจาก 971 ล้านบาท เป็น 1,072 ล้านบาท ในปี 2024 นะ เทียบเท่าเป็น 10.440% ส่วน GP ก็เพิ่มประมาณ 39 ล้านบาท นะครับ จาก 301 ล้านบาท ในปี 2023 เป็น 340 ล้านบาท ในปี 2024 เอ่อส่วนอัตรา margin ของเราก็อยู่เพิ่มขึ้นจาก 31% ในปีที่แล้ว เป็น 32% นะครับ เอ่อการเติบโตของ GP เราก็เทียบเท่ากับประมาณ 13% ครับ ส่วน STA ที่อยู่มุมขวาก็ เพิ่มขึ้นเช่นกันครับ จาก 185 ล้านบาท เป็น 207 ล้านบาท นะ ครับ หรือเทียบเท่าเป็นอัตราอยู่ที่ 11.89% ในการเติบโตของ STA อันนี้ส่วนใหญ่ก็จะเข้าข่ายไปอยู่ในเอ่อ เงินเดือนของพนักงานนะครับ ส่วน Eda ก็เพิ่มขึ้นจาก 139 ล้านบาท ในปีที่แล้ว เป็น 158 ล้านบาท ในปี 24 ครับ เอ่อเทียบเท่าเป็น 15.33% ครับ แล้วก็ Net Profit เพิ่มจาก 92 ล้านบาท ในปี 23 เป็น 104 ในปี 24 นะครับ หรือเทียบเท่าเป็น 13.04% มาดู Financial Position ของ เอ่อ Year End ในปี 2024 นะครับ ส่วน asset ของเราก็เพิ่มขึ้นจาก 953 ล้านบาท เป็น 1,088 ล้านบาท นะครับ liabilities ก็เพิ่มขึ้นจาก 241 ล้านบาท เป็น 318 ล้านบาท ส่วน SE หรือ Shareholder Equity ก็เพิ่มจาก 712 ล้านบาท เป็น 770 ล้านบาทครับ แล้วก็ retain earnings เพิ่มจาก 266 ล้านบาท เป็น 316 ล้านบาท ในฝั่งขวา เอ่อ ในส่วนของ Financial Ratio นะครับ Unit เป็น measurement เป็นวันนะครับ ก็ จากข้างบนสีเทาก่อนครับ คือ Cash conversion cycle โดยรวมนะครับ ของเราลดจาก 121 วัน เป็น 112 วัน ในส่วนของ AR turnover กับ inventory turnover จะคงอยู่ที่ประมาณ 77-78 วัน แล้วก็ AP turnover เพิ่มขึ้นมาเป็น 43 วันครับ อ่าทางด้าน Debt to Eda แล้วก็ Net Debt to Eda ก็คือเป็นพวก leverage ratio นะครับ อ่า Debt to Eda เราเพิ่มจาก 1.73 เป็น 2.02 จากปี 2023 ถึงปี 24 แล้วก็ Net Debt ก็ยังติดลบอยู่ที่ 0.09 นะครับ To Eda อันนี้เป็น Historical Payment ของ dividen Payment เรานะครับ ตั้งแต่ปี 2017 นะ ฝั่งขวาจนถึง 2024 ในฝั่งซ้ายนะครับ เอ่อ ในปีนี้เราก็คาดว่าจะจ่าย dividen 0.07 บาท ในเดือน 5 ครับ ของปีนี้ เทียบเท่าทั้งหมดก็คือ ทั้งหมดที่จ่ายในปี 2024 ก็จะเป็น 40 ล้านนะครับ ก็คงเท่าเดิม ส่วน Net Profit Year End จากปี 2017 ถึง 2024 นะครับ ก็จะเห็นกราฟ เอ่อขึ้นมา พีคสุดอยู่ประมาณ 2021 ถึง 2021 ในช่วง โควิด ที่ External ขายดี แล้วก็ ดรอป ลงมา ในส่วน recession แล้วก็ ช่วงนี้ก็เรา pick up ขึ้นมาได้อีกครับ ก็ปีที่แล้ว Performance ของเราอยู่ที่ 104.44 อ่า ล้านบาทครับ ส่วน % ROA ปีนี้ก็คงเท่าเดิมกับปีที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 13.42% ครับ ส่วน ROE ก็ เป็นภาพเช่นเดียว เป็นภาพเดียวกัน ก็คืออยู่ที่ประมาณ 14.47 ในปีนี้ เทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 14.15 ครับ Cash and Cash Equivalents ในปลายปี 2024 MGT มีอยู่ที่ 165.46 ล้าน อันนี้รวมทั้งกลุ่มนะครับ แล้วก็อันนี้เป็น เทรนด์ของ Debt to Eda แล้วก็ Net Debt to Eda ของ MGT ครับ ตั้งแต่ 2017 ถึง 2024 ส่วนการลงทุน อันนี้แค่ recap ในส่วน 2023 เลยนะครับ เราก็มีลงทุนเข้าไปในบริษัทชื่อว่า GOS Aerogel Holdings Private Limited แล้วก็ Abio Materials Company Limited นะครับ เอ่อ GOS อยู่ที่สิงคโปร์ Abio อยู่ที่เกาหลี เป็น minority holdings แล้วก็เป็น passive shareholding นะครับ
กลับเข้ามาคำถามนะครับ เดี๋ยว เดี๋ยว ตรงนี้อะนะ ผม ผมเสริม นิดนึงนะ ผมเสริม นิดนึง อ่า ในปีที่แล้วเนี่ยทำไม MGT เรา อ่า มี Profit นะฮะ สูงขึ้นกว่าปี 2023 เนี่ยนะฮะ ใน ในสไลด์หน้า 14 เนี่ย เราบริหารจัดการเรื่องของตัว อ่า AR turnover ดีขึ้นนะครับ inventory ดีขึ้น แล้วก็ นะ การจ่ายให้กับ supplier ก็จ่ายช้าลงนะฮะ อันนั้นก็คือการบริหารจัดการของเรานะครับ ทำให้ยอดอื่นๆ ของเราเนี่ย โดยเฉพาะตัว เอ่อ Net Death เอ่อ อ่า Perda เนี่ยนะฮะ เราค่อนข้างที่จะต่ำลง ก็คือเป็น 0.09 นะครับ 0.09 เพราะฉะนั้นตรงนี้เนี่ย ในปีที่ผ่านมาปี 2024 เนี่ย MGT เราเนี่ยนะ ใช้เรื่องของการบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นบริหารในตัวของ MGT เลย ที่เป็น call เรา นะฮะ แล้วก็บริหารทั้ง customer บริหารทั้ง supplier ว่าการที่จะทำให้ supplier ปกติเราจ่ายเร็วขึ้นเนี่ยทำยังไง ขอให้จ่ายช้าลง อย่างเงี้ยนะครับ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็คือเรื่องของการบริหารจัดการ และอีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า MGT เนี่ยที่เราเข้าใน อ่า เป็นสมาชิกของ MAI ตั้งแต่ปี 2017 มาเนี่ยนะ ปี อ่า 7 ปีนี้เนี่ยเรามีปันผลตลอด เฉลี่ยแล้ว dividen yield เนี่ยนะฮะ ประมาณ 0.10 บาท ต่อแชร์นะ ถ้าเป็นปี ปีนี้นะ ปี 20124 เนี่ยเราจ่าย 2 ครั้งก็คือ interrim dividen ก็คือ นะฮะ จ่ายช่วงวันที่ 5 เดือน 9 ปี 2024 เนี่ยนะครับ 0.03 บาท ต่อแชร์ แล้วก็ year end เนี่ยนะฮะ จ่าย 0.07 บาท ต่อแชร์ นี่ก็คือจะจ่ายในวันที่ 22 เดือน 5 ปี 2025 เนี่ย รวมทั้งหมดถ้าเป็น dividen yield ถ้าราคาหุ้นปัจจุบันนี้ประมาณ 1.7 อ่า 1.72 บาท ต่อแชร์เนี่ยนะฮะ เราก็ได้ dividen yield อยู่ประมาณเกือบ 5.8% เกือบ 6% อันนี้ก็คือของ อ่า MGT นะครับ ทีนี้มาดูว่า อ่า อนาคตของ MGT นี้จะเป็นยังไง เพราะว่าตอนนี้เราจะเห็นแล้วว่าโลกเราเนี่ยนะครับ มันค่อนข้างที่จะผันผวนนะ หลังจากประธานาธิบดี ทรัมป์ประธานาธิบดีคนที่ 147 ของอเมริกาเนี่ยนะ เข้ามา อ่า บริหารประเทศเนี่ยนะครับ ในวันที่ 20 เดือน 1 ปี 2025 เนี่ย ก็คือพูดง่ายๆ ก็คือเดือนกว่าๆ เนี่ยนะครับ ทำให้โลกเนี่ย ทุกวันเนี่ย ตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา จากวันที่ 28 เดือน 2 นะ ไม่กี่อาทิตย์ที่แล้วเนี่ยนะครับ วันศุกร์ที่ผ่านมาเนี่ยนะครับ อ่า ประธานาธิบดี ทรัมป์ เชิญ อ่า ประธานาธิบดีของยูเครนไปคุยเรื่องของว่า การจะเจรจาสงบศึกระหว่างยูเครนกับรัสเซียจะเป็นยังไงนะครับ สุดท้ายนะครับก็เจรจาสัญญา กันไม่ได้ เพราะว่าต่างคนต่างอยากได้ในสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วยนะ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็คือวันที่ 2 เดือน 3 ปีนี้เนี่ย ก็เกิดการประชุมของ ผู้ นำของยุโรปที่ลอนดอนนะว่า จะช่วยยูเครนจะสงบศึกสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนเป็นยังไงบ้าง เพราะฉะนั้นนี่สิ่ง ที่ตามมาน นี่ก็คือ Geopoliticsนะ ทำให้ค่าเงินบาทกับ against กับ US ดอลลาร์นะก็ against กับ สกุลเงินต่างๆ ในในโลกเนี้ยเกิดการผันผวนนะ บาทแข็ง บาทอ่อน เพราะฉะนั้น ตรงนี้เนี่ยก็คือต้องใช้การบริหารจัดการให้ทันกับเวลา หรือก่อนเวลาว่าเราจะดีไซน์ ยังไง เพราะฉะนั้นนี่ MGT เราเนี่ยไม่ได้อยู่นิ่งนะฮะ เราต้องเตรียมตัว ป้องกันนะฮะ ก่อนว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นแล้ววัน วันนี้นะครับ วันนี้ เวลา นะฮะ 0:00 น. กับอีก 1 นาทีของวันนี้ ของอเมริกาในเวลา อเมริกา เนี่ยอเมริกาจะขึ้นภาษีนะของ อ่า ประเทศที่เป็นประเทศนะ พรมแดนติดกัน ก็คือแคนาดากับเม็กซิโกเนี่ย 25% แล้วจะขึ้นจีนอีก นะฮะ 10% เพราะฉะนั้นเนี่ยตรงนี้เนี่ยนะฮะ การค้าการขาย ในโลกเนี้ยมันจะต้องเปลี่ยนแน่นอน โดยเฉพาะประเทศไทยได้ผลกระทบแน่นะฮะ ได้ผลกระทบแน่ โดยเฉพาะเรื่องของตัวสินค้าจากจีน ในเมื่อไปอเมริกาแล้วเนี่ยนะ ต้นทุนมันสูงขึ้นเนี่ยนะฮะ มันจะไปที่ไหนในโลกนี้ล่ะฮะ มันก็มาในประเทศในอาเซียนเรา โดยเฉพาะในประเทศไทยนะครับ ซึ่งสินค้าจากจีนเข้ามาตี นะ ทีนี้ MGT เราเนี่ยเราจะบริหารจัดการคู่ค้าเรายังไงบ้างกับจีน กับอินเดีย กับอาเซียนกับอเมริกาเนี่ย เพราะฉะนั้นตรงนี้ฝ่ายผู้บริหารของเราในทีมของ Management ของ MGT เราไม่ได้นิ่งนอนใจฮะ เราได้เตรียมตัวตลอดเวลา นะครับ เพราะฉะนั้นผมยังเชื่อว่าไอ้ตัว chemical distributor เนี่ยมันยังเป็นหัวใจสำคัญ ในการที่จะทำให้ธุรกิจการ การดำรงชีวิตของของคนทั้งโลกเนี่ย 8,000 กว่าล้านคนเนี่ย มันต้องดำเนินไปด้วยด้วยตัวเคมี เพราะเคมีมันเป็นอะไรฮะ คุณต้องกิน คุณต้องใช้ คุณต้องสวย คุณต้องงาม คุณต้องสุขภาพดีนะฮะ สิ่งนี้แหละครับ มันจะมาจากไหนครับ มันมาจากผู้ผลิต manufacturer มันมาจากผู้ซื้อนะฮะ ก็คือผู้ผลิตเป็น ก็คือเป็นโรงงาน กลับมาเป็นผู้ผลิตสินค้านะครับ ถ้าเพราะฉะนั้น MGT เราเป็นตัวกลาง เป็น distributor MGT เราจะต้องวางแผนยังไงบ้าง นะ ในเมื่ออ่า อดีตกับปัจจุบันกับอนาคตเนี่ยเราจะทำแบบเดิมไม่ได้ เมื่อวานจะทำแบบเมื่อวานนี้ไม่ได้แล้วนะครับ เพราะฉะนั้น MGT เราเป็นตัว ตัวกลางที่จะเชื่อมระหว่างผู้ผลิตนะฮะ Raw material ผู้ผลิตสินค้า หรือ customer นะครับ แล้วก็สังคม สิ่งแวดล้อมตรงนี้ MGT เราต้องบริหารจัดการให้ได้ โดยเฉพาะปีนี้เนี่ยนะ เราเรามี ISO 9000 และใน version 2015 นะ เราจะทำ ISO 14000 เพื่อที่จะไป eco value แล้ว eco value แล้วเราก็ต่อไปตัว ESG เพราะฉะนั้นตรงนี้เนี่ย MGT เราบอกว่าเราจะต้องวางแผนตรงนี้นะ และอีกสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือตอนนี้โลกนะครับ เป็น อ่า เป็นอะไร aging society ประเทศไทยเรานี้คนเกิดนะฮะ น้อยกว่าคนตายนนะครับ เพราะฉะนั้นเนี่ย การที่จะคน คนเกิดน้อยเนี่ยทำยังไง คนเกิดแล้วเนี่ยจะทำให้มี productivity สูงขึ้นเพราะฉะนั้นตรงนี้ MGT เราจะต้องเตรียมตัวยังไง เพราะฉะนั้นผมอยากจะ อ่า ให้กับทาง CFO เนี่ยที่เขาดูแลเรื่องของการวางแผนอ่า ตัว ERP อะไรต่างๆ นี่ผมจะให้คุณวริษฐ์มาเล่าว่าตอนนี้ MGT เราทำยังไงฮะ
ก็ เอ่อ จริงๆ ปีนี้เล่าถึงปีนี้ก่อนแล้วกันครับว่า เรามีแพลน ที่จะลงทุน หรือว่าเรามีแพลน ที่จะดำเนินกิจการยังไง ก็ ในส่วน ERP หรือว่าระบบหลังบ้าน หรือว่า tech infrastructure ของเราเนี่ย เราก็กลับมานั่ง revisit ใหม่ว่า tech stack ของเราเนี่ยมัน ทำ มันดีพอหรือเปล่า ในอนาคต และก็ปัจจุบัน นะฮะ เราตอนนี้เราใช้ระบบ ERP ที่เป็น SAP อยู่ ที่เป็นรุ่นเก่า ECC6 ก็กำลังพิจารณา แล้วก็กำลังขึ้นระบบใหม่อยู่ครับ ที่เป็นระบบชื่อว่า SAP S/4HANA Public Cloud นะครับ เอ่อเรื่องอันนี้มันจะช่วยเรื่องของ productivity ภายในองค์กรครับ แล้วก็เพิ่มมูลค่าในการทำงาน ให้กับองค์กรมากขึ้น เอ่ออย่างอื่นที่เราจะเพิ่มระบบเข้าไปอีกก็คือ เป็นเรื่องของการขาย เพื่อให้ตอบโจทย์ กับธุรกิจในอนาคต แล้วก็ธุรกิจในปัจจุบันที่ ต้องใช้ AI มากขึ้น ต้องใช้ automation มากขึ้น ต้องเพิ่ม productivity ให้พนักงานมากขึ้น เพื่อที่เขาจะได้ส่ง Value add ไปให้กับลูกค้า แล้วก็คู่ค้าของเรามากขึ้นครับ อันอันนี้เป็นส่วนของ IT infrastructure ที่เราจะทำ กันอยู่ ซึ่งปีนี้คาดว่าน่าจะเสร็จทั้งหมดครับ ก็คือเราจะ revamp ระบบใหม่ทั้งหมดภายในปีนี้ ส่วนปี ถัดๆ ไปเราก็ต้องมานั่งศึกษากันแล้วว่า AI มันเข้ามาช่วยอะไรกับบริษัทเราได้บ้าง ซึ่งตอนนี้ยังไงทุกคนก็พูดอยู่แล้ว Buss Password หรือคีย์เวิร์ดของปีที่แล้ว 2 ปีที่แล้วก็คือ AI แต่ Use case จริงๆ แล้วมันอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ ในธุรกิจ B2B ขนาดนั้น แต่ตอนนี้ที่เรา พอ พอ มองเห็นภาพกระจ่างแล้วว่า AI เนี่ยมันเป็นสิ่งที่สำคัญ และสิ่งที่ทุก บริษัทต้องมี เราก็เลยมานั่งศึกษาอันนี้ต่อไปครับ ก็คิดว่าจะมีวาง ผัง AI ไว้บ้างในในการทำงานมากขึ้น ในปีนี้ ปีหน้า นะครับ ส่วนการลงทุนอื่นๆ เนี่ยเราก็ยังคงมี ดูบ้างอยู่ว่าเราจะลงทุนในส่วนไหนของกิจการใหม่ ดี ไอ้ส่วน อ่า Megajuji graphite ก็ยังเป็น work in process อยู่ของเรา ที่เรากำลังลงทุนอยู่ เพื่อที่จะ สตาร์ทอัพให้ได้ว่า จะผลิต อ่า expandble graphite ขาย ออกไปต่างประเทศ เป็น export ออกนะครับ อันนี้ก็เป็นอีก channel หนึ่งที่เรากำลังดู เอ่อ และกำลัง ลงทุนอยู่และ คาดว่าไม่ปีนี้ ปีหน้าน่าจะเสร็จได้ครับ ส่วน เอ่อ Distributor เราก็ยังมองเห็นโอกาสใน Market ที่ แตกแยก หมายถึงมัน fragmented มากคือ ผมคิดว่าเราสามารถเพิ่ม Market Share ของเราได้อีก ในปีหน้า 2 ปีหน้าอย่าง เงี้ยก็กำลังดูอยู่ว่า distributor กลุ่มไหน เราคิดว่าจะเหมาะสมในการ เพิ่ม ธุรกิจ เข้า เข้ามาในกลุ่ม MGT ได้ครับ
ครับ และก็ ก็มีแค่นี้นะฮะ ใน อ่า ข้อมูลของ MGT นะครับ อ่าต่อไปก็เป็นช่วงของตัว อ่า คำถามคำตอบนะครับ
[เริ่มช่วงถาม-ตอบ นาทีที่ 53:38]
เอ่อ คำถามบอกว่า ช่วยรบกวนช่วยอัปเดต อ่า โปรเจค Fuji อ่า Mega Fuji Graphite และโปรเจค เข้าลงทุน อ่า Food Biotech หน่อยครับ อ่า Mega Fuji Graphite เนี่ยนะ ตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายอ่ะนะฮะ ที่เรา เราได้ข้อสรุปแล้วว่าเราจะซื้อ reactor แบบไหน เพราะว่า reactor ตรงนี้เนี่ยมันเป็น อ่า acid เป็นกรดค่อนข้างจะเข้มข้นระดับ ph 1 เนี่ย ph ต่ำเนี่ยนะครับ เพราะฉะนั้นเนี่ย การซื้อ reactor เนี่ยมันต้องเทสแล้วเทสอีกนะครับ เพราะฉะนั้นเนี่ยเราได้มาจากของอินเดียนะครับ ที่เป็นเจ้าเป็น เป็น worldwide ตรงเนี้ยนะครับ แล้วก็ process อื่นๆ ขึ้นมา คิดว่าตรงนี้เนี่ยเราน่าจะติดตั้งเครื่อง เนี่ยภายในเดือน 9 นะ เดือน 9 เดือน 10 และเสร็จแล้ว เสร็จแล้วเสร็จเนี่ย ภายในเดือน 10 นะฮะ เดือน 11 แล้วก็จะเริ่ม test run ไป เพราะฉะนั้นตรงนี้เนี่ย expandable Graphite เนี่ยเรามีลูกค้าจองไว้ม หมัดพร้อมที่จะซื้อได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางด้านญี่ปุ่นนะ ที่เป็นตลาดเจ้าใหญ่ แล้วก็ตลาดทางยุโรป โดยเฉพาะเยอรมันนะครับ อันนี้ ตอนนี้เริ่มจะเป็น final แล้วนะครับ มันเป็น final แล้ว ของ Mega Fuji Graphite นะครับ ส่วนของ อ่า Food Biotech ตรงนี้นะ อยากจะให้ทาง CFO เรายังไม่ได้มีการเข้าลงทุนใน Food Biotech โดย uh เทคนิคly นะครับ uh ตอนแรกที่เราบอกว่าเราดูอยู่ตอนนั้น uh ยังมอง คิด uh เห็นว่ามันอาจจะยังไม่ใช่เวลาที่ เหมาะสมที่เราเข้าไปลงทุนใน Food Biotech ครับ จากปีที่แล้ว ปีนี้ในเมื่อสถานการณ์เรายังดูว่ายังไม่แน่นอน ยังยังไม่เคลียร์พอว่า uh market situation จะเป็นยังไง อันนี้ก็ยังจะพักไว้ก่อนครับ เราจะมาโฟกัสทางด้าน infrastructure ภายใน core business ของเรามากกว่าครับ
คำถามข้อต่อไป รบกวนอัปเดต Outlook ปี 2025 หน่อยครับ ปี 2025 เราก็ยังคงเป้าไว้เหมือนเดิม นะถึงแม้นว่าสถานการณ์ของโลกเนี่ยนะฮะ มันยังค่อนข้างที่จะ sensitive นะฮะ อ่อนไหวง่ายนะครับ แต่ อย่าลืมว่าที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น crisis ปี เอ่อ 20 20 อ่ะ 1997 นะครับ เอ่อ จุล 2 วันที่ 2 นะ 2 200997 ต้มยำกุ้งนะ hamburger crisis 20 uh 08 นะ ฮะ หรือ อื่นๆ ตรงนี้ขึ้นมาเรา MGT เนี่ยเรามีความถนัดในเรื่องของตัววิกฤตเป็นโอกาสอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ในปี 2025 เนี่ยเราคิดว่าเราน่าจะไปได้ตามที่แพลนเราไว้ โดยเฉพาะผลประกอบการในเดือน 1 ปีนี้ ก็เป็นไปตามเป้าที่เราวางไว้นะ เป็นไปตามเป้าที่เราวางไว้ก็คือว่า อ่า ปีนี้เราบอกว่านะ ยอดขายเราที่เรา อ่า อ่า นำเสนอให้กับ Public ก็คือ uh 1 ประมาณโตจากปีที่แล้วประมาณ 20% นะ NP ก็โต โต โตกว่าปีที่แล้ว เท่าปีที่แล้วเนี่ยนะ ปี 2024 เนี่ย MP เรา อ่า 1 104 ล้าน บาทนะ ฮะ เราคิดว่าเราก็จะโตประมาณ 19% 20% ตรงนี้นะครับ อันนี้ก็คือเรื่องของตัว Outlook ในปี 20 025 นะครับ เพราะว่าปีนี้เนี่ยนะฮะ เรา Organic เราจะไม่ gross เพราะว่าเราจะ backup อย่าง CFO ท่านบอกแล้วว่า จาก เตรียมพร้อมสำหรับการเจริญเติบโตในอนาคตนะ เพราะฉะนั้นเราวางแผนตรงนี้ไว้ แล้วก็เราจะ อ่า ปีนี้เราจะเน้นเรื่องของตัว Organic growth เรา ก็คือเรื่องของ sector ต่างๆ ที่ ที่ลูกค้าเราโตนะ แล้วก็สิ่งสำคัญที่สุดที่ เป็นจุดแข็งของ MGT คืออะไรครับ ลูกค้าเนี่ยนะฮะ รายเล็กๆ เนี่ยตอนนี้เนี่ยค่อนข้างที่จะมีปัญหาเรื่องของ อ่า การผลิต เรื่องการขาย เรื่องของ Finance แต่โชคดีที่ MGT เรามีลูกค้ารายใหญ่ๆ นะ ที่ อ่า ต้องการให้เราเนี่ย เสิร์ฟเขาได้ จาก ที่ผ่านมา เสิร์ฟหลาย เอ่อ อ่า ไม่กี่ไอเทม ตอนนี้หลาย items ขึ้นมาเนี่ยนะครับ เพราะว่าเราต้องการ 1 ก็คือลูกค้าต้องการมีความมั่นใจว่านะฮะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาเนี่ย เขาต้องมีสินค้า Support ให้ เพราะว่าเรามี อ่า เครือข่ายของเรา ไม่ว่าจะเป็นที่ โดยเฉพาะสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทยเนี่ยนะ เวลาสินค้าของแต่ละประเทศที่มีปัญหาขึ้นอยู่ เราก็เช็คกับอ่า ประเทศนั้นมา แทนที่จะมาจากเรืออาจจะมาช้าหน่อย เราก็จะมาทางรถยนต์ก็ได้ หรือรถไฟก็ได้ซัก มาจากมาเลเซีย เพราะฉะนั้น นี่ตรงนี้นะครับ เป็นช่องหนึ่งที่ลูกค้าให้ความสนใจเรา เพราะฉะนั้น เป้าในปี 2025 เรายังวางไว้เหมือนเดิมนะ ไม่ว่าจะเป็นยอดขายนะฮะ หรือกำไร NP ครับนะ ครับ ส่วนเรื่องอัปเดต 2 โปรเจคที่เราเข้าไปลงทุนนะครับ เอ่อเริ่มด้วย GOS ก่อนก็ได้ครับ ตอนแรกที่เราบอกว่าเขาจะผลิตเป็น thermal plate ที่ จะใส่เข้าไปในเอ่อ รถยนต์ไฟฟ้า ที่เป็น battery Electric Vehicles นะครับ ตอนนี้เริ่มเปลี่ยน Business Model แล้วครับ ก็จากที่จะเป็น เทียร์ 1 supplier ให้กับ OEM เอ่อ ผู้ผลิตรถยนต์ ก็จะเป็นเทียร์ 2 แทน ก็คือผลิตแต่ผงอย่างเดียว ตอนนี้กำลังมีเจรจากันอยู่เรื่องของ joint venture แล้วก็เรื่องของ long term supply agreement กับเอ่อ เทียร์ 1 ที่ อยู่ ในหลายๆ ประเทศ อย่าง นะครับ เอ่อคาดว่าจะมีการอัปเดต อีกทีในช่วงกลาง ปลาย ปี กลางปีครับ ก็ เดี๋ยวต้องรอดูกันไปต่อครับ แต่แนวโน้มก็ถือว่ายังโอเคอยู่ครับ ส่วน A BIO ที่ผลิต exosomes นะครับ ที่เกาหลีก็ ปีที่แล้วก็ออก งบ มา โต อยู่ครับ ในยอดขาย แล้วก็ปีนี้ก็คาดว่าจะต้องโตอีกในฝั่งอเมริกา เพราะว่าพึ่งตี ตลาดอเมริกา ได้ ในปลายปีที่แล้วครับ พึ่งมีออเดอร์อย่างแต่ ตอนนี้เราก็กำลังรอดูอยู่เหมือนกันครับว่า เอ่อแนวโน้มสถานการณ์ของระหว่างเกาหลีอเมริกา หรือว่า ในแต่ละประเทศที่เขาส่งออก ที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในตะวันออกกลาง หรือว่าภายในประเทศเอง ที่เป็นเกาหลีเนี่ยครับว่า สถานการณ์ตลาดของเขาจะเป็นยังไง และการเติบโตในส่วนของความสวยความงามในคลินิกเนี่ยจะเป็นยังไงต่อไป ซึ่งคาดว่า ก็น่าจะโตอีกนะครับปีนี้ ส่วนเป้าปี 2025 ที่พึ่งกล่าวไปก็คือ เราน่าจะ เราตั้งเป้าไว้ที่ยอดขายอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ครับ แยกออกมาจริงๆ ก็มี หลักๆ MegaChem ก็โตอยู่ประมาณซัก 15% Green Leaf น่าจะโตได้ประมาณ 30% นะครับ แล้วก็ Plus น่าจะคงไว้ อยู่ที่เดิมหรือว่าโตประมาณสัก 10% ครับ uh อันนี้ครับ ทั้งหมดทั้งมวล นี่คือยอดขาย ส่วนกำไรเนี่ย เราดูไว้ว่า เราน่าจะโตประมาณ 10% ครับ
ต่อไปขอบคุณผู้บริหารที่อัปเดต ใน Off Day ทุกไตรมาสครับ ขอบคุณครับ เราก็จะทำทุกๆ ทุกไตรมาสนะฮะ สำหรับตัว of date จะได้ให้ อ่า สื่อกับ อ่า นักลงทุนว่าตอนนี้ทาง MGT นะ เราทำอะไรบ้างแล้วเราไปถึงไหนนะ เป็นยังไงบ้างนะครับ ครับผม คำถามต่อไปมีแผนการลงทุน chemical provider ที่เวียดนาม หรือต่างประเทศ อ่า หรือในอาเซียน มั้ยครับตรงนี้ก็ตอน นี้เราเราก็ต้องศึกษาอยู่นะครับ แต่ว่าเราช่วงนี้เนี่ยเราต้อง keep cash ไว้ นะครับ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม ถ้ามันมีโอกาสเราก็ถือว่าเราก็ลงทุน เพราะเรายังมีเงินอยู่ครับ เอ่อ เรื่องของการ ที่ที่จะไปลงทุนต่างประเทศนะครับ ในในส่วนของการ distribute เคมีเนี่ยครับ ผมคิดว่า ถ้า call เรา ในประเทศไทยแข็งแรงพอ Market Share เราเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย ผม ผมคิดว่าอาจจะมีโอกาสลองศึกษาดูได้ครับ แต่ตอนนี้ถ้าคอร์เรายัง ในโอกาสในเมืองไทยเนี่ย มันยังมีเยอะ กว่าประเทศอื่นเยอะ ยังไม่อยากจะกระจายให้มันจาง ให้ ให้ความสามารถเราเนี่ยออกไป โฟกัสที่อื่นเนี่ย ผมคิดว่าในประเทศไทยเนี่ยยังมีโอกาสอีกเยอะที่จะโตครับ
ต่อไป ขอบคุณที่ช่วยอัปเดต 2 โปรเจค และเป็นกำลังใจให้ผู้บริหารสละเวลามาอัปเดต ใน Off Day ขอบคุณครับ คำถามหมดแล้วนะฮะ มีอะไรอีกมั้ยครับ ถ้าไม่มีก็ต้องขอขอบคุณท่าน อ่า ผู้ชม ผู้ฟังนะ ทางบ้านที่รับฟัง Off Day ของ MGT ในวันที่ 4 เดือน 3 ปี 2025 นะ ครับ ใน ในในฐานะที่เป็น CEO นะฮะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท MGT ผม อ่า ยืนยันว่าเราจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราจะทำนะฮะ ให้บริษัทนะฮะ อ่า เจริญก้าวหน้าเพื่อนะ ผลตอบแทนมาสู่นักลงทุนทุกๆ คนครับ แล้วก็สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากนักลงทุน ไว้ว่า MGT เราเนี่ยเราค่อนข้างที่จะยังไงท่านดูได้เลยว่าหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่นะฮะ โดยเฉพาะ 2 เจ้าเนี่ยหรือ 3 เจ้าที่เป็น Top 3 Top 4 เนี่ยนะครับ เราตั้งแต่วันแรกคือวันที่ อ่า 23 เดือน 2 ปี 2017 จนถึงปัจจุบันแล้วนี้เนี่ยเราหุ้นเรายังเหมือนเดิมอยู่เลยเรา ไม่มีการขายออกนะฮะ แต่ ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามถ้ามันมีโอกาสถ้าหุ้นมันมันดี เราอาจจะให้เราไปซื้อ นี่ก็ ก็เราก็จะยินดีตรงนี้ เราก็ consider อยู่ตรงนี้นะ ก็ฝากนักลงทุนได้ว่านะครับ เราทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วเราจะทำให้ MGT นี้โตนะฮะ และก็ยั่งยืนต่อไปครับ ขอให้ให้นักลงทุนมั่นใจในทีมของผู้บริหารชุดนี้ครับ ขอบคุณมากครับ โชคดีครับ สวัสดีครับ
**สรุป:** บริษัท Megachem (MGT) ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในปี 2025 แม้ว่าสถานการณ์โลกจะยังผันผวนอยู่ โดยเน้นการบริหารจัดการภายในองค์กร การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความเชื่อมั่นและความยั่งยืนให้กับนักลงทุน โดยการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอและไม่มีการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่